February 5, 2022
Motortrivia Team (10170 articles)

Peugeot 2008 SUV รุ่นเล็ก เด่นที่สมรรถนะและรูปทรง

เรื่อง – ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

●   เปอโยต์ รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส กลับมาทำตลาดในเมืองไทยได้พักใหญ่ในนาม บริษัท เปอโยต์ ประเทศไทย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เปอโยต์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย รุกตลาดด้วยเอสยูวี 3 รุ่นหลักจากใหญ่ไปเล็ก ประกอบด้วย 5008, 3008 และรุ่นเล็กที่เพิ่งเปิดตัว 2008 ซึ่งเป็นรุ่นที่ทางมอเตอร์ทริเวียได้ทดลองขับ มีรุ่นย่อยเดียวคือ Allure เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 3 สูบ 1.2 ลิตร 130 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ราคา 1,249,000 บาท

แตกต่างทั้งรูปลักษณ์และอารมณ์

●   ถ้าชอบความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร หรือเบื่อฟิลลิ่งที่ได้จากรถแบรนด์หลัก เปอโยต์ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะฉีกความรู้สึกเดิมๆ ด้วยแนวทางการออกแบบที่แตกต่าง ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงภายในห้องโดยสาร ที่ให้อารมณ์และความรู้สึกในการขับอีกแบบ เป็นความแปลกใหม่ที่เข้าใจง่ายและใช้งานสะดวก

●   ตัวรถใช้แพล็ตฟอร์ม Compact Modular Platform หรือ CMP ที่ร่วมมือกันระหว่างเปอโยต์และซีตรอง มาในสไตล์ยกสูง อยู่ในระดับกลางๆ ระหว่างเก๋งกับเอสยูวีพื้นฐานปิกอัพ ไม่เตี้ยแบบเก๋งแต่ก็ไม่สูงโย่งมาก ทำให้ขึ้นลงสะดวกและทัศนวิสัยดี ขนาดตัวรถกะทัดรัด ยาว 4,300 มิลลิเมตร กว้าง 1,770 มิลลิเมตร สูง 1,550 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,605 มิลลิเมตร

●   ตัวรถเน้นเหลี่ยมสันเป็นหลัก แซมด้วยความโค้งมนในบางจุด ไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมระบบ High Beam Assist ไฟ Day Time ออกแบบเป็นสัญลักษณ์เขี้ยวสิงโต กระจังหน้าโครเมียมเล่นลวดลาย 3 มิติโดยมีสัญลักษณ์เปอโยต์เป็นศูนย์กลาง ตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็กและสีโครเมียมในจุดต่างๆ ด้านหน้าโดยรวมให้ความดุดัน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

●   ด้านข้างเห็นเหลี่ยมสันชัดเจนเมื่อแสงตกกระทบ กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว เป็นสีดำเงาเช่นเดียวกับแร็คหลังคาและเสาหลัง ยางขนาด 215/60 R17 ดูสมส่วนกับตัวรถ มีคิ้วขอบบังโคลนและที่ขอบล่างของตัวรถตามสไตล์ตัวลุย ไฟท้าย LED เช่นเดียวกับด้านหน้า มีไฟเบรกดวงที่ 3 ที่สปอยเลอร์หลังคา ฝากระโปรงท้ายไม่ใช่ไฟฟ้า แต่เปิด-ปิดได้เบาแรง กันชนท้ายสีดำแบบตัวลุย มีสปอตไลต์ที่มุมซ้ายขวา ปลายท่อไอเสียโครเมียมทรงกลมแยกออก 2 ฝั่ง

ภายในดีไซน์ล้ำ

●   ห้องโดยสารเน้นการออกแบบด้วยเหลี่ยมสันเช่นเดียวกับภายนอก สะดุดตาสุดๆ ด้วยทรงของพวงมาลัยที่คล้ายยานอวกาศ ชุดมาตรวัด i-Cockpit ขนาด 10 นิ้ว แสดงข้อมูลแบบ 3 มิติ ยิ่งให้ความรู้สึกล้ำยุค ตัวมาตรวัดแสดงข้อมูลได้หลากหลาย และเปลี่ยนการแสดงผลได้หลายรูปแบบ การแสดงข้อมูลเป็น 3 มิติ ออกแบบได้ดี ทำให้อ่านค่าได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่สับสนเพราะมีการแยกด้วยมิติและสีสันที่ต่างกัน เป็นอีกจุดที่ทำได้ดีและชอบมาก

●   พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง ที่คอพวงมาลัยฝั่งซ้ายเป็นก้านไฟหน้าที่มีระบบ Auto และไฟเลี้ยว ด้านล่างเป็นก้านขนาดใหญ่สำหรับระบบครูสคอนโทรล ส่วนฝั่งขวาควบคุมที่ปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ และที่หัวก้านใช้กดดูข้อมูลต่างๆ เช่น อัตราสิ้นเปลืองหรือความเร็วเฉลี่ย

●   คอนโซลกลางมีจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android ด้วยการเสียบสาย USB ความคมชัดของจออยู่ในระดับดี ขนาดจอไม่เล็กไม่ใหญ่ ตอบสนองการสัมผัสได้ดี ทำงานร่วมกับกล้องมองหลัง ที่มาพร้อมเส้นกะระยะแบบแปรผันตามการหมุนพวงมาลัย และแสดงภาพกราฟิกกะระยะจากเซ็นเซอร์หน้า 6 จุด หลัง 6 จุด โดยภาพกราฟิกจะแสดงระยะได้ละเอียดขึ้นเมื่อเข้าใกล้สิ่งกีดขวาง

●   ด้านล่างของจอเป็นช่องแอร์ทรงเหลี่ยม ต่อเนื่องด้วยชุดสวิตช์แบบกด ควบคุมระบบปรับอากาศและการล็อกรถ ดีไซน์ปุ่มได้สวยงามและให้ความรู้สึกในการกดที่หนักแน่นดี ติดตรงที่การควบคุมระบบปรับอากาศต้องเข้าไปที่หน้าจอคอนโซลกลาง ทำให้ขาดความสะดวกไปเล็กน้อย และไฟแสดงสถานะการทำงานของปุ่มกด มองเห็นได้ยากไปหน่อย

●   ถัดลงมาเป็นช่องวางของ 2 ชั้นขนาดใหญ่แบบเปิดโล่ง มีช่องเสียบ USB 2 จุด ฝั่งขวาใกล้ผู้ขับสำหรับเชื่อมต่อกับระบบเครื่องเสียง และช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์ คอนโซลเกียร์ตกแต่งด้วยสีดำเงา คันเกียร์สั้นกระชับ มีไฟบอกตำแหน่งเกียร์และโหมด +/- ต่อเนื่องด้วยสวิตช์เบรกมือไฟฟ้าและ Drive Mode – Normal, Eco และ Sport ข้างๆ มีที่วางแก้วน้ำแบบ 2 ระดับความลึก ที่เท้าแขนมีฝาปิด ด้านในจุของได้ไม่มากนัก บนเพดานมีชุดไฟส่องสว่าง กล่องเก็บแว่นตาย้ายไปติดตั้งในตำแหน่งมือจับบนเพดานฝั่งผู้ขับ ที่สะกิดใจมากหน่อยก็คือ กระจกมองหลังยังเป็นแบบโยกด้วยมือเพื่อลดแสงจากไฟหน้ารถคันหลัง ไม่ใช่แบบตัดแสงอัตโนมัติ

●   เบาะคู่หน้าปรับมือ ปรับสูง-ต่ำได้ทั้ง 2 ฝั่ง นั่งสบายพอตัว โอบกระชับกำลังดี ฟองน้ำจะออกแนวแข็งนิดๆ เพื่อให้กระจายแรงกดได้ดี นั่งนานๆ แล้วไม่เมื่อย ส่วนเบาะหลังถ้าจะนั่งต้องยกหมอนรองศีรษะขึ้น พนักพิงปรับองศามาพอเหมาะ และแยกพับได้แบบ 60:40 ที่วางขาเหลือเฟือสำหรับความสูง 169 เซนติเมตร เมื่อนั่งหลังผู้ขับที่มีความสูงเท่ากัน

●   ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายความจุ 434 ลิตร และเพิ่มเป็น 1,467 ลิตรเมื่อพับพนักพิง แผ่นปิดสัมภาระไม่มีเชือกโยงกับฝาท้าย เวลาหยิบของต้องยกขึ้นไปเบียดไว้กับเสาหลัง ซึ่งก็มักจะหล่นลงมาเสมอ แผ่นปิดพื้นห้องเก็บสัมภาระดูบอบบางไปนิด ถ้าวางของหนักๆ อาจจะเสียทรงได้ ด้านใต้มียางอะไหล่และชุดเครื่องมือฉุกเฉิน

●   ระบบความปลอดภัยหลักมีให้ครบ ทั้งแอร์แบ็กคู่หน้าและด้านข้าง ม่านนิรภัยด้านข้าง มีระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างทั้ง 2 ฝั่ง ระบบเตือนผู้ขับเหนื่อยล้า ระบบเตือนออกนอกเลน ระบบอ่านและจดจำป้ายจำกัดความเร็ว ระบบช่วยกะระยะหน้าหลัง Ultrasonic Park Assist ที่ให้มาส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ที่ได้ใช้งานบ่อยตลอดการขับ และไม่รบกวนการขับจนต้องปิดระบบไว้

●   วัสดุโดยรวมทั้งภายนอกและภายในเป็นไปตามระดับราคา มีทั้งพลาสติกแข็งฉีดขึ้นรูป และวัสดุที่อ่อนนุ่มในจุดที่สัมผัสบ่อยๆ ถ้าจะซื้อรถรุ่นนี้เพราะต้องการสมรรถนะการขับสไตล์รถยุโรปก็คงไม่ผิดหวัง ส่วนพื้นที่ใช้สอยและความกว้างขวางก็เกินคาดไปพอสมควร เบาะหลังนั่งสบายกว่าที่คิด ทั้งพื้นที่และทัศนวิสัยที่ค่อนข้างโปร่ง

●   การเก็บเสียงทำได้ดีตามความคาดหวัง ทั้งเสียงลมปะทะ เสียงยาง และเสียงเครื่องยนต์ รวมทั้งความสั่นสะเทือน มีให้สัมผัสน้อยมาก ขับได้อย่างผ่อนคลาย และรู้สึกว่าขับช้ากว่าความเร็วจริง

เครื่องยนต์ขับสนุกและประหยัด

●   สำหรับคนที่สนุกกับอัตราเร่ง เครื่องยนต์นับเป็นไฮไลต์ของรถรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ เพราะขับสนุก ตอบสนองทันใจ แถมได้ความประหยัดอีกด้วย เกียร์อัตโนมัติแบบฟันเฟือง ออกแบบและพัฒนาร่วมกับ Aisin AW มีการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วด้วยเทคโนโลยี Quickshift ตอบสนองดี น่าจะถูกใจคนที่ไม่ชอบฟิลลิ่งของเกียร์ CVT

●   เครื่องยนต์ตระกูล Puretech เบนซินไดเร็กอินเจ็คชั่น 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ความจุ 1,199 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 130 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 รอบต่อนาที ถังน้ำมันจุ 44 ลิตร ที่ฝาถังระบุใช้แก๊สโซฮอล์ 95 ตามสเปคโรงงานระบุ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 198 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

●   ดูจากสเปคก็ไม่ได้คาดหวังเรื่องความแรง เพราะรถคันไม่เล็ก แต่หลังจากรับรถแล้วขับไปขึ้นทางด่วน ต้องเร่งเพื่อทำความเร็วเข้าร่วมทางหลัก แค่กดคันเร่งเบาๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้ไม่ธรรมดา เร่งได้ทันใจตั้งแต่ความเร็วและรอบต่ำ กดคันเร่งไม่ต้องสุด ไม่ต้องลากรอบสูงก็ได้ความเร็วที่ต้องการแล้ว การตอบสนองคล้ายดีเซลเทอร์โบ คือ แรงบิดดีตั้งแต่รอบต่ำ แต่ดีกว่าดีเซลในเรื่องเสียงและความสั่นสะเทือน

●   ขับที่ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วต้องการแซง กดคันเร่งคิ๊กดาวน์เกียร์ตอบสนองดีสุดๆ เปลี่ยนเกียร์ลงอย่างรวดเร็ว ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงได้ง่ายๆ ด้วยการกดหรือผ่อนคันเร่ง ลองโหมด +/- ก็ทำงานได้ฉับไวเช่นกัน แต่แทบไม่จำเป็นเมื่อขับทางโล่ง โดยส่วนตัวจะใช้โหมดนี้ตอนขับขึ้น-ลงทางลาดชันหรือขับในเมืองมากกว่า

●   การออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ถ้ากดคันเร่งสุดจะมีอาการรอรอบนิดๆ แค่เสี้ยววินาที เมื่อมีไอเสียมากพอจะปั่นเทอร์โบให้ทำงาน รถก็จะพุ่งทะยานได้อย่างรวดเร็ว ขับใช้งานในเมืองก็แค่ปล่อยเบรกให้รถขยับแล้วเติมคันเร่ง ก็รถไหลไปตามสภาพการจราจรได้อย่างราบเรียบนุ่มนวล ขับในเมืองหรือความเร็วต่ำก็ขับง่ายเหมือนรถทั่วไป ขับทางไกลใช้ความเร็วสูงก็ตอบสนองดี

●   ขับทางไกลรวดเดียวจากจุดรับรถไปถึงจุดแวะ ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร ความเร็วเฉลี่ย 93 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยตามชุดมาตรวัด 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าประหยัดสำหรับเครื่องยนต์สมรรถนะระดับนี้ ตลอดทางขับไม่ช้า ใช้ความเร็วปริ่มๆ กฎหมายกำหนด และมีการลองอัตราเร่ง 2-3 ครั้ง

ช่วงล่างหนักแน่นนุ่มนวล

●   2008 ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ให้อารมณ์การขับตามสไตล์รถยุโรป คือ มีความหนักแน่นทั้งในแง่ความรู้สึกและเสียง เข้าโค้งได้เฉียบคมเบาแรงและแทบไม่มีอาการเอียงวูบวาบ ช๊อคฯ หนืดแน่นทั้งจังหวะยุบและยืด ทำให้ควบคุมรถได้ง่าย รถค่อนข้างนิ่งมั่นคง การดูดซับแรงสะเทือนทำได้ดี ขับนุ่มสบาย มีจังหวะขับผ่านผิวถนนเป็นหลุมบ่อที่จะรู้สึกตึงตังไปนิด ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ลมยางหรือเปล่า มีระบบ ESP ควบคุมการทรงตัว

●   พวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า เบามากที่ความเร็วต่ำ จนกังวลว่าที่ความเร็วสูงจะเบาจนหวิวหรือไม่ แต่เมื่อลองใช้ความเร็วระดับ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็พบว่าพวงมาลัยปรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น มีความหนืดหน่วง ไม่เบาหวิว ขับเร็วและเปลี่ยนช่องทางได้อย่างมั่นคง รถไม่กระชากวูบวาบ ไม่ต้องเกร็งพวงมาลัย

●   ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ พร้อมเอบีเอส การจับตัวของเบรกค่อนข้างไว ต้องปรับตัวให้เข้ากับรถก่อนจึงเบรกได้นุ่มนวล ประสิทธิภาพของเบรกเป็นอีกเรื่องที่ต้องชม เพราะเบรกได้อย่างมั่นใจ สร้างแรงเบรกแรงดึงได้หนักหน่วงดี ไม่มีอาการไหลหรือแถมให้หวาดเสียว

●   เปอโยต์ 2008 SUV มีดีที่เครื่องยนต์แรงพอตัวและประหยัด เกียร์อัตโนมัติตอบสนองรวดเร็วนุ่มนวลทำให้ขับสนุก โครงสร้างรถ, พวงมาลัย, ช่วงล่าง และเบรก หนักแน่นมั่นใจ ตามมาตรฐานของรถยุโรปที่เน้นเรื่องประสิทธิภาพการขับและความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนการตกแต่งทั้งวัสดุและอุปกรณ์ก็เป็นไปตามลำดับขั้นของราคา ความกว้างขวางก็ตามไซส์รถ

●   ในงบประมาณล้านต้นๆ ถ้าต้องการดีไซน์และสภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่ คาดหวังเรื่องการขับเป็นหลัก ชอบรถขนาดเล็กขับสนุก ไม่เน้นอุปกรณ์การตกแต่งหรือพื้นที่ใช้สอยมากนัก เปอโยต์ 2008 SUV ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และน่าจะเป็นแบรนด์ที่กลับมาทำตลาดในเมืองไทยอย่างจริงจังและยั่งยืน ปัจจุบันมี 5 ศูนย์บริการครบวงจรในกรุงเทพฯ และ 3 แห่งในต่างจังหวัด คือ อุบลราชธานี, ภูเก็ต และหาดใหญ่ และกำลังจะเปิดเพิ่มทั้งในภาคเหนือ, อีสาน, ภาคตะวันออก และภาคกลาง     ●

Test Drive : 2022 Peugeot 2008 SUV