
GWM ฉลอง Haval Jolion Hybrid คันแรกจากสายการผลิต
ภาพ : จันทนา เจริญทวี
● เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดให้สื่อฯ เข้าไปเก็บภาพคันจริงของ Haval Jolion รถครอสโอเวอร์ SUV ขนาดคอมแพคท์จากสายการผลิตของโรงงานในประเทศไทย โดยรถรุ่นนี้จะเป็นรถ SUV ไฮบริดรุ่นที่ 2 ภายใต้แบรนด์ฮาวาลที่จะจำหน่ายในบ้านเราเร็วๆ นี้
● และในวันนี้ เกรท วอลล์ ยังเปิดโอกาสให้สื่อฯ และซัพพลายเออร์เข้าเยี่ยมชมโรงงานอัจฉริยะ Great Wall Motor Manufacturing (Thailand) หรือ Smart Factory ในจังหวัดระยอง ซึ่งโรงงานแห่งนี้นับเป็นโรงงานเต็มรูปแบบแห่งที่ 2 นอกแผ่นดินจีน โดยมี มร. เกร็ก ลี (Greg Lee) รองประธานบริหารฝ่ายผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย และ นายอำนาจ แสงจันทร์ รองประธานฝ่ายผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ให้เกียรติต้อนรับ พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงงาน ก่อนจะนำชมภายในโรงงานเพื่อดูกระบวนการผลิต Haval H6 และ Haval Jolion

มร. เกร็ก ลี รองประธานบริหารฝ่ายผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย
Haval Jolion รถไฮบริดรุ่นที่ 2 ของฮาวาล
● Haval Jolion (โจเลี่ยน หรือ ‘ชูเลี่ยน’ ในภาษาจีน หมายถึงรักแรก) เป็นรถคอมแพคท์ SUV ในกลุ่ม C-segment ที่ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์ม LEMON เช่นเดียวกับ Haval H6 เจนเนอเรชั่น 3 รุ่นปัจจุบัน เลย์เอาท์เครื่องยนต์แบบวางหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ขนาดตัวใกล้เคียงกับ H6
● ในตลาดโลกนั้น Jolion เริ่มทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ทว่าในบ้านเรา Jolion จะใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกด้วย เบื้องต้น เกรท วอลล์ ระบุว่า Jolion จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ DHT หรือ Dedicated Hybrid Transmissions ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานกับระบบขับเคลื่อนไฮบริดโดยเฉพาะ กำลังสูงสุดผลิตได้ 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 38.2 กก.-ม.

● Jolion มากับอุปกรณ์มาตรฐานที่ทันยุคสมัย อาทิ ชุดไฟหน้า LED, ไฟ DRL สำหรับวิ่งกลางวัน, ฟังก์ชั่น Welcome Light เมื่อปลดล็อค, ฟังก์ชั่น Follow Me Home หน่วงเวลาดับไฟหลังดับเครื่องยนต์, ไฟท้าย LED, ไฟเบรกดวงที่ 3, ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED, กระจังหน้าแบบ Star Matrix สีดำ/เทา, พาโนรามิคซีนรูฟ, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว
● เทียบกับ Haval H6 ขนาดตัวจะเล็กกว่านิดหน่อย ความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,472 มม. (-181 มม.) กว้าง 1,841 มม. (-45 มม.) สูง 1,619 มม. (-111 มม.) ทว่าระยะฐานล้อจากหน้า-หลังจะยาวขึ้นเป็น 2,700 มม. (+20 มม.)
● ห้องโดยสารมีจอ Multi Information Display ขนาด 7 นิ้ว, ฟังก์ชั่น Head-up Display แสดงผลบนกระจกหน้า, จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Apple CarPlay, ถาดชาร์จสมา์ทโฟนแบบไร้สาย, ชุดลำโพง 6 ตำแหน่ง, ระบบกรองอากาศ PM2.5, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย/ขวา, ปุ่ม Push Start และกุญแจอัจฉริยะ Smart Key

● การตกแต่งใช้โทนสีแบบทูโทน, เบาะหนังสังเคราะห์, เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เบาะเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศ, เบาะหลังมีที่เท้าแขนกลาง, ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังความจุสูงสุด 1,069 ลิตร
● ใครสนใจ เกรท วอลล์ จะเปิดตัว Haval Jolion ในบ้านเราอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ครับ ราคาจำหน่ายรอลุ้นกันอีกที ในประเทศจีนนั้น Jolion เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ตัวรถสามารถเก็บยอดจำหน่ายได้ 5,614 คันนับจากเปิดตัวเพียง 20 วัน และมียอดขายสะสมมากกว่า 40,000 คัน นับจากเดือนมกราคมจนถึงเดือนสิงหาคม 2564 (เฉพาะในประเทศจีน)

นายอำนาจ แสงจันทร์ รองประธานฝ่ายผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย
GWM Smart Factory
● นายอำนาจ แสงจันทร์ รองประธานฝ่ายผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่เริ่มเข้ามาดำเนินการที่โรงงานอัจฉริยะแห่งนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มาจนถึงการเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เราได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงภายใต้แนวคิด ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาใช้ในการปรับปรุงและอัปเกรดโรงงานเพื่อเสริมศักยภาพการผลิตรถยนต์ของเรา ตั้งแต่การผลิตรถยนต์ All New Haval H6 Hybrid SUV คันแรกจนถึงในปัจจุบัน เราสามารถส่งมอบรถยนต์ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพและได้มาตรฐาน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง”
● “ในวันนี้ นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญและยิ่งใหญ่ของโรงงานระยองที่เราได้เริ่มต้นผลิต All New Haval Jolion Hybrid SUV ซึ่งนับเป็นรถยนต์เอสยูวีรุ่นที่ 2 จากแบรนด์ Haval ที่กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของโลกในเร็วๆ นี้ แน่นอนว่าความสำเร็จเหล่านี้ จะเปิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ สื่อมวลชน และคนไทยทุกคน รวมถึงซัพพลายเออร์ ที่ให้ความร่วมมือและเชื่อมั่นในการทำงานของเราด้วยดีเสมอมา และเราขอให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะยังคงพัฒนาและรักษามาตรฐานการผลิตรถยนต์ของเรา ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมด้านเทคนิคและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรเพื่อให้สามารถบรรลุพันธกิจของเรา เพื่อส่งมอบรถยนต์ที่มีคุณภาพและบริการที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคชาวไทย และส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยต่อไป”

● ปัจจุบัน โรงงานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่จังหวัดระยอง มีพนักงานประมาณ 800 คน และจะอัตราการจ้างงานในประเทศไทยขึ้นเป็น 1,000 ตำแหน่งภายในช่วงต้นปี 2565 โดยจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจัดส่งชิ้นส่วนหรืออะไหล่รถยนต์ 4 แห่ง ประกอบด้วย Hycet, Nobo Auto, EA และ Mind ชิ้นส่วนหลักๆ จากพาร์ทเนอร์ที่นำมาใช้ คือ เครื่องยนต์, ระบบส่งกำลัง, ระบบอิเลคทรอนิคส์, ระบบสายไฟในรถยนต์, ชิ้นส่วนช่วงล่าง, และชิ้นส่วนตกแต่งภายใน
● โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่:

● 1. Press Shop : นับเป็นขั้นตอนแรกของการผลิตรถยนต์ หน้าที่หลักคือการผลิตแผงตัวถังขนาดใหญ่ และชิ้นส่วนโลหะที่สำคัญ ประกอบด้วย 2 สายการผลิต ออกแบบและติดตั้งโดยบริษัทจากประเทศจีนและเกาหลีใต้ ใช้หุ่นยนต์ FANUC อัจฉริยะแบบ 6 แกน ในการส่งต่อชิ้นงานระหว่าง Press machine และใช้ระบบเปลี่ยนแม่พิมพ์อัตโนมัติ หรือ Automatic Die Change System จุดเด่นคือการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ทว่าประหยัดพลังงาน
● 2. Body Shop : ใช้พื้นที่มากกว่า 30,000 ตารางเมตร กำลังการผลิตสูงสุด 120,000 คัน/ปี แบ่งการผลิตออกเป็นเป็น 2 เฟส… เฟสที่ 1 รองรับการผลิตรถ SUV และรถปิคอัพ กำลังการผลิต 80,000 คัน/ปี เฟสที่ 2 จะมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มอีก 40,000 คัน/ปี ปัจจุบันใช้หุ่นยนต์ FANUC จำนวน 52 ตัว ทำงานแบบอัตโนมัติ (Automation rate) ที่เรท 85% คู่ไปกับการใช้ระบบ MES Process Visualization Technology เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในการผลิต และใช้เทคโนโลยี AI ในการตรวจสอบการแสตมป์หมายเลขตัวถัง หรือ vin number ของรถ และยังมีระบบการปรับเปลี่ยนสายการผลิตรุ่นรถยนต์แบบอัตโนมัติ เพื่อให้สายการผลิตมีความยืดหยุ่นในการผลิตรถยนต์ได้หลากหลายรุ่น รวมถึงเทคโนโลยี PDA สำหรับเก็บข้อมูลด้านคุณภาพในการผลิต

● 3. Paint Shop : ใช้มีพื้นที่รวมประมาณ 39,000 ตารางเมตร โดยออกแบบให้มีกำลังการผลิตได้สูงสุด 120,000 คันต่อปี และประกอบไปด้วยกระบวนการผลิต 10 ขั้นตอน อาทิ การเคลือบสีตัวถังด้วยการนำไฟฟ้า ซึ่งเป็นการรับประกันประสิทธิภาพการป้องกันการกัดกร่อนและการเกิดสนิมของตัวถังที่ดีเยี่ยม กระบวนการ PVC ในการยาแนวตามตะเข็บรอยต่อ เพื่อป้องกันน้ำรั่วและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันสนิมตามตะเข็บรอยต่อของตัวถังตามจุดต่างๆ กระบวนการพ่นสีรองพื้นและสีจริง โดยใช้หุ่นยนต์พ่นสีจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สีรถมีความเรียบเนียนและสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีโปรแกรมการเลือกและเปลี่ยนสีได้อัตโนมัติ และมีสีให้เลือกมากถึง 24 สี นอกจากนี้ยังมี เตาอบสี ที่ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีชั้นสูงจากประเทศเยอรมนี ทำงานโดยการนำอากาศเสียที่อยู่ในเตาอบสีมาผสมกับอากาศบริสุทธิ์ในการเผาไหม้ เป็นการช่วยลดมลพิษก่อนปล่อยสู่อากาศภายนอก
● 4. General Assembly (GA) Shop : ใช้พื้นที่ประมาณ 63,000 ตารางเมตร รองรับกำลังการผลิตสูงสุด 120,000 คัน/ปี มีการสร้าง Chassis Line ใหม่สำหรับผลิตรถ SUV โดยเฉพาะ คือ Intelligent Chassis Line ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการออกแบบอย่างอัจฉริยะ ใช้เสาแขวนโครงรูปตัว L เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย มีเทคโนโลยี Dual-Lift AGV เพื่อประกอบเครื่องยนต์และช่วงล่าง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีความเที่ยงตรงและปลอดภัยสูง และติดตั้งแขนกล หรือ Manipulator อีก 17 ตัว เพื่อช่วยลดภาระและความเมื่อยล้า รวมไปถึงเพิ่มความปลอดภัยให้พนักงานในการทำงาน
● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เชิญได้ที่เว็บไซท์ www.gwm.co.th หรือแฟนเพจ facebook.com/GWMThai หรือ facebook.com/HAVALThailand ●