BMW เปิดตัวครูสเซอร์ R 18 B และ R 18 Transcontinental

1Kviews

motortrivia

● บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เปิดตัวมอเตอร์ไซค์คลาสครูสเซอร์ เครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 2 รุ่นใหม่ ประกอบด้วย BMW R18 Transcontinental และ BMW R 18 B “Bagger” แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

● R 18 Transcontinental จะมาในรูปโฉมของมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งหรู เบาะนั่งมีความนุ่มเป็นพิเศษพร้อมระบบอุ่นเบาะ เสริมความสะดวกในการเดินทางด้วยกล่องสัมภาระท้ายรถแบบ Top case ในขณะที่ R 18 B จะเป็นมอเตอร์ไซค์สไตล์แบกเกอร์ที่ดูเรียบง่าย ปราดเปรียว เบาะเป็นแบบนั่ง 2 คนที่มีขนาดเล็กลง พักเท้ากว้างขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า

● ทั้งคู่ออกแบบและวางโครงสร้างทางวิศวกรรมเพื่อให้เหมาะกับการเดินทางไกล อาทิ โครงสร้างแชสซีส์แบบเหล็กกล้า 2 ชั้น แกนหลักชิ้นส่วนขึ้นรูปจากแผ่นเหล็ก ถังน้ำมันทรงหยดน้ำขนาด 24 ลิตร เพลาแบบเปลือย ตดแต่งด้วยลูกเล่นการทำสีแบบลายเส้นคู่ สวิงอาร์มคู่ขนาบข้าง ยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียวแบบดั้งเดิม

2021 BMW R18 Transcontinental

● ชุดระบบช่วงล่างของ R 18 Transcontinental และ R 18 B เป็นแบบเทเลสโคปิค พร้อมปลอกหุ้มช๊อคฯ สวิงอาร์มติดตั้งตรงบนคานรับน้ำหนักแบบยื่น สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ สามารถควบคุมล้อที่หล่อด้วยวัสดุอัลลอยน้ำหนักเบาได้แม่นยำ คานรับน้ำหนักด้านหลังสามารถปรับตั้งค่าความหนืดได้ และมีระบบชดเชยโหลดอัตโนมัติเพื่อตอบสนองการขี่เช่นเดียวกับรถในตำนานอย่าง BMW R 5

● ทั้ง 2 รุ่นใช้ระบบเบรคหน้าแบบดิสค์เบรคคู่ ด้านหลังเป็นแบบดิสค์เบรคเดี่ยว พร้อมคาลิเปอร์เบรคแบบตายตัว 4 ลูกสูบ และมั่นใจได้ด้วยระบบเบรค ABS ของ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

● พละกำลังมาจากเครื่องยนต์บิ๊กบ็อกเซอร์ 2 สูบ ซึ่งนับเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียงที่มีสมรรถนะสูงสุดในรถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตออกจำหน่ายในตลาดทั่วไป ความจุ 1,802 ซีซี. กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 4,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดมากกว่า 15.2 กก.-ม. เริ่มที่ช่วง 2,000 จนถึง 4,000 รอบ/นาที โหมดในการขี่เลือกได้ระหว่าง Rain, Roll และ Rock

● อุปกรณ์มาตรฐานมีอาทิ มาตรวัดแบบอนาล็อกทรงกลม 4 ช่อง, จอสีแสดงผลแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว พิมพ์ตัวอักษร BERLIN BUILT รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น BMW Connected App

2021 BMW R 18 B “Bagger”

● ทั้งคู่ใช้ชุดระบบซาวด์ซิสเต็มไฮเอนด์ที่ออกแบบเป็นพิเศษร่วมกับผู้ผลิตเครื่องเสียงสัญชาติอังกฤษอย่าง Marshall ไฮไลท์คือลำโพงแบบ two-way ที่แยกซับวูฟเฟอร์ติดตั้งบนหน้าปัดของฝาครอบไฟหน้ารถ, หน้ากากลำโพงสีดำตกแต่งด้วยตัวอักษร Marshall สีขาว โดย R 18 B จะได้ใช้งานชุดเครื่องเสียง Marshall Gold Series Stage 1 ประกอบด้วยลำโพง 2 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว ในขณะที่ R 18 Transcontinental จะขยับขึ้นไปเป็น Marshall Gold Series Stage 2 ลำโพง 4 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว กำลังขับ 280 วัทท์

● ด้านความปลอดภัยมี ระบบไฟหน้าปรับตามทิศทางการขี่, ระบบ ASC ควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ, ระบบ MSR ป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง, ระบบ Hill Start Control ช่วยออกตัวในทางลาดชัน, มีเกียร์ถอยหลังช่วยให้กลับรถง่ายขึ้น และมีระบบป้องกันการโจรกรรม พร้อมฟังก์ชั่นเซ็นทรัลล็อค

● ปิดท้ายด้วยระบบ Dynamic Cruise Control และ Active Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ โดยระบบ DCC จะเป็นการควบคุมระดับความเร็วที่ผู้ขี่สามารถตั้งค่าเองได้ ส่วนระบบ ACC จะแปรผันความเร็วด้วยการควบคุมระยะห่างจากรถคันหน้าด้วยการใช้เรดาร์ที่ติดตั้งบนฝาครอบไฟหน้าตรวจวัดระยะโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ระบบ ACC จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะเข้าโค้งด้วยการชะลอความเร็วเพื่อให้ผู้ขี่ใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับมุมเอียงของถนนด้วย

● มร. มิเกล ญาเบรส-โปห์ล (Miguel Llabrés-Pohl) ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้นำเข้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และบีเอ็มดับเบิลยู R 18 B นับว่าเป็นดาวดวงใหม่ในในครอบครัวมอเตอร์ไซค์ทัวริ่งของเรา ด้วยการดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการขับขี่อย่างเพลิดเพลินทั้งทางใกล้และทางไกล บีเอ็มดับเบิลยู R 18 ทั้งสองรุ่นใหม่นี้ จึงสะท้อนจิตวิญญาณเสรีของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้เป็นอย่างดี”

● “การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากระบบสรีรศาสตร์ ช่วยให้มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นเหมาะแก่การขับขี่แบบครูสซิ่งและทัวริ่งอย่างสะดวกสบายได้ในทุกสภาพอากาศ และเช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 18 รุ่นก่อนหน้านี้ บีเอ็มดับเบิลยู R 18 Transcontinental และบีเอ็มดับเบิลยู R 18 B ยังคงมาพร้อมกับสมรรถนะที่โดดเด่น ด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ของบีเอ็มดับเบิลยูขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาส่งพลังสู่สองล้อ และด้วยทรวดทรงของตัวรถที่มาในมาดเข้มดุดัน ผมจึงมั่นใจว่ามอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นนี้จะสามารถสะกดทุกสายตาบนท้องถนนทั้งการขับขี่ในตัวเมืองและต่างจังหวัดได้อย่างแน่นอน”

ราคาจำหน่าย

● ในเบื้องต้น บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จะเริ่มจำหน่าย R 18 Transcontinental และ R 18 B แบบเอ็กซ์คลูซีฟด้วยรุ่น First Edition ตกแต่งพิเศษด้วยสีดำคลาสสิคตัดกับลายเส้นคู่สีขาว พื้นผิวออกแบบเป็นพิเศษด้วยสีโครเมียม เบาะปักลวดลายด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมอักษร First Edition

● นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อ R 18 Transcontinental First Edition หรือ R 18 B First Edition จะได้รับ Welcome Box แบบพิเศษเฉพาะรุ่นซึ่งมาพร้อมไอเท็มเอ็กซ์คลูซีฟด้วย

● ราคาจำหน่าย BMW R 18 Transcontinental First Edition เปิดออกมาที่ 1,640,000 บาท ส่วน BMW R 18 B First Edition อยู่ที่ 1,500,000 บาท ทั้งคู่เป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่  www.bmw-motorrad.co.th  หรือเฟซบุ๊ค facebook.com/BMWMotorradTH หรือติดต่อ BMW Contact Center: 1397 หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั่วประเทศ ●