March 1, 2022
Motortrivia Team (10197 articles)

2023 Ford Everest รุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 3 พื้นฐาน Ranger ใหม่

motortrivia

●   ฟอร์ด มอเตอร์ คอมพานี เผยโฉม SUV ขนาดกลางห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง Ford Everest รุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 3 แบบเวิลด์พรีเมียร์ ตัวรถออกแบบใหม่ทั้งหมดโดยใช้พื้นฐานวิศวกรรมเดียวกับ Ford Ranger รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมเติมความสะดวกสบายและชุดระบบความปลอดภัยที่ใช้เทคโนโลยีทันยุคสมัยมากขึ้นกว่าเดิม

●   Everest ใหม่มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ตัวรถมีระยะแทร็คระหว่างล้อซ้าย-ขวาเพิ่มขึ้น, ระยะฐานล้อยาวขึ้น และมีซุ้มล้อขนาดใหญ่ขึ้น จุดเด่นคือชุดไฟหน้า Matrix LED แบบใหม่ทรง C แบบเดียว Ford Ranger พร้อมระบบปรับระดับแสงไฟตามความเร็วอัตโนมัติ, ปรับแสงตามการเลี้ยวทั้งขณะจอดนิ่งและเคลื่อนที่ ส่วนการออกแบบภาพลักษณ์โดยรวมนั้นมีความทันสมัยขึ้น และดูแข็งแกร่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า

●   ห้องโดยสารออกแบบใหม่ทั้งหมด เพิ่มความเงียบมากขึ้น ในขณะที่อุปกรณ์พื้นฐานจะได้รับการยกระดับให้ทันยุคสมัยกว่าเดิม อาทิ มาตรวัดแบบฟูลดิจิทัลขนาด 8 หรือ 12.4 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย, จอทัชสกรีนส่วนกลางขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว, ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นใหม่ล่าสุด SYNC® 4A รองรับการสั่งงานด้วยเสียง, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน FordPass™ สามารถสตาร์ทรถจากระยะไกล, การตรวจเช็คสถานะต่างๆ ของรถ รวมไปถึงการล็อค/ปลดล็อครถผ่านสมาร์ทโฟน

●   ทั้งนี้ ตัวจอทัชสกรีนจะเชื่อมต่อเข้ากับกล้อง 360 องศา โดยมีหน้าจอแยกส่วนเพื่อช่วยให้ผู้ขับสามารถจอดรถได้สะดวกยิ่งขึ้นในพื้นที่แคบ หรือช่วยผู้ขับในการเดินทางบนสภาพเส้นทางที่มีความสมบุกสมบัน

●   อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ มี เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter หุ้มด้วยหนัง, เบรคมือไฟฟ้า, เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง สามารถปรับอุณภูมิและระบายอากาศได้, เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง รองรับฟังก์ชั่นจดจำการตั้งค่าของผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ระบบปรับอุณหภูมิของเบาะแถว 2 (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย), ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, คอนโซลกลางมีที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง และที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะคู่หน้า

●   นอกจากนี้ เบาะแถว 3 ยังมีการออกแบบให้ผู้โดยสารเข้า-ออกได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบให้เบาะแถว 2 ขยับมาทางด้านหน้ามากกว่าเดิม และผู้โดยสารทุกตำแหน่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระ และจุดชาร์จอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ด้วยการติดตั้งปลั๊กไฟทั้ง 3 แถวด้วย ส่วนการปรับ-พับนั้น เบาะแถว 2 จะสามารถปรับเลื่อนและพับได้แบบ 60:40, เบาะแถว 3 พับได้แบบ 50:50 มีระบบพับไฟฟ้าในบางรุ่นย่อย และเบาะแถว 2 และ 3 ยังสามารถพับแบบแบนราบเพื่อบรรทุกสัมภาระที่มีความยาวได้

●   หนึ่งในไฮไลท์ที่ทีมออกแบบของฟอร์ดคิดค้นวิธีป้องกันไม่ให้ของตกเมื่อเปิดประตูท้ายรถ คือโดยสร้างขอบเล็กๆ ที่พวกเขาเรียกกันเล่นๆ ในทีมว่า “จุดดักแอปเปิ้ล” หรือ Apple catcher บริเวณด้านหลังของที่เก็บสัมภาระ และ Everest ใหม่ยังมีที่เก็บของใต้พื้นรถเพื่อความเป็นระเบียบของห้องโดยสารด้วย

●   ด้านพละกำลัง Everest มีทางเลือกระหว่าง เครื่องยนต์ดีเซลตระกูล Power Stroke แบบ V6 ความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ต่อด้วยเครื่องยนต์ดีเซลตระกูล EcoBlue แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ไบ-เทอร์โบชาร์จ และเครื่องยนต์เบนซินตระกูล EcoBoost แบบ 4 สูบ ความจุ 2.3 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ทั้งหมดยังไม่ระบุตัวเลขกำลัง ส่วนระบบส่งกำลังมีรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ

●   ช่วงล่างปรับปรุงใหม่ให้สามารถใช้งานได้เอนกประสงค์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขับแบบออฟ-โรดเล็กๆ ตัวรถสามารถเลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อได้ 2 รูปแบบ ประกอบด้วยเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ พร้อมฟังก์ชั่นเปลี่ยนโหมดในขณะขับด้วยระบบไฟฟ้า (Electronic Shift-On-The-Fly) หรือที่เราเรียกกันว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์ ต่อด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ ที่มาพร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case – EMTC) ควบคุมด้วยไฟฟ้า พร้อมโหมดในการขับที่เลือกใช้งานให้เหมาะกับสภาพถนนได้

●   เสริมด้วยอุปกรณ์ป้องกันช่วงล่าง และมีโหมดในการขับแบบออฟ-โรดที่หลากหลายขึ้น นอกจากนี้ Everest ใหม่ยังมากับเฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential, ตะขอคู่หน้า และช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด หรือ Upfitter Switch ด้วย

●   ทั้งนี้ Everset ใหม่จะสามารถลุยน้ำได้ลึกสุด 800 มม. และมีความสามารถในการลากจูงสูงสุด 3,500 กก. ห้องเครื่องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งแบตเตอรี่สำรองอีกลูก เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์เสริม ส่วนราวหลังคาสามารถรองรับน้ำหนักได้ 350 กก. ขณะจอดอยู่กับที่ และรับน้ำหนักได้ 100 กก. ขณะเคลื่อนที่ รองรับการบรรทุกจักรยาน, เรือแคนู, กล่องสัมภาระ ไล่ไปจนถึงเต็นท์หลังคา พร้อมจุดยึดที่รองรับการใช้งานหลากหลาย

●   หมายเหตุ : ในบางประเทศ Everest ใหม่จะมีรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อให้เป็นทางเลือก

●   ชุดระบบความปลอดภัยมี ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 ตัวระบบจะช่วยบังคับพวงมาลัย, เกียร์, คันเร่ง และเบรค ในการจอดรถทั้งแบบขนานกับฟุทพาธ หรือเข้าซอง และระบบจะนำรถออกจากที่จอดแบบขนานเมื่อได้รับคำสั่ง ต่อด้วยถุงลมนิรภัยใหม่ ที่ติดตั้งระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า เพิ่มการป้องกันในกรณีที่มีการชนจากด้านข้าง และถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้า ป้องกันเข่าและขา ยังผลให้ Everest ใหม่มีถุงลมนิรภัยสูงสุด 9 ตำแหน่ง รวมถุงลมนิรภัยด้านผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้างระดับหน้าอกทั้ง 2 ฟาก และม่านถุงลมนิรภัยคู่ด้านข้าง ครอบคลุมเบาะทั้ง 3 แถว (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและประเทศที่จำหน่าย)

●   สำหรับระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติรุ่นใหม่ จะมีทั้งหมด  3 แบบ ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเทศที่วางจำหน่าย ประกอบด้วย (1) Adaptive cruise control with stop and go ควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go ช่วยรักษาความเร็วตามที่ตั้งไว้ และรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้า พร้อมเบรคให้รถจอดสนิทเมื่อจำเป็น (2) Adaptive cruise control with stop and go and lane centering ควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go และฟังก์ชั่นควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง โดยจับเส้นแบ่งช่องทางและช่วยควบคุมให้รถอยู่ตรงกลางช่องทางได้ (3) Intelligent adaptive cruise control ควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะ สามารถอ่านป้ายจราจรและปรับความเร็วอัตโนมัติตามที่กำหนดได้

●   นอกจากนี้ยังมี ระบบ Lane-keeping system with road-edge detection ช่วยป้องกันรถออกจากเส้นทางในพื้นที่ชนบท, ระบบ Evasive steer assist ออกแบบให้ทำงานขณะขับในเมืองหรือบนทางด่วน ใช้เรดาร์และกล้องตรวจจับรถที่ขับด้วยความเร็วต่ำหรือหยุดนิ่งด้านหน้า และส่งแรงช่วยผู้ขับบังคับพวงมาลัยหลบเพื่อลดความเสี่ยงจากการชน, ระบบ Reverse brake assist ช่วยให้ถอยหลังเพื่อเข้าซองจอดหรือจอดในพื้นที่แคบๆ ด้วยการเตือนด้วยเสียงและภาพ สามารถตรวจจับรถ จักรยาน และคนเดินถนนที่ผ่านมาด้านหลังได้ และยังช่วยเบรคให้รถจอดสนิท หากผู้ขับไม่ตอบสนองอย่างทันท่วงที, ระบบ Blind spot information system with trailer coverage ตรวจจับจุดบอดรอบคัน รวมถึงส่วนต่อพ่วง โดยจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อระบบคาดว่าอาจเกิดอันตราย รองรับเทรลเลอร์ที่มีความกว้างสูงสุด 2.4 เมตร และยาว 10 เมตร และระบบ Pre-collision assist with intersection functionality ช่วยส่งแรงเบรคอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดผลกระทบจากอุบัติเหตุ ขณะที่ผู้ขับกำลังเลี้ยวรถผ่านช่องทางที่มีรถวิ่งสวน เมื่อระบบประเมินว่าอาจเกิดการชน

●   การจำหน่าย Everest ใหม่จะแยกเป็น 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย Everest Sport, Everest Titanium Plus และรุ่นย่อยใหม่ Everest Platinum ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศเพื่อความเหมาะสม (เช่นในสหรัฐฯ จะมีรุ่นย่อย Ambiente และ Trend) โดยรายละเอียดทั้งหมดจะมีการประกาศอีกครั้งในช่วงการเปิดตัวในประเทศนั้นๆ

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.ford.co.th

2023 Ford Everest