June 2, 2021
Motortrivia Team (10167 articles)

Bentley ฉลอง 75 ปี ศูนย์กลางการผลิตยนตรกรรมหรู ณ เมืองครูว์

ประชาสัมพันธ์

●   เบนท์ลีย์ มอเตอร์สฉลอง 75 ปีแห่งการเป็นศูนย์กลางการผลิตอัครยนตรกรรมหรู ณ เมืองครูว์ สหราชอาณาจักร โดยมีอัครยนตรกรรมในตำนานอย่าง รถยนต์เบนท์ลีย์รุ่น Mk 5 (Mk V) อัครยนตรกรรมรุ่นสุดท้ายที่ผลิต ณ เมืองดาร์บี ก่อนที่จะเริ่มฐานการผลิตใหม่ ณ เมืองครูว์ ในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2489 ซึ่งได้เผยโฉมเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้บริเวณหน้า โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ฐานการผลิตอัครยนตรกรรมรุ่นปัจจุบันของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส

●   ช่วง 75 ปีที่ผ่านมา อัครยนตรกรรมหรูจำนวนกว่า 197,086 คัน หรือคิดเป็น 97% ของสายการผลิตทั้งหมดของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ได้ถูกประกอบด้วยแรงงานของช่างฝีมือชั้นยอด กลายเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่สำคัญ โดยมีอัครยนตรกรรมกว่า 38,933 คันถูกประกอบก่อนหน้าโมเดลในยุคปัจจุบันอย่าง คอนติเนนทัล จีที (Continental GT) และ เบนเทก้า (Bentayga) ที่เปิดตัวไปในช่วงที่ผ่านมา

●   โดยประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่า 84% ของอัครยนตรกรรมที่ประกอบขึ้นทั้งหมด ณ เมืองครูว์ เพื่อจำหน่ายในสหราชอาณาจักรนั้นยังคงโลดแล่นอยู่บนท้องถนนจนถึงทุกวันนี้ และจำนวนที่ยังคงเพิ่มมากขึ้น ด้วยศักยภาพในการผลิตของเบนท์ลีย์ มอเตอร์สที่ผลิตอัครยนตรกรรมกว่า 85 ต่อวัน เทียบเท่ากับปริมาณการผลิตในหนึ่งเดือนเมื่อ 2 ทศวรรษที่แล้ว

●   มร. ปีเตอร์ บอส์ช หนึ่งในคณะกรรมการด้านการผลิต เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวว่า “กว่า 75 ปี ที่ฐานการผลิต ณ เมืองครูว์ได้นิยามการผลิตอัครยนตรกรรมหรู ให้เป็นที่ประจักษ์ถึงงานฝีมือและคุณภาพชั้นเยี่ยม ณ ช่วงเวลานั้น ช่างฝีมือของเราได้ประกอบอัครยนตรกรรมที่โด่งดังและเป็นที่ต้องการมากที่สุดอย่าง ราชพาหนะที่ใช้ในราชสำนักทั่วโลกและรุ่นที่ออกแบบเฉพาะกิจ”

  “เหนือสิ่งอื่นใด ผมต้องขอยกความดีความชอบให้กับทีมงานช่างฝีมือที่เมืองครูว์ทุกท่าน และผมขอขอบคุณสำหรับความเสียสละและความทุ่มเทของพวกเขากว่า 30 ปีที่ผ่านมา แผนการลงทุนล่าสุดของพวกเราได้เปลี่ยนแปลงโรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์สไปสู่ฐานการผลิตในแบบบูรณาการที่ทันสมัย โดยประกอบไปด้วย มาตรการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นวัตกรรมการผลิต และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของเราต่อไปอีกในอนาคตข้างหน้า ในส่วนงานอื่นๆของโรงงานฯ เราได้มีการนำระบบการผลิตแบบดิจิทัลที่ทันสมัยเข้ามาใช้เพื่อทดแทนแรงงานด้านงานฝีมือแบบดั้งเดิมที่ใช้ในสายการผลิตมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486”

●   “ณ ตอนนี้ เรากำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้กลับมาต้อนรับลูกค้าของเราสู่โรงงานฯ ณ เมืองครูว์เพื่อมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับทีมงานของเราอีกครั้ง”

●   ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2462 เมืองครูว์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวของการผลิตอัครยนตรกรรมหรูเมื่อปี พ.ศ. 2481 บริเวณ ถนน พิมส์ เลน (Pyms Lane) ซึ่งได้เปลี่ยนจากไร่ปลูกมันเป็นฐานการผลิตหลักของเครื่องยนต์เครื่องบินรุ่น เมอร์ลิน (Merlin) ซึ่งถือเป็นกำลังหลักในช่วงยุคสงคราม เนื่องจากเหตุผลทางด้านการคมนาคมและการเป็นแหล่งการจ้างงานของช่างฝีมือ ซึ่งฐานการผลิตที่เมืองครูว์จึงได้มีการจ้างงานกว่า 10,000 คน ในช่วงปี พ.ศ. 2486

●   เมื่อสายการผลิตรถยนต์สิ้นสุดลงในช่วงยุคสงคราม ฐานการผลิตเดิม ณ เมืองดาร์บี (Derby) จึงได้เริ่มผลิตเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ตในปี พ.ศ. 2489 หลังจากนั้น จึงมีการหาพื้นที่ใหม่และให้พนักงานยังคงได้ฝึกฝนเทคนิคที่จำเป็นในการผลิตรถยนต์ อาทิ การทำสี การเตรียมการเพื่อการป้องกันการสึกกร่อน งานไม้ และงานตัวถังรถ

●   รถยนต์เบนท์ลีย์รุ่น Mk 6 (Mk VI) ได้กลายเป็นรถยนต์เบนท์ลีย์คันแรกที่ขั้นตอนการประกอบทั้งหมดดำเนินการที่โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ และเป็นรถยนต์คันแรกที่ตัวถังของรถประกอบด้วยเหล็กเป็นมาตรฐาน เครื่องยนต์ขนาด 4.3 ลิตร 6 เครื่องยนต์ซึ่งถูกประกอบเข้ากับตัวถังในช่วงเปิดตัวได้ถูกอัปเกรดเป็นเครื่องยนต์ขนาด 4.6 ลิตร ในปี พ.ศ. 2494 โดย รถยนต์เบนท์ลีย์รุ่น Mk 6 (Mk VI) ได้ถือเป็นสัญลักษณ์ของการถือกำเนิดของสายการผลิตอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ในยุคใหม่และถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มียอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์

●   อัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ที่โดดเด่นอีกหลายรุ่นที่ผลิตตามออกมา ณ โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ไม่ว่าจะเป็น รุ่น อาร์-ไทป์ คอนติเนนทัล (R-Type Continental) รุ่น เทอร์โบ อาร์ (Turbo R) รุ่น อาร์นาจ (Arnage) และ รุ่น อาเซอร์ (Azure)

●   ทราบกันดีว่า ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับโรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ในปี พ.ศ. 2541 ตามมาด้วยการควบรวมกิจการของ โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป (Volkswagen Group) ซึ่ง ทาง โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป (Volkswagen Group) ก็ได้ลงทุนอย่างมหาศาลในการปรับปรุงโรงงานฯ และเปลี่ยนผ่านสู่โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน ผลิกหน้าประวัติศาสตร์สู่ยุครุ่งเรืองของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส

Bentley R-Type Continental

●   พิมส์ เลน (Pyms Lane) ยังคงเป็นศูนย์กลางของโรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ตั้งแต่ก่อตั้งโรงงานฯ ในปี พ.ศ. 2481 ที่ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์รักษ์โลก และผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จ

Bentley Turbo R

●   อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เบนท์ลีย์ มอเตอร์จะเปิดตัวอาคารศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Building) และศูนย์ทดสอบทางด้านวิศวกรรมยานยนต์ (Engineering Test Centre) ซึ่งทั้งสองแห่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนแผนงานของเบนท์ลีย์ มอเตอร์สสู่การผลิตอัครยนตรกรรมไฟฟ้า

●   แผนงานที่เบนท์ลีย์ มอเตอร์สกำลังดำเนินการสำหรับสายการผลิตคือส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Beyond100” ซึ่งเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูรักษ์โลกแบบเต็มรูปแบบภายในปี พ.ศ. 2573 พร้อมกับมาตรการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงงานฯ เมืองครูว์ หลังจากนั้น

●   เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เตรียมมุ่งสู่ผู้ผลิตอัครยนตรกรรมไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ (PHEV & BEV) ภายในปี พ.ศ. 2569 หลังจากนั้น อัครยนตรกรรมของเบนท์ลีย์จะเปลี่ยนสู่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ภายในปี พ.ศ. 2573 กลยุทธ์ “Beyond100” จะผลิกโฉมเบนท์ลีย์ในทุกมิติ เพื่อเตรียมมุ่งสู่ศตวรรษที่สองของผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูชั้นนำของโลก

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เบนท์ลีย์ ในประเทศไทย ติดต่อเบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร. 02-261-1050 เว็บไซท์ bangkok.bentleymotors.com

Tags Bentley