August 9, 2021
Motortrivia Team (10022 articles)

ชมคันจริง 2021 S-Class และ GLA รุ่นใหม่ 200 Progressive

วีดิโอ : นาธัส แสงสุริยะ

●   หลังเริ่มเปิดจอง และ เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ (ออนไลน์) เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ก็เปิดโอกาสให้สื่อฯ เข้าไปชมคันจริงของ Mercedes-Benz S-Class รุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 7 โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนเพื่อจองรถได้ที่ดีลเลอร์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

●   มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ (Roland Folger) ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะให้ทุกคนได้พบกับ The new S-Class รถยนต์ที่ดีที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน ทั้งยังเป็นรถยนต์หรูที่ขายดีที่สุดทั้งในตลาดโลกและในตลาดไทย”

●   “สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสคลาส รุ่นใหม่นี้ เรามีความภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอรถยนต์ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นที่สุด ทั้งในเรื่องความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ภายใต้การผนวกเอานวัตกรรมยานยนต์สุดล้ำหน้าที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้ มาถ่ายทอดผ่านทุกรายละเอียดของการออกแบบ โดยเฉพาะประสบการณ์การเชื่อมต่อบนรถยนต์ผ่านอินเทอร์เน็ตไร้สาย ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ จับมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 4G LTE ในประเทศไทยโดยเฉพาะ จึงช่วยให้ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น ที่จะสามารถเปิดรับประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นที่สุดในแบบของรถยนต์รุ่นเอสคลาสได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ The new S-Class สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และทำการจองรถยนต์กับผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้”

●   S-Class ใหม่แยกจำหน่ายเป็น 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย Mercedes-Benz S 350 d Exclusive ราคา 6,690,000 บาท และ Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium ราคา 7,190,000 บาท

●   ทั้งคู่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง ความจุ 2,925 ซีซี. อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแบบ 2-stage ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC กำลังสูงสุด 286 แรงม้า ที่ 3,400 – 4,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 61.1 กก.-ม. ที่ 1,200 – 3,200 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

เปิดจอง GLA รุ่นย่อยใหม่ 200 Progressive

●   หลังเปิดตัวรุ่นสมรรถนะสูง Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ก็เพิ่ม GLA เวอร์ชั่นพื้นฐานรุ่นย่อยใหม่ Mercedes-Benz GLA 200 Progressive ต่อจาก GLA 200 AMG Dynamic ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

●   มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ (Roland Folger) ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หลังการเปิดตัวรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น GLA 200 AMG Dynamic ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาและได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงพร้อมขยายพอร์ตโฟลิโอของรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คเอสยูวีต่อเนื่องด้วย Mercedes-Benz GLA 200 Progressive ยนตรกรรมรุ่นใหม่ที่ผสานความหรูหราเข้ากับดีไซน์สปอร์ตได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะการตกแต่งภายนอกและภายในแบบ Progressive ที่มีความโดดเด่น ตอบรับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการรถยนต์เอสยูวีที่มีความอเนกประสงค์ทว่าในขนาดแบบคอมแพ็คเหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบัน”

●   “ทั้งนี้ เซกเมนต์รถยนต์เอสยูวียังคงเป็นเซกเมนต์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเมอร์เซเดส-เบนซ์ในฐานะผู้นำในตลาดรถยนต์ลักชัวรีก็พร้อมที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมทั้งแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ สำหรับเซกเมนต์นี้ เพื่อให้เป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบรับความต้องการของผู้ใช้รถได้อย่างตรงใจ”

●   GLA 200 Progressive เป็นรถในกลุ่ม SUV ขนาดคอมแพคท์ที่ใช้งานได้ทั้งในเมือง, เดินทางไกล หรือออฟ-โรดเบาๆ โดยรวมตัวถังจะสั้นลงเล็กน้อย ทว่าห้องโดยสารจะมีพื้นที่กว้างขึ้นจากความสูงของตัวถังที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,605 มม. (1,610 มม. เมื่อรวมราวหลังคา) เพิ่มขึ้น +10 ซม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ยังผลให้ผู้โดยสารแถวหน้ามีพื้นที่เหนือศีรษะมากขึ้น ส่วนผู้โดยสารแถวหลังจะมีพื้นที่วางขากว้างขึ้น

●   ไฟท้ายแบ่งออกเป็น 2 ส่วนในแต่ละฝั่ง พร้อมปรับตำแหน่งทับทิมสะท้อนแสงมาไว้ที่บริเวณกันชนท้าย ช่วยให้ประตูด้านหลังสามารถเปิดได้กว้างขึ้น จัดเก็บสัมภาระได้ง่ายขึ้น พื้นที่บรรทุกสัมภาระมีความจุ 435 – 1,430 ลิตร เพิ่มขึ้น +14 ลิตร

●   อุปกรณ์มาตรฐานมากับแพคเกจตกแต่ง Progressive พร้อมชุดแต่งโครเมียมรอบคัน, ชุดไฟหน้าแบบ LED High Performance, ล้อลายใหม่แบบ 5 ก้านคู่ขนาด 18 นิ้ว สีเงินสลับดำ

●   ห้องโดยสารตกแต่งใหม่แบบสปอร์ตด้วยชุดแต่ง Progressive interior package อาทิ วัสดุตกแต่งที่ออกแบบเป็นพิเศษเป็นลวดลาย 3 มิติแบบ Spiral-look trim, เบาะหนัง ARTICO สีดำ เดินด้ายสีเงินตลอดทั้งคัน เบาะแถว 2 มีปุ่มควบคุมการพับเบาะที่สามารถปรับ/พับได้แบบ 40:20:40

●   อุปกรณ์มาตรฐานมีจอดูอัลสกรีน ควบรวมไว้ในกรอบเดียวกัน แยกเป็นมาตรวัดฟูลดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว และจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ขนาด 10.25 นิ้ว ผู้ขับสามารถควบคุมได้ผ่านหน้าจอหรือ Touchpad แบบใหม่บนคอนโซลกลาง, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง เสริมสะดวกด้วยชุดระบบ Mercedes me connect ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับผู้จำหน่ายได้ตลอดเวลาผ่านระบบ MBUX

Mercedes me connect

●   ทั้งนี้ ระบบ MBUX นับเป็นระบบมัลติมีเดียรุ่นใหม่ล่าสุดที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้ขับและผู้โดยสารมีความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม ตัวระบบสามารถเรียนรู้ลักษณะเฉพาะตัวของเจ้าของรถผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และยังมีฟังก์ชันใหม่ๆ อาทิ Personal profiles ช่วยจดจำข้อมูลของผู้ขับ เช่น ลักษณะการปรับเบาะ, สีไฟในห้องโดยสารที่ชอบ, สถานที่ที่ไปเป็นประจำ ฯลฯ โดยสามารถจดจำข้อมูลของผู้ขับได้ 22 โปรไฟล์

●   และยังมีฟังก์ชั่น Linguatronic ระบบสั่งการด้วยเสียงที่รองรับภาษาอังกฤษ, ภาษาเยอรมัน และภาษาฝรั่งเศส แบบทุกสำเนียงทั่วโลก (natural speech recognition) โดยระบบนี้สามารถรับรู้และเข้าใจเกือบทุกคำที่ปรากฏอยู่ในระบบอินโฟเทนเมนท์ของรถ ผู้ขับขี่สามารถเปิดระบบได้ด้วยคำสั่งเสียง “Hey, Mercedes”

●   ฟังก์ชันและบริการของ Mercedes me connect ซึ่งสามารถใช้งานได้ผ่านแอพฯ บนสมาร์ทโฟน มีอาทิ:

●   (1) Mercedes-Benz emergency call system : ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและถุงลมนิรภัยทำงาน เซ็นเซอร์ของระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมส่งตำแหน่งของรถยนต์ให้กับศูนย์ช่วยเหลือทันที (2) Vehicle Monitoring : สามารถเช็คตำแหน่งล่าสุดหรือเส้นทางการขับได้ผ่านแอพฯ Mercedes me connect (3) Vehicle Set-up : สามารถตรวจสอบสภาพรถได้จากระยะไกล โดยเซ็นเซอร์ที่อยู่ในรถจะตรวจสอบสภาพของรถในขณะนั้น และส่งข้อมูลผ่านแอพฯ ให้ทั้งผู้ขับและศูนย์ซ่อมบำรุง ช่วยให้สามารถเปิดดูรายละเอียดข้อมูลสถานะต่างๆ ได้

●   ต่อด้วย (4) Maintenance Management : ช่วยเตือนเมื่อถึงเวลานำรถเข้าตรวจสภาพ โดยระบบจะตั้ง วัน / เวลา เข้ารับบริการในครั้งต่อไปให้โดยอัตโนมัติ ปิดท้ายด้วย (6) Online Booking : ฟังก์ชั่นสำหรับนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการต่างๆ ผ่านแอพฯ Mercedes Me Service

●   ชุดระบบความปลอดภัยมีอาทิ ระบบ Active Brake Assist ช่วยเบรคแบบแอคทีฟ, ระบบ Active Parking Assist ช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Reversing Camera ใช้กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ เป็นต้น

●   GLA 200 Progressive ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1,332 ซีซี. เทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 จังหวะ กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 25.4 กก.-ม. ที่ 1,620 – 4,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 8.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 16.6 – 17.5 กม./ลิตร รองรับการใช้งานแก๊สโซฮอล์ E85

●   เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดราคาจำหน่าย Mercedes-Benz GLA 200 Progressive ที่ 2,199,000 บาท ครับ

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ : facebook.com/MercedesBenzThailand


Preview : 2021 Mercedes-Benz S-Class

Preview : 2021 Mercedes-Benz GLA 200 Progressive