February 22, 2022
Motortrivia Team (10073 articles)

Ford เปิดตัวปิคอัพสมรรถนะสูง Ranger Raptor เจนเนอเรชั่นใหม่

motortrivia

●   หลังฟอร์ด ออสเตรเลีย เปิดตัว Ford Ranger เจนเนอเรชั่นใหม่ไปในช่วงปลายปี 2021 ในที่สุดก็ถึงคิวของปิคอัพ ออฟ-โรด สมรรถนะสูง Ford Ranger Raptor รุ่นที่ 2 ผลงานของแผนก Ford Performance ซึ่งใช้พื้นฐานเดียวกันในการผลิต โดยเบื้องต้น Ranger ใหม่รุ่นพื้นฐานเจนฯ 2 (นับเป็นเจนฯ 4 ในตลาดโลก และเจนฯ 5 ในอเมริกาเหนือ) จะเริ่มผลิตที่โรงงาน AutoAlliance Thailand จ.ระยอง ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 นี้

●   Ford Ranger Raptor เจเนอเรชันใหม่นี้ ได้รับการโมดิฟายแชสซีส์ใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับการขับแบบออฟ-โรด โดยมีการเพิ่มการประกอบและติดตั้งอุปกรณ์หลายรายการ เช่น เสา C, กระบะท้าย, ล้ออะไหล่, โครงรถแบบพิเศษที่รองรับแรงกระแทกจากกันชน, ขายึดช๊อคฯ และฐานยึดช๊อคฯ หลัง

●   อย่างไรก็ตาม Ranger Raptor ใหม่ยังคงใช้เค้าโครงเดียวกันกับ Ranger เจนฯ ใหม่ ทว่ามีการปรับเปลี่ยนให้มีภาพลักษณ์ที่ทรงพลังกว่า จุดเด่นคือชุดไฟหน้าใหม่ทรง C, ตัวอักษร F-O-R-D ขนาดใหญ่บนกระจังหน้า, กันชนใหม่แบบแยกส่วนจากกระจังหน้า, ช่องลมข้างบังโคลน, ซุ้มล้อใหม่ขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยเพิ่มความกว้างของตัวรถ, ไฟท้าย LED, กันชนหลังใหม่สีเทาเข้มพร้อมบันไดแบบฝังสำหรับขึ้นกระบะท้าย และชุดลากที่ติดตั้งในตำแหน่งที่สูงเพื่อเพิ่มองศามุมจาก (Departure angle) ในขณะขับออฟ-โรด

●   อุปกรณ์มาตรฐานมีระบบไฟหน้าแบบ Matrix LED, ชุดไฟ LED DRL สำหรับวิ่งกลางวัน, ฟังก์ชั่นไฟเลี้ยวแบบไดนามิค, ไฟสูงแบบตัดแสงพร้อมปรับระดับแสงแบบอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับและผู้ร่วมทางที่ขับสวนทาง, ล้ออัลลอยลายใหม่แบบเฉพาะรุ่นขนาด 17 นิ้ว จับคู่ยาง BFGoodrich KO2® แบบออล-เทอร์เรน และบันไดข้างอลูมิเนียมแบบใหม่

●   ห้องโดยสารมากับมาตรวัดฟูลดิจิทัลเต็มรูปแบบ ตัวมาตรวัดแสดงผลผ่านจอความละเอียนดสูงขนาด 12.4 นิ้ว, จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12 นิ้ว, ระบบอินโฟฯ เจนเนอเรชั่นล่าสุด SYNC 4A® รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Android Auto หรือ Apple CarPlay, ชุดระบบเสียงไฮเอนด์ Bang & Olufsen® พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง และเบาะทรงบัคเก็ทแบบสปอร์ต

●   การตกแต่งรายละเอียดเป็นแบบเฉพาะรุ่น ฟอร์ดใช้สีส้มตกแต่งบริเวณแผงมาตรวัด พร้อมตัดขอบชิ้นส่วนหลักๆ ทั่วห้องโดยสาร, พวงมาลัยหุ้มหนังเกรดพรีเมียม พร้อมแถบบอกองศาพวงมาลัย หรือ On-centre mark และแป้นแพดเดิลชิฟท์เคลือบแมกนีเซียม

●   Ranger Raptor ใหม่ใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost แบบ V6 ความจุ 3.0 ลิตร อัดอากาศด้วยทวินเทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ SelectShift ผลงานร่วมกันระหว่าง Ford/GM กำลังสูงสุดผลิตได้ 397 แรงม้า (PS) ที่ 5,650 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 59.4 กก.-ม. ที่ 3,500 รอบ/นาที

●   หมายเหตุ : ฟอร์ดระบุว่า Ranger Raptor รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ จะเริ่มจำหน่ายในช่วงปี 2023 โดยรายละเอียดการจำหน่ายในแต่ละประเทศจะมีการประกาศในภายหลัง

●   เครื่องยนต์บล็อคนี้ใช้เสื้อสูบแบบกราไฟท์ แข็งแรงขึ้นมากกว่า 75% เมื่อเทียบกับเสื้อสูบแบบเหล็กหล่อทั่วไป มีระบบป้องกันการรอรอบ หรือ Anti-Lag System (ALS) ขณะใช้งานโหมด Baja ตัวระบบจะรักษาการหมุนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ความเร็วสูงต่อเนื่อง 3 วินาที หลังจากที่ผู้ขับถอนคันเร่ง ช่วยให้สามารถเพิ่มความเร็วได้ทันทีขณะเร่งออกจากโค้ง หรือในระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ และใช้น้ำมันหล่อลื่นผสม Teflon™ ที่ช่วยลดการเสียดสีได้ 50% เมื่อเทียบกับ Ranger Raptor รุ่นก่อนหน้า

●   โหมดในการการขับของ Ranger Raptor จะมีทั้งหมด 7 โหมด แบ่งเป็นโหมดสำหรับขับบนถนนปกติ 3 โหมด Normal, Sport หรือ Slippery และโหมดสำหรับการขับออฟ-โรดอีก 4 โหมด Rock Crawl, Sand, Mud/Ruts หรือ Baja… นอกจากนี้ยังมีชุดระบบระบายไอเสียที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า พร้อมโหมดสำหรับปรับเสียงสำหรับ 4 โหมดการขับ ผู้ขับสามารถเลือกระดับความดังของท่อไอเสียได้ผ่านปุ่มบนพวงมาลัย หรือในขณะเลือกโหมดการขับแบบ Quiet, Normal, Sport หรือ Baja เพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม ณ เวลานั้น

●   สำหรับระบบควบคุมความเร็วในการขับออฟ-โรดแบบ Trail หรือระบบ Trail Control™ ตัวระบบจะทำหน้าที่ควบคุมการเร่งความเร็ว และการเบรค เพื่อให้ผู้ขับมีสมาธิสูงสุดในการควบคุมพวงมาลัยระหว่างการขับในพื้นที่ทุรกันดาร โดยชุดระบบ Trail Control™ จะทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 32 กม./ชม.

●   ไฮไลท์สำคัญคือช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด อาทิ ปีกนกบน-ล่างอลูมิเนียมแบบใหม่, วัทท์ลิงก์ใหม่ด้านหลัง, ช็อคฯ FOX แบบ Live Valve พร้อม Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ลดการสั่นสะเทือนตามการเคลื่อนไหวของรถ เสริมด้วยระบบป้องกันการหดตัวค้าง หรือ Bottom-Out Control ของ FOX ช่วยเพิ่มแรงหน่วงสูงสุดในระยะ 25% สุดท้ายของการหดตัว ป้องกันไม่ให้ช๊อคฯ ค้าง และระบบนี้ยังช่วยชะลอการหดตัวของช๊อคฯ หลัง เพื่อไม่ให้ตัวรถมีแรงกระแทกมากเกินไปในขณะเร่งความเร็ว

●   แม้ว่าฮาร์ดแวร์ทั้งหมดจะผลิตโดย FOX ทว่าการปรับจูนช๊อคฯ รุ่นนี้จะเป็นหน้าที่ของแผนก Ford Performance ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในงานด้านวิศวกรรม (Computer-Aided Engineering หรือ CAE) และทดสอบวิ่งในสถานการณ์จริง ไม่ว่าจะเป็นการปรับการทำงานของสปริง ไปจนถึงการกำหนดความสูง, การปรับแต่งวาล์ว และการออกแบบระดับการยืด-ยุบของช๊อคฯ

●   และครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ Ranger Raptor ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบตลอดเวลา โดยมีระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบใหม่ที่ปรับได้ 2 ระดับ พร้อมชุดระบบควบคุมเฟืองท้ายคู่หน้า/หลังแบบ locking differentials

●   ด้านการปกป้องเครื่องยนต์และชุดเกียร์ในพื้นที่ทุรกันดาร ฟอร์ดได้ติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถที่มีขนาดใหญ่เกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับ Ranger รุ่นพื้นฐาน ตัวแผ่นกันกระแทกใช้เหล็กหนา 2.3 มม. ซึ่งนอกจากเครื่องยนต์และชุดเกียร์แล้ว ยังช่วยปกป้องชิ้นส่วนสำคัญอื่นๆ อาทิ หม้อน้ำ, ระบบบังคับเลี้ยว, คานด้านหน้า, อ่างน้ำมันเครื่อง และชุดเฟืองหน้า/หลังด้วย

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ford Ranger และ Ford Ranger Raptor ในประเทศไทย เชิญได้ที่ www.ford.co.th

2023 Ford Ranger Raptor