October 30, 2021
Motortrivia Team (10170 articles)

Royal Enfield เปิดตัว 2 รถคัสตอมจาก K-Speed และ Zeus

ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

●   รอยัล เอนฟิลด์ ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวโชว์รถคัสตอม 2 รุ่นจาก 2 คัสตอมช๊อปสัญชาติไทยที่ใช้พื้นฐานของมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield Meteor 350 ประกอบด้วย DIABLO the Chopper ผลงานของ K-Speed และ KHUN the Brat Bob ผลงานของ Zeus

●   รอยัล เอนฟิลด์ ระบุว่า วัฒนธรรมคัสตอมคือหนึ่งในสิ่งที่สำคัญสำหรับแวดวงนักขี่ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อความสวยงาม, การอัพเกรดประสิทธิภาพรถ หรือการโมดิฟายรถใหม่หมด ทั้งหมดนี้ช่วยให้กลุ่มนักคัสตอมมีการขยายตัว และได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งมอเตอร์ไซค์ของ รอยัล เอนฟิลด์ ก็เหมาะกับการใช้เป็นโมเดลพื้นฐานสำหรับการคัสตอมรถ

●   ขณะเดียวกัน รอยัล เอนฟิลด์ก็เชื่อว่า การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงใจลูกค้า หรือ Personalisation คือส่วนหนึ่งของการขี่มอเตอร์ไซค์ที่แท้จริง ดังนั้น รอยัล เอนฟิลด์จึงสนับสนุนเหล่านักคัสตอม และนักขี่ที่ต้องการแสดงออกถึงตัวตน ให้นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ผ่านการแต่งรถหรือ Customisation ตามความชอบของตัวเอง

K-Speed: DIABLO the Chopper

●   ในการคัสตอม DIABLO นั้น K-Speed ยังคงรักษาเค้าโครงที่สำคัญของตัวรถเอาไว้ โดยทำการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ดูแตกต่างมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มชอปเปอร์คันอื่นๆ พวกเขาเลือกใช้ตัวถัง, ฝาครอบด้านข้าง, ช๊อคแอบซอร์บเบอร์คู่หน้า และขอบล้อที่เป็นของเดิมจากโรงงาน เพื่อย้ำให้เห็นว่า Meteor เป็นมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะกับการคัสตอม

●   การตกแต่งหลักๆ มีอาทิ ชุดไฟหน้า LED แบบคัสตอม, แฮนด์เดิลบาร์พร้อมสวิทช์และมือจับแบบเรโทร, คลัทช์และแม่ปั๊มเบรก Takegawa, ถังเชื้อเพลิงโครเมียม, เฟรมหลังถูกตัดให้สั้นลง, เบาะหนังแท้เย็บมือ, บังโคลนหลังสไตล์ bobbed แบบลอยตัว และท่อไอเสียแบบพิเศษเฉพาะตัว

Zeus: KHUN the Brat Bob

●   สำหรับ KHUN (ขุน) นั้น Zeus ให้ข้อมูลว่า พวกเขาได้แรงบันดาลใจจากการรวบรวมรูปแบบของมอเตอร์ไซค์สไตล์ต่างๆ เพื่อออกแบบมอเตอร์ไซค์สไตล์ Brat ที่ไม่เหมือนใคร Meteor ได้ถูกนำมาใช้เป็นต้นแบบเพื่อแสดงถึงความหลากหลายในการใช้งาน และการเลือกใช้จำนวนชิ้นส่วนของตัวรถที่เป็นของเดิมน้อยกว่าชิ้นส่วนที่คัสตอมขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ

●   จุดเด่นคือแฮนด์เดิลบาร์ที่ถูกลดระดับลงมาเพื่อให้ตัวรถดูสปอร์ต, ไฟหน้าใช้เลนส์สีเหลืองขนาด 6 นิ้ว ให้ความรู้สึกเรโทร, ช๊อคฯ หน้าและสปริงถูกตัดให้สั้นเพื่อให้ตัวรถดูแคบลง, ขอบซี่ลวดแบบคลาสสิคช่วยเพิ่มความย้อนยุค, ชุดไฟหน้าและไฟท้ายมีขนาดเล็ก ทำให้ตัวรถดูเรียบง่าย แต่มีความร่วมสมัยในแบบมินิมอล

●   Zeus ได้เลือกใช้ทองเหลืองสีเข้ม ซึ่งเป็นโลหะที่ใช้กันทั่วไปในงานหัตถกรรมไทย เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นไทยให้กับตัวรถ พักเท้าถูกย้ายมาข้างหลังเพื่อให้ท่านั่งมีความเท่และดูเหมาะกับสไตล์ Brat ช๊อคฯ หลังตั้งความสูงเอาไว้ที่ 350 มม. เพื่อให้ตัวรถมีความสมดุลย์มากขึ้นในขณะขี่ ปิดท้ายด้วยท่อไอเสียทรงโค้งที่ขึ้นงานโดย Zeus เอง

●   คุณวิมัล ชุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวว่า “รถจักรยานยนต์คัสตอมที่ถูกเปิดตัวในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ตอกย้ำว่ารถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์ เป็นรถที่เหมาะสมสำหรับการแต่ง ซึ่งประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคนี้ เรายังคงส่งเสริมการให้บริการในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านรถจักรยานยนต์ การขยายเครือข่าย เครื่องแต่งกาย หรือชุดอุปกรณ์เสริมสำหรับรถจักรยานยนต์ของแท้ ดังนั้นเราจึงมีกลุ่มของนักขับขี่ผู้หลงใหลในการปรับแต่งรถจักรยานยนต์เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเองของผู้ขับขี่”

●   “ด้วยโครงสร้างที่เรียบง่าย รถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการแสดงออกถึงความสร้างสรรค์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนักคัสตอมทั่วโลก นอกเหนือจากด้านความสวยงามแล้ว รอยัล เอนฟิลด์ยังคำนึงถึงสมรรถภาพของรถอีกด้วย เรามีรถจักรยานยนต์คัสตอมมากกว่า 25 แบบในประเทศไทย และเราเชื่อว่าโครงการคัสตอมของเราจะเปิดโอกาสให้นักคัสตอมได้ค้นหาความสร้างสรรค์ในตัวเอง รวมทั้งยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักคัสตอมในท้องถิ่น และผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์อีกด้วย”

●   คุณแอนเดรียน เซลเลอร์ (Adrian Sellers) ผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายโครงการคัสตอม รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการคัสตอมรถจักรยานยนต์มากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งแบบเต็มรูปแบบหรือการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย รถจักรยานยนต์ทุกคันที่นี่ถูกปรับแต่งเพื่อให้สะท้อนถึงบุคลิกภาพของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี นับเป็นความโชคดีของรอยัล เอนฟิลด์ที่ได้มีโอกาสผลิตรถจักรยานยนต์ที่สามารถปรับแต่งได้มากที่สุดในโลก เนื่องจากโครงสร้างที่เรียบง่ายซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการตกแต่งรถของตัวเอง”

●   “เมื่อเราเปิดตัว Meteor 350 เรารู้ดีว่างานปรับแต่งชิ้นแรกๆ นั้นจะต้องมาจากประเทศไทย และความน่าตื่นเต้นคือการได้ร่วมงานกับ K-speed และ Zeus อีกครั้ง ซึ่งทางเราได้มีโอกาสร่วมงานกับนักคัสตอมฝีมือเยี่ยมทั้งสองท่านมาก่อนตอนทำ Twins แพลตฟอร์ม เราให้ความสนใจกับสิ่งที่สองนักคัสตอมลงมือทำกับเครื่องยนต์ 350 ใหม่ และผลลัพธ์นั้นก็บ่งบอกถึงฝีมือของพวกเขา เป็นการนำเสนอแนวคิด “Easy Cruising” ของรถโมเดลพื้นฐาน Meteor 350 แต่เต็มไปด้วยลักษณะที่โดดเด่น ซึ่งแต่ละคันนั้นบ่งบอกถึงบุคลิกภาพของนักคัสตอม และศักยภาพชั้นเยี่ยมของ Meteor”

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รอยัล เอนฟิลด์ ในประเทศไทย หรือ Royal Enfield Meteor 350 เชิญได้ที่เว็บไซท์ www.royalenfield.com/th หรือแฟนเพจ facebook.com/RoyalEnfieldThailand


Royal Enfield Meteor 350 Customization