Toyota Yaris ATIV & Yaris X-Urban ลองสองรุ่นใหม่ใน TDEX
เรื่อง – ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ
● หลังเปิดตัวไปไม่นาน ทีมงานมอเตอร์ทริเวีย ก็มีโอกาสได้ทดลองขับรถทั้ง 2 รุ่นอย่างเต็มอิ่ม จะขับบนถนนจริงก็ได้ แต่เลือกขับใน TDEX สนามทดสอบของโตโยต้ากับเพื่อนสื่อมวลชนอีกหลายคน เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และทดลองขับได้อย่างปลอดภัยเนื่องจากไม่มีใครใช้สนามในช่วงเวลานั้น

Toyota Yaris ATIV Sport Premium Two-Tone
● เริ่มจาก Yaris ATIV รุ่นสูงสุด Sport Premium ในรุ่นปรับโฉมมีการเพิ่มชุดแต่ง Flash II Package รอบคัน เพิ่มกล่องควบคุมคันเร่งไฟฟ้า Active Speed ปรับความเร็วในการตอบสนองคันเร่งได้หลายระดับ ราคารถรุ่นที่ขับเป็นสีทูโทนหลังคาดำ 679,000 บาท
● ชุดแต่งสีดำเงาและหลังคาสีดำพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม เมื่อถูกติดตั้งกับรถสีแดง Red Mica Metallic ทำให้ตัวรถโดยรวมดูโดดเด่นยิ่งขึ้น โคมไฟหน้าทรงเพรียวขนาดใหญ่เป็นแบบ LED มัลติรีเฟล็กเตอร์ มีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ และ Follow-Me-Home คั่นกลางด้วยกระจังหน้าสีดำเงาต่อเนื่องกับชุดกันชนพร้อมสปอตไลต์ LED
● ด้านข้างติดตั้งสเกิร์ตทรงเฉี่ยวเติมเต็มด้านข้างไม่ให้ดูโล่งเกินไป ล้อแม็กขนาด 15 นิ้ว สีดำเงาแซมด้วยสีเงิน พร้อมยาง 185/60 R15 ด้านท้ายเดิมๆ สวยอยู่แล้วด้วยโคมไฟทรงเพรียวแบบ LED Light Guiding ให้มุมมองที่สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยสปอยเลอร์หลังทรงเรียบ กันชนหลังตกแต่งด้วยสีดำเงาแซมสีเงินเช่นเดียวกับสเกิร์ตข้าง การตกแต่งโดยรวมถือว่ากำลังดี มีความแตกต่างจากเดิมอย่างชัดเจน และดูไม่เลอะเทอะหรือเยอะเกินไป
● มิติตัวรถมีความยาว 4,442 มิลลิเมตร กว้าง 1,730 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,550 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,470/1,460 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 133 มิลลิเมตร

คุ้มค่าด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน
● ห้องโดยสารได้รับการปรับปรุงทั้งในส่วนของการตกแต่งและอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วนับว่าคุ้มค่ามากๆ การตกแต่งแน่นอนว่าถูกจำกัดด้วยต้นทุน แต่เท่าที่สัมผัสวัสดุภายในก็ไม่ได้ถึงกับแย่ ความรู้สึกในการกดใช้สวิตช์ควบคุมระบบต่างๆ ก็ดูดีสมราคา
● และที่เป็นจุดเด่นคือ อุปกรณ์มาตรฐานทั้งเพื่อความสะดวดสบายและความปลอดภัย ที่ให้มาแบบครบครันจริงๆ ที่ได้ใช้งานบ่อยแน่ๆ ก็เช่น ระบบ Smart Entry และ Push Start, จอสัมผัสขนาด 6.7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Andriod Auto, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, แอร์อัตโนมัติ, กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ ส่วนระบบความปลอดภัยที่โดดเด่นก็มี ระบบเตือนการชนด้านหน้า PCS-Pre-Collision System และ LDA-Lane Departure Alert

ขับสนุกกว่าเดิมด้วย Active Speed
● กล่องควบคุมคันเร่งไฟฟ้าของ ECU Shop มีการรับประกันจากผู้ผลิต ส่วนประกันรถยนต์ของโตโยต้าก็ยังคงเดิม ถ้าไปติดตั้งเองภายหลังอาจหมดประกันในส่วนของเครื่องยนต์ มีสวิตช์พร้อมจอดิจิตอล บอกระดับความเร็วในการตอบสนองของคันเร่ง เท่าที่ลองขับก็รู้สึกว่าการตอบสนองดีขึ้นจริง โดยเฉพาะในช่วงออกตัว การปรับให้คันเร่งตอบสนองเร็วขึ้น เหมาะกับการขับบนทางโล่งหรือใช้ความเร็วต่อเนื่อง เพราะถ้าปรับให้ตอบสนองเร็วขณะขับความเร็วต่ำหรือการจราจรติดขัด คันเร่งที่เร็วเกินไปจะทำให้การขับขาดความนุ่มนวลได้ อย่างไรก็ตาม Active Speed เป็นการปรับความเร็วในการตอบสนองของคันเร่ง สมรรถนะของเครื่องยนต์ยังคงเดิม

เครื่องยนต์เพียงพอกับการใช้งาน
● Yaris ATIV ใช้เครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-iE ความจุ 1,197 ซีซี 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 11.1 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT-i เมื่อเพิ่ม กล่องควบคุมคันเร่งไฟฟ้า ก็ช่วยให้การขับออกตัวทันใจขึ้น ปรับไว้กลางๆ ออกตัวดีขึ้นแต่ไม่กระชาก อัตราเร่งความเร็วกลางๆ ขึ้นไปใกล้เคียงเดิม แม้จะได้ชื่อว่าเป็น Eco Car แต่ด้วยขนาดตัวรถและสมรรถนะของเครื่องยนต์ ก็สามารถใช้เดินทางไกลได้อย่างปลอดภัย เพียงแค่ขับไม่ให้เกินข้อจำกัดของตัวรถ

ระบบช่วงล่างมาตรฐาน ตัวช่วยครบครัน
● เลย์เอาท์ของระบบกันสะเทือนสไตล์รถเล็ก ด้านหน้าอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ความรู้สึกโดยรวมหนักแน่น ไม่หวิวหรือวูบวาบ เข้าสลาลมในสนามทดสอบได้อย่างมั่นใจ การซับแรงสะเทือนก็ทำได้ดีเช่นกัน ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ไม่บกพร่องในหน้าที่แต่อาจดูไม่ดีในแง่หน้าตา มาพร้อมตัวช่วยอิเล็กทรอนิกส์ครบครัน ทั้ง ABS ป้องกันล้อล็อก, EBD กระจายแรงเบรกให้สอดคล้องกับน้ำหนักบรรทุก, BA เสริมแรงเบรกฉุกเฉิน ในส่วนของช่วงล่างก็มี VSC ควบคุมการทรงตัว, TRC ป้องกันล้อหมุนฟรี และ HAC ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
● ถ้าทั้งหมดนี้ยังเอาไม่อยู่ ก็มีระบบความปลอดภัยหลังการชน เช่น แอร์แบ็กคู่หน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัย และแอร์แบ็กหัวเข่าผู้ขับ ซึ่งจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อทุกที่นั่งคาดเข็มขัดนิรภัยที่ให้มาแบบ 3 จุด ครบ 5 ตำแหน่งที่นั่ง เบาะคู่หน้าแบบ WIL ลดการสะบัดตัวของศีรษะเมื่อเกิดการชน

Toyota Yaris Sport Premium X-Urban
● อีกรุ่นที่ได้ทดลองขับคือ X-Urban ติดตั้งชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ สำหรับ Yaris รุ่น Sport Premium X (Two-Tone) และรุ่น Sport X (Two-Tone) ประกอบด้วยชุดแต่งรอบคันในสไตล์ครอสโอเวอร์รถลุยเล็กๆ ชุดสปริงและช๊อกฯ ที่ยกสูงขึ้น 30 มิลลิเมตร ล้อ 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/50 R16 ชุดแต่งผลิตโดยบริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด ราคา 44,600 บาท เปลี่ยนช่วงล่างกับล้อแล้วไม่คืนของเดิมที่มาพร้อมรถให้
● ภายนอกเสริมชุดแต่งพลาสติกสีดำบริเวณซุ้มล้อและด้านข้างตัวรถ เน้นความเป็นรถลุยให้ชัดเจนขึ้น ส่วนกันชนหน้าและหลังก็ติดตั้งชุดแต่งที่ดูลุยๆ บึกบึนและแฝงความสปอร์ตไว้ด้วย ล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว ลวดลายดูแกร่ง ฝาปิดดุมล้อมีโลโก้ X ตรงรุ่น ยาง 195/50 R16 โดยส่วนตัวคิดว่าซีรีส์หรือแก้มยางเตี้ยไปนิด ทำให้ดูไม่ค่อยลุยเท่าไร
● ภายในตกแต่งเฉพาะรุ่นด้วยสีแดงดำ เบาะหนังสีทูโทนเดินตะเข็บด้ายเป็นรูปตัว X อุปกรณ์มาตรฐานครบๆ ตามลำดับขั้นของรุ่นสูงสุด แตกต่างจาก Yaris ATIV ที่เป็นซีดานตรงที่ เบาะหลังของ Yaris แยกพับได้ และประตูบานท้ายเปิดได้กว้างซึ่งเป็นข้อดีของรถแฮทช์แบ็ก แต่ก็มีข้อเสียเวลาขนย้ายสิ่งของที่มีกลิ่นแรง กลิ่นอาจเข้าห้องโดยสารได้

ช่วงล่างยกสูง 30 มิลลิเมตร ลุยได้มากขึ้น
● รูปแบบของระบบกันสะเทือนยังคงเดิม เพิ่มเติมคือ เปลี่ยนสปริงและช๊อกฯ ที่มีความสูงเพิ่มขึ้น 30 มิลลิเมตร ล้อและยางใหญ่ขึ้นเป็น 195/50 R16 คำนวณเฉพาะความสูงของยางแล้ว ยางของรุ่นมาตรฐาน 185/60 R15 มีความสูง 603 มิลลิเมตร ส่วนยางชุดแต่ง X-Urban มีความสูง 601.4 มิลลิเมตร เตี้ยกว่า 1.6 มิลลิเมตร ดังนั้นความสูงที่เพิ่มขึ้น 30 มิลลิเมตร จึงมาจากช่วงล่างล้วนๆ
● ลองขับที่ความเร็วต่ำ-ปานกลาง รู้สึกว่าโคลงกว่ารุ่นมาตรฐานเล็กน้อย แม้จะเพิ่มความกว้างยางและลดซีรีส์ยางลงเล็กน้อยแล้วก็ตาม เพราะสปริงที่สูงขึ้นก็คงมีค่าความแข็งไม่มากนักเพื่อให้ขับนุ่มนวล อาการโคลงชัดเจนขึ้นเมื่อขับเข้าสลาลมในสนามทดสอบ TDEX แต่ก็ยังไม่ถึงกับเสียการควบคุมหรือออกอาการน่าหวาดเสียว ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการใช้ความเร็วไม่สูงเกินไป
● ความรู้สึกในการขับทั้งการหมุนพวงมาลัย การเบรกและเร่ง รวมทั้งการขับทางตรงหรือโค้งกว้างๆ ของสนาม TDEX แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานเพียงเล็กน้อย รถรุ่นนี้น่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแปลกใหม่ เป็นครอสโอเวอร์ไซส์เล็ก ขับง่าย เบาแรง คล่องตัว ยกสูงนิดๆ ไว้ลุยน้ำท่วมได้แบบไม่ต้องลุ้นมาก เข้า-ออกจากรถสะดวกขึ้นอีกนิด ลุยทางขรุขระได้มากกว่าเก๋ง แต่ก็ไม่ควรขับรูดหลุมหรือบุกตะลุยฝาท่อคอสะพาน เบาได้ก็เบาเพราะพื้นฐานเป็นช่วงล่างรถเก๋ง ไม่ใช่ช่วงล่างกระบะที่เน้นความทนทาน ●

