McLaren Elva สปอร์ต สปีดสเตอร์ เปิดจองในประเทศไทย

ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

●   นิชคาร์ กรุ๊ป เปิดจองรถสปอร์ตตัวถัง 2 ประตู สปีดสเตอร์ McLaren Elva รถสปอร์ตรุ่นที่ 5 ในไลน์อัพ McLaren Ultimate Series ต่อจาก McLaren F1, McLaren P1, McLaren Senna และ McLaren Speedtail โดยผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองได้ในราคา 200 ล้านบาท ทว่าบ้านเราจะได้โควต้ามาเพียง 2 คันเท่านั้น และเวลานี้มีผู้สั่งจองไปแล้ว 1 คัน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565)

●   McLaren Elva (เอลวา) เปิดตัวเป็นครั้งแรกใจช่วงปี 2020 ตัวรถเป็นรถสปอร์ต สปีดสเตอร์ แบบเครื่องยนต์วางกลาง ร่นไปทางด้านหลัง ขับเคลื่อนล้อหลัง ห้องโดยสารแบบ 2 ที่นั่ง ประตูเปิดเฉียงขึ้นด้านบนแบบ Dihedral ไม่มีหลังคาและกระจกบังลมหน้า (ในรุ่นปี 2021 Elva มีเวอร์ชั่นติดตั้งกระจกบังลมหน้าออกมาเพิ่มเติม) แชสซีส์แบบโมโนคอค แพลทฟอร์ม MonoCage III และชิ้นส่วนตัวถัง ขึ้นรูปด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ จำนวนการผลิตจำกัดเอาไว้ที่ 149 คัน

●   เบาะของ Elva เป็นแบบคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้รองรับศีรษะ, ไหล่ และหลัง ตัวเบาะจะสั้นกว่าเบาะมาตรฐานของแมคลาเรนรุ่นอื่นๆ เล็กน้อย เพื่อทำให้มีพื้นที่วางเท้าเพียงพอสำหรับการยืน หรือช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างการเข้า-ออกรถ สามารถเลือกสีและวัสดุของเบาะได้ทั้งด้านบนและด้านล่าง รวมถึงสั่งติดตั้งสายรัดเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุดเป็นออปชั่นได้ หากต้องการนำรถไปวิ่งแทร็คเดย์ในสนามแข่ง

●   และเพื่อให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากที่สุด ชุดระบบเครื่องเสียงจะไม่อยู่ในรายการอุปกรณ์มาตรฐานของ Elva ทว่าสามารถสั่งติดตั้งพิเศษได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ส่วนออปชั่นอื่นๆ ที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมยังมี ระบบยกตัวรถ และล้อฟอร์จอัลลอยน้ำหนักเบาพิเศษลาย 5 ก้าน (ล้อมาตรฐานลาย 10 ก้าน) และสามารถเปลี่ยนจากยาง Pirelli P Zero™ เป็นยางสมรรถนะสูง Pirelli P Zero Corsa™ ได้

●   หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของ Elva คือ การติดตั้งระบบ Active Air Management System (AAMS) เป็นครั้งแรก ตัวระบบจะนำอากาศผ่านจมูกของรถ แล้วปล่อยออกทางฝาครอบด้านหน้าด้วยความเร็วสูงเพื่อลำเลียงอากาศขึ้นไปเหนือห้องผู้โดยสารเพื่อสร้างบับเบิลที่เป็นเสมือนเกราะกำบังให้กับผู้โดยสาร

●   ชุดโดยระบบ AAMS ประกอบด้วย ช่องรับลมตรงกลางขนาดใหญ่เหนือสปลิทเตอร์หน้า, ช่องระบายอากาศของฝาครอบ, ตัวเบี่ยงลมคาร์บอนไฟเบอร์ที่สามารถยกขึ้นและลดระดับได้ในแนวตั้ง เมื่อ AAMS ทำงาน ตัวเบี่ยงลมบริเวณขอบของช่องระบายอากาศที่ฝาครอบด้านหน้าจะถูกยกขึ้น 150 มม. เพื่อสร้างพื้นที่แรงดันต่ำที่ช่องระบายอากาศ ซึ่งอากาศที่ถูกระบายออกมาจะถูกผันออกในรัศมี 130 องศาผ่านโครงข่ายของใบพัดคาร์บอนไฟเบอร์ตามขวาง ที่ติดตั้งอยู่ตลอดความยาวของฝาด้านหน้า เพื่อทำหน้าที่กระจายกระแสลมทั้งด้านหน้าและด้านข้างของห้องโดยสาร และช่วยในการจัดการอากาศในห้องโดยสารด้วย

●   การใช้งานในเมือง ระบบ AASM จะปิดการใช้งาน เนื่องจากระดับความเร็วของรถและการไหลของอากาศเข้าสู่ห้องโดยสารไม่สูงมาก แต่เมื่อความเร็วของรถเพิ่มขึ้น ระบบ AAMS จะทำงานโดยอัตโนมัติจนกว่าความเร็วจะลดลง ส่งสัญญาณให้ตัวเบี่ยงลมหดกลับ ทว่าผู้ขับสามารถกดปุ่มปิดระบบเองได้

●   นอกจากระบบ AAMS แล้ว Elva ยังมีชุดระบบแอร์เบรคแอคทีฟแบบเต็มความกว้างของรถด้วย โดยความสูงและมุมของแอร์เบรคนั้นได้รับการปรับแต่งเพื่อให้เกิดสมดุลอากาศที่เหมาะสมที่สุด

●   Elva ใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซินรหัส M840TR แบบ V8 ความจุ 4.0 ลิตร อัดอากาศด้วยทวิน-เทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังด้วยเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ กำลังสูงสุดผลิตได้ 815 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 81.5 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ต่ำกว่า 3 วินาที อัตราเร่ง 0 – 200 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที

●   ชุดระบบกันสะเทือนแบบแปรผัน Adaptive Dynamics Controls สามารถเปลี่ยนโหมดการควบคุมรถและระบบส่งกำลังได้ 3 รูปแบบ คือ Comfort, Sport หรือ Track และสามารถปรับโหมด Electronic Stability Control (ESC) ได้ 3 ระดับ พร้อมฟังก์ชั่น Variable Drift Control (VDC) เพิ่มความเร้าใจในการขับยิ่งขึ้น

นายวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ McLaren Bangkok

●   นายวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ McLaren Bangkok กล่าวว่า “ระยะเวลา 6 ปี ที่นิชคาร์ กรุ๊ป ได้สิทธิ์เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แมคลาเรน อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ถึงวันนี้สามารถสร้างการรับรู้ของแบรนด์ McLaren และขยายฐานลูกค้าได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการสร้างชุมชนคนรักแมคลาเรน McLaren’s club Thailand”

●   “การเปิดตัว McLaren Elva สุดยอดไฮเปอร์คาร์ระดับโลกรุ่นใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย เผยโฉมพร้อมเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาสัมผัสได้อย่างใกล้ชิดกับไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงในตระกูล Ultimate Series ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป โดย McLaren Bangkok ได้รับโควต้าจำนวน 2 คัน และมียอดจองแล้ว 1 คัน เห็นได้ชัดว่าตลาดคนไทยหันมาสนใจรถซูเปอร์คาร์ และไฮเปอร์คาร์ เพื่อสะสมเป็นคอลเลคชันมากขึ้น”

●   “McLaren Elva ยังถือเป็นการฉลองสุดยอดผลงานการออกแบบของ บรูซ แมคลาเรน (Bruce McLaren) กับ McLaren M1A ที่ทำไว้ในปี 1960 และรถแข่งในซีรีส์ Group 7 McLaren ที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะ และนวัตกรรมซึ่งถูกนำมาปรับให้อยู่ในรูปแบบของยนตรกรรมเพื่อผู้ขับ ผสานหลักการออกแบบและวิศวกรรมยุคใหม่ของแมคลาเรน พัฒนาเป็นยนตรกรรมสำหรับท้องถนน (Road Car) ในปัจจุบัน”

●   มร. ไมค์ ฟลูวิทท์ (Mike Flewitt) ประธานกรรมการบริหาร McLaren Automotive กล่าวว่า “McLaren Elva เป็นรถ Open-Cockpit สองที่นั่ง พร้อมแชสซีและตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์สั่งทำพิเศษ ให้ความอิสระเพราะปราศจากหลังคา กระจกหน้า และหน้าต่างด้านข้าง สามารถกระตุ้นการรับรู้ของผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่”

●   “McLaren Elva เป็นยนตรกรรมสำหรับท้องถนนที่มีน้ำหนักเบาที่สุดที่แมคลาเรนเคยผลิตมา พร้อมด้วยสมรรถนะอันน่าทึ่งในทุกๆ ด้าน ทั้งการเร่งความเร็ว ความคล่องตัว และการตอบสนองต่อผู้ขับขี่ในระดับที่ไม่ธรรมดา”

●   “เรามีความยินดีที่ได้รับสิทธิ์ในการใช้ Elva สำหรับรถเปิดประทุนคันล่าสุด ซึ่งจะเข้ามาเปิดมิติใหม่ให้กับ Ultimate Series ของแมคลาเรน และสานต่อประวัติศาสตร์ของรถสปอร์ต อันเป็นรากฐานความสำเร็จของแมคลาเรน ที่ไม่เพียงแต่กำหนดมาตรฐานใหม่ให้สนามแข่ง แต่ยังเป็นผู้วางหลักการออกแบบและวิศวกรรมที่ยังคงเป็นหัวใจของแบรนด์ ดังนั้น คงไม่มีวิธีการเฉลิมฉลองใดที่ดีไปกว่าการนำชื่อ Elva กลับมาอีกครั้ง”

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ bangkok.mclaren.com หรือแฟนเพจ facebook.com/McLarenBKK หรือติดต่อ McLaren Bangkok (นิชคาร์ กรุ๊ป) โทร. 02-321-1111      ●

Grand Opening : 2020 – 2021 McLaren Elva