October 10, 2021
Motortrivia Team (10162 articles)

Toyota Fortuner GR Sport 4WD สปอร์ตหรูคู่สมรรถนะ

เรื่อง – ภาพ – วีดิโอ : นาธัส แสงสุริยะ

●   โตโยต้า เพิ่มรุ่น GR Sport 4WD ให้เอสยูวีรุ่นยอดฮิตอย่าง ฟอร์จูนเนอร์ ปรับการตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Gazoo Racing รูปลักษณ์ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น เพิ่มความน่าขับด้วยการยกระดับทั้งวัสดุและดีไซน์ เพิ่มประสิทธิภาพในระบบกันสะเทือนด้วยการใช้ช๊อกแอ็บซอร์เบอร์แบบ Monotube เปิดราคา 1.879 ล้านบาทสำหรับสีดำมาตรฐาน ส่วนสีแดงและสีขาวหลังคาดำ เพิ่มเงิน 2 หมื่นบาท

ภายนอกแต่งสวยกำลังดี

●   เส้นสายเดิมของฟอร์จูนเนอร์โฉมนี้ มีความทันสมัยโฉบเฉี่ยวอยู่แล้ว พาร์ทจาก GR Sport ช่วยขับความสปอร์ตให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ด้านหน้าเพิ่มมิติความเฉียบคมและความดุดันแบบกำลังพอดี ไม่เยอะหรือเลอะเทอะเกินไป ถ้าเลือกสีตัวรถสีแดงหรือขาว ก็จะตัดกับสีดำเงาและหลังคาดำแบบทู-โทน ทำให้เด่นยิ่งขึ้น ล้อแม็ก 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50/20 สีดำ ทำให้มองเห็นคาลิเปอร์เบรกสีแดงได้ชัดเจนขึ้น กันชนท้ายตกแต่งด้วย Diffuser สีดำเงา กับสปอยเลอร์ทรงสปอร์ตสีแดง-ดำ ให้มุมมองที่สปอร์ตดุดันแบบเงียบๆ

●   มิติตัวรถมีความยาว 4,795 มิลลิเมตร กว้าง 1,855 มิลลิเมตร สูง 1,835 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,540/1,555 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 193 มิลลิเมตร

●   รูปลักษณ์ภายนอกถือว่าตกแต่งได้ลงตัว มีความแตกต่างจากรุ่นเดิมอย่างชัดเจน มีเอกลักษณ์ความสปอร์ตของ Gazoo Racing ที่ออกแนวขรึมๆ แฝงความดุ ไม่หวือหวาหรือดูเยอะเกินไป เหมาะกับประเภทของรถและกลุ่มเป้าหมาย จะติก็ตรงซุ้มล้อด้านในทั้ง 4 ที่้ดูโล่งไปหน่อย แต่ก็เข้าใจว่าที่ไม่บุเพราะเป็นรถลุย เศษดินโคลนจะได้ไม่ตกค้าง

ห้องโดยสารชวนขับ

●   ภายในเป็นจุดที่ชอบที่สุดของรถรุ่นนี้ อย่างแรกคือเป็นโทนสีดำล้วนในแบบที่ชอบ รถคันใหญ่ห้องโดยสารกว้าง ไม่ต้องกลัวว่าจะดูอับทึบ แซมด้วยสีแดงเข้มและสีเมทัลลิกคุมโทนความขรึมเข้มได้ดี เพิ่มความน่าสนใจด้วยอุปกรณ์ตกแต่งจาก GR Sport ทั้งพวงมาลัย ปุ่มสตาร์ท พรมปูพื้น รวมไปถึงรีโมทคอนโทรบ อีกเรื่องที่ต้องชมคือ การเลือกใช้วัสดุทำเบาะนั่งแถว 1 และ 2 ดูสปอร์ตหรูหราสมราคา จุดที่สัมผัสร่างกายบ่อยๆ ก็จะเป็นวัสดุอ่อนนุ่ม เมื่อรวมเข้ากับการออกแบบที่ดูดี และการตกแต่งที่พอดี ทำให้รถรุ่นนี้มีสภาพแวดล้อมที่น่าขับน่านั่ง

●   เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ตวัสดุหุ้มสวย ปรับทิศทางด้วยไฟฟ้าทั้งผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงสปอร์ต ขนาดอวบกระชับมือ เย็บตะเข็บด้ายแดงดูสวยงาม มี Paddle Shift ปรับได้ 4 ทิศทาง ชุดมาตรวัดแบบเข็มเรืองแสงมีจอแสดงข้อมูลการขับตรงกลาง ควบคุมด้วยปุ่มบนพวงมาลัยฝั่งขวา คอนโซลกลางติดตั้งจอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว เป็นกล้องมองรอบทิศทางพร้อมเส้นกะระยะแบบแแปรผันในตัว อยากให้ภาพคมชัดกว่านี้ รองรับ Apple CarPlay และมีแท่นชาร์จแบบไร้สายให้ ชาร์จได้แม้ใส่เคสแบบไม่หนามาก

●   จุดที่ยังขัดใจก็มีบ้าง เช่น ปุ่มหมุนเลือกระบบขับเคลื่อนที่น่าจะเปลี่ยนเป็นปุ่มกด ไฟในห้องโดยสารบางจุดยังเป็นหลอดไส้ ไม่ใช่ LED ทั้งหมด แล้วก็กรอบลำโพงสีเงินบนแผงคอนโซล ที่สะท้อนกับกระจกหน้าตลอดเวลา อุปกรณ์มาตรฐานโดยรวมถือว่าให้มาเกินพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่เชื่อว่าคนที่จ่ายเงินเกือบ 2 ล้านน่าจะคาดหวังมากกว่านี้ เท่าที่ใช้งานแล้วอยากได้เพิ่มก็เช่น ระบบพับกระจกข้างอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ และไม่ค่อยชอบใจกับวิธีการพับเบาะแถว 3 แบบพับขึ้นไปแขวนด้านข้างซ้าย-ขวา ซึ่งเมื่อพับแล้วจะปรับพนักพิงเบาะแถว 2 ให้เอนมากไม่ได้

●   การเก็บเสียงทำได้ดีจนถึงความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป เสียงลมปะทะจะเริ่มดังขึ้น ส่วนการเก็บเสียงยางและเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ทำได้ดี เช่นเดียวกับความสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ที่มีให้สัมผัสไม่มากนักแม้ขณะลากรอบสูง เบาะแถว 2 นั่งสบาย เบาะแถว 3 พอนั่งได้ มีสวิตช์ปรับแอร์และช่องแอร์บนเพดาน ไม่ต้องกังวลเรื่องแอร์ไม่เย็น

●   ห้องโดยสารโดยรวมถือว่าทำได้ดี ตกแต่งสปอร์ตสวยงามหรูหราน่าขับ เบาะหนานุ่มโอบกระชับนั่งสบาย ทัศนวิสัยรอบคันโปร่งโล่ง รถคันสูงใหญ่ขับแล้วรู้สึกหนักแน่นมั่นใจปลอดภัย มองทางล่วงหน้าได้ไกล มีระบบกล้องมองรอบคัน ช่วยให้ขับในที่แคบได้ง่ายขึ้น

แรงเหลือเฟือ ประหยัดได้ถ้าใจเย็น

●   ฟอร์จูนเนอร์ GR Sport ใช้เครื่องยนต์รหัส 1GD-FTV (High) ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ อัตราส่วนการอัด 15.6:1 ความจุ 2,755 ซีซี กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Paddle Shift

●   ขนาดเป็นคนขับรถไม่เร็วยังรู้สึกว่าทุกครั้งที่กดคันเร่งแค่เบาๆ รถก็ขยับเปลี่ยนความเร็วได้อย่างทันใจแล้ว แรงบิดสูงในรอบต่ำทำให้ขับในเมืองได้ง่ายเพราะไม่รอรอบ เดินทางไกลใช้ความเร็วตามกฎหมาย รอบต่ำแค่ไม่เกิน 1,500 รอบต่อนาที การเร่งแซงแทบไม่ต้องคิ๊กดาวน์ แค่กดคันเร่งไล่รอบขึ้นไปก็ได้อัตราเร่งที่ต้องการแล้ว Paddle Shift เอาไว้ขับบนทางคดโค้งขึ้นลงเนินชัน ช่วยให้ขับได้เนียนต่อเนื่อง ไม่ต้องคิ๊กดาวน์หรือเบรกบ่อยๆ ตินิดเดียวตรงเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ดูจะเซตมาให้เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลเป็นหลัก ทำให้รู้สึกว่าหน่วงนิดๆ ช่วงเปลี่ยนเกียร์ ขับทางไกลชิลๆ มีลองเร่งบ้าง ได้อัตราสิ้นเปลืองเลข 2 หลัก 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร สมรรถนะของเครื่องยนต์น่าจะถูกใจคนขับรถเร็ว เพราะเร่งทันใจตั้งแต่รอบต่ำ แรงบิดเหลือเฟือฉุดลากรถคันใหญ่ๆ ได้สบาย กำลังสำรองเหลือๆ ถ้าขับไม่เร็วก็ได้เรื่องความประหยัด

ช่วงล่างปรับเซตลงตัว

●   รูปแบบของระบบกันสะเทือไม่เปลี่ยนแปลง ที่ปรับใหม่คือ การใช้ช๊อกฯ Monotube ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จับคู่กับระบบกันสะเทือนหน้าอิสระปีกนกคู่ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังโฟร์ลิงก์ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ระบบเบรกดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ คาลิเปอร์สีแดงพร้อมสัญลักษณ์ GR

●   ความรู้สึกของระบบกันสะเทือนเซตนี้ ออกไปทางนุ่มแบบแน่นๆ กระชับ ไม่ยวบยาบ ยาง 265/50/20 ไม่ได้ทำให้รถสะเทือนหรือกระแทก เพราะแม้จะซีรีส์ 50 แต่แก้มยางที่เมื่อคิดจากเปอร์เซ็นต์ของความกว้างยางก็ยังหนาพอสมควร ขับลุยได้ตามประเภทรถ ไม่ต้องระวังมาก ความเร็วต่ำมีความนุ่มนวล ไม่ดีดหรือกระแทก ส่วนความเร็วสูงก็มั่นคง การยุบและยืดตัวกลัวของช่วงล่างเป็นไปอย่างช้าๆ หนืดๆ แน่นๆ ไม่ยุบเร็วจนวูบวาบ หรือดีดแรงจนควบคุมยาก ความหนืดของช๊อกฯ หน่วงรั้งการยืดตัวของสปริงได้ดี ทำให้รถนิ่งเมื่อขับผ่านทางคลื่นลอนหรือโดดคอสะพาน รองรับการใช้ความเร็วปกติได้ดี และมีความนุ่มนวลนั่งสบาย

●   ระบบเบรกให้ความรู้สึกที่ดี ทั้งแรงเบรกที่หนักแน่น ดึงลดความเร็วได้สัมพันธ์น้ำหนักเท้าที่กดแป้นเบรก ควบคุมระยะเบรกได้ง่าย มาพร้อมตัวช่วยครบครัน ถ้าปรับให้พวงมาลัยเพาเวอร์เบาแรงกว่านี้อีกนิดที่ความเร็วต่ำ ก็จะขับง่ายขึ้นมาก บางสถานการณ์ที่ต้องโยกหรือดิ้นในที่แคบๆ เพื่อกลับรถ ต้องออกแรงหมุนพวงมาลัยมากไปหน่อย ส่วนที่ความเร็วสูงพวงมาลัยก็หนักแน่นดี ไม่เบาหวิวหรือวูบวาบ

●   โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ GR Sport 4WD รถเอนกประสงค์ทรงสปอร์ต ทั้งภายนอกและภายในแต่งสวยมาจากโรงงาน ทำให้รูปลักษณ์ดูเด่น และภายในสปอร์ตหรูหรากว้างขวาง อุปกรณ์มาตรฐานครบครันตามราคา ช่วงล่างเปลี่ยนช๊อกฯ เป็น Monotube นุ่มนวลแบบหนึบแน่น พร้อมลุยด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์แรงเหลือเฟือ แต่ถ้าขับไม่เร็วก็ไม่ซดน้ำมันดุเดือด ราคาปริ่ม 2 ล้าน แลกกับตัวรถและบริการหลังการขายที่ไว้ใจได้ ก็นับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ    ●

ขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

Test Drive : 2021 Toyota Fortuner GR Sport 4WD