Xiaomi ระดมทีม Dev พัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ L4
เรื่อง : AREA 54
● หลังจากร่วมงานกับ Besturn นำผู้ช่วยเสมือน (Virtual assistant) XiaoAI (เสี่ยวอ้าย) ไปใช้งานในระบบอินโฟเทนเมนท์ของ Besturn/Bestune T77 ล่าสุดเว็บไซท์จากประเทศจีน caixinglobal.com มีรายงานว่า เสี่ยวมี่เตรียมพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 4 เองแบบอิน-เฮาส์ โดยทำการว่าจ้างทีมนักนักพัฒนาชุดใหม่ถึง 500 คน
● ในเบื้องต้นนักพัฒนาเหล่านี้จะทำงานร่วมกันที่สำนักงานใหญ่ในเขตไห่เดี้ยน ปักกิ่ง หน้าที่หลักคือการพัฒนาอัลกอริธึ่มเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของฮาร์ดแวร์ต่างๆ ในชุดระบบ อาทิ เทคโนโลยีประมวลผลภาพด้วยคลื่นมิลลิเมตร (Millimeter-wave imaging), ระบบกะระยะและตรวจจับวัตถุต่างๆ รอบตัวรถแบบความแม่นยำสูง (High-precision mapping) ที่ทำงานแบบรีลไทม์ หรือการเพิ่มความสามารถของ AI ในการเรียนรู้ทั้งแบบเลียนแบบ (Imitation learning) และเชิงลึก (Deep learning) เพื่อให้ระบบสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ซับซ้อนในแต่ละสถานการณ์ได้เหมาะสมยิ่งขึ้น
Lei Jun ผู้ก่อตั้งและ CEO แบรนด์ Xiaomi
● ปัจจุบัน ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบ 100% เต็ม (Fully autonomous) ตามกฏของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์นานาชาติหรือ SAE International (Society of Automotive Engineers) ในระดับที่ 4 นั้น หมายถึงตัวระบบต้องสามารถควบคุมรถได้ทั้งหมด โดยที่ผู้ขับไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงการควบคุมของระบบ ยกเว้นในสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรง เช่น พายุฝน หรือพายุหิมะ ดังนั้นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 4 จะช่วยให้ผู้ขับสามารถละสายตาจากท้องถนนไปทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ตามความเหมาะสม
● เสี่ยวมี่เริ่มประกาศแผนงานการก่อตั้งหน่วยงานเพื่อผลิตรถยนต์อัจฉริยะในช่วงเดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่าน โดยระบุว่าจะใช้เงินลงทุนถึง 10 พันล้านหยวน หรือประมาณ 5.1 หมื่นล้านบาท ในโครงการนี้
● นอกจากนี้ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน www.reuters.com ยังมีรายงานว่า เสี่ยวมี่ได้เจรจากับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส เพื่อใช้โรงงานใดโรงงานหนึ่งของเกรท วอลล์ ในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้แบรนด์เสี่ยวมี่ด้วย ทว่าทั้งคู่ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ ในขณะที่แหล่งข่าวของรอยเตอร์สเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 บริษัทจะแชร์ความชำนาญและเทคโนโลยีต่างๆ ร่วมกัน
● ณ เวลานี้ ถนนทุกสายในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของประเทศจีน ต่างมุ่งไปสู่การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเดี่ยวๆ เองเช่น Baidu ที่ประกาศเข้าสู่ธุรกิจผลิตรถยนต์ หรือการจับคู่ระหว่างยักษ์ใหญ่ อาทิ Alibaba กับ SAIC Motor, Huawei และ GAC Group หรือ DiDi Chuxing Technology บริษัทผู้ให้บริการยานพาหนะผ่านแอพฯ ที่จับมือกับ BYD เป็นต้น ●