March 17, 2022
Motortrivia Team (10170 articles)

2022 Hyundai CRETA SEL สัมผัสแรกก่อนเปิดตัวในไทย

เรื่อง – ภาพ – วีดิโอ : นาธัส แสงสุริยะ

●   ฮุนได เครต้า คอมแพคเอสยูวี เปิดตัวในไทยไปแล้วช่วงเย็นวันที่ 17 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยก่อนงานเปิดตัว 2 วัน ทีมงาน มอเตอร์ทริเวีย มีโอกาสได้สัมผัสรถรุ่นนี้อย่างใกล้ชิดเต็มอิ่ม 1 ชั่วโมง กับรุ่นสูงสุด SEL ขาดแค่การทดลองขับ เริ่มจากภายนอกที่ผสมผสานความสปอร์ตและความแข็งแกร่งของเอสยูวีเข้าไว้ด้วยกัน แฝงแนวทางการออกแบบของฮุนไดยุคใหม่ไว้อย่างเด่นชัดในทุกมุมมอง ส่วนภายในก็ดูล้ำสมัยด้วยมาตรวัด LCD อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน มีบางจุดที่ขาดหายไปบ้าง แต่ก็ชดเชยได้ดีกับระบบความปลอดภัยที่ให้มาอย่างครบครันเท่ากันทั้ง 2 รุ่นย่อย SE และ SEL

ภายนอกเอสยูวีทรงกระชับ

●   ฮุนได เครต้า มีความยาว 4,315 มิลลิเมตร กว้าง 1,790 มิลลิเมตร สูง 1,630 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,610 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,572/1,576 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า/หลัง 855/850 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 200 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 1,150 กิโลกรัม ภายนอกมีให้เลือก 3 สี คือ แดง Dragon Red Pearl, ขาว Creamy White และ เทา Titan Grey Metallic

●   ด้านหน้าสะดุดตาด้วยกระจังหน้าโครเมียมรมดำ ซ่อนไฟเดย์ไทม์แบบ LED ไว้อย่างแนบเนียน ด้านล่างเป็นไฟหน้า LED มัลติรีเฟล็กเตอร์ ดวงบนเป็นไฟต่ำ ดวงล่างเป็นไฟสูง พร้อมระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ ส่วนไฟเลี้ยวอยู่ด้านล่างสุด ด้านข้างเน้นความเป็นรถลุยเล็กๆ ด้วยคิ้วโป่งล้อสีดำ เส้นสายด้านข้างดูโฉบเฉี่ยว กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว พร้อมระบบเตือนจุดบอดด้านหลัง ล้อแม็กลาย Diamond Cut ขนาด 6.5×17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R17

●   ภายนอกของรุ่น SE และ SEL มีความแตกต่างจุดเดียวคือ รุ่น SEL มีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ พร้อมม่านบังแดดควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าแบบ One-Touch แผ่นกระจกหลังคาส่วนหน้าสามารถเปิดออกได้ ด้านท้ายแปลกตาด้วยการแบ่งไฟท้ายออกเป็นส่วนเล็กๆ โดยไฟท้าย ไฟเบรก และไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแบบ LED ส่วนด้านล่างสุดซ้าย-ขวาเป็นไฟถอยหลัง บนหลังคาติดตั้งสปอยเลอร์ และเสาอากาศแบบครีบฉลาม ประตูบานท้ายปลดล็อกด้วยระบบไฟฟ้า แต่ยังคงเปิด-ปิดด้วยมือ

ห้องโดยสารล้ำสมัย

●   เข้า-ออกจากรถได้อย่างสะดวกสบายด้วยระบบ Keyless เพียงพกรีโมทไว้กับตัว ก็สามารถล็อกและปลดล็อกได้ด้วยการกดปุ่มบนที่เปิดประตูคู่หน้า และกดปุ่มสตาร์ทที่มีไฟเรืองแสง ชุดมาตรวัดและจอสัมผัสที่คอนโซลกลาง มีดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง Staria ที่เคยทดลองขับมาแล้ว มาตรวัด LCD ความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้หลายรูปแบบ และเป็นศูนย์กลางการปรับตั้งระบบต่างๆ ของตัวรถ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ปรับได้ 4 ทิศทาง สูง-ต่ำ-ใกล้-ไกล ความแตกต่างในห้องโดยสารของทั้ง 2 รุ่น คือ รุ่น SEL ใช้ไฟส่องสว่างแบบ LED และมีไฟ Ambient Light

●   อุปกรณ์ความสะดวกอื่นๆ เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น เช่น การสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ผ่านรีโมทคอนโทรล, ครูสคอนโทรล, ปุ่มเลือกโหมดการขับ Eco, Comfort, Sport และ Smart, ปุ่มปรับโหมดการขับตามสภาพถนน Snow, Sand และ Mud, เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold, เบาะหนัง, แอร์อัตโนมัติ, Wireless Charger สำหรับ Smartphone, ช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์ 1 จุด, ช่อง USB-A 2 จุด, ที่เท้าแขนระหว่างเบาะหน้า, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำกลางเบาะหลัง พนักพิงเบาะหลังแยกพับได้ 60:40 พับแล้วยังไม่ถึงกับราบเป็นระดับเดียวกับพื้นห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย ซึ่งทำด้วยวัสดุอย่างดี ดูแข็งแรงทนทานรับน้ำหนักได้มาก และเมื่อเปิดพื้นห้องเก็บสัมภาระขึ้น จะเป็นชุดเครื่องมือประจำรถกับชุดปะยางฉุกเฉิน ไม่มียางอะไหล่ แต่มีหลุมเตรียมไว้ให้

●   ระบบความบันเทิงก็ให้มาเท่ากันทั้ง 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย หน้าจอที่คอนโซลกลาง ระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ MP3 Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, USB สำหรับเชื่อมต่อ, Bluetooth รองรับการสั่งงานด้วยเสียง พร้อมปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย และลำโพง 6 ตำแหน่ง จอกลางเชื่อมต่อกับกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะขณะถอย สีภายในมีแบบดำล้วนหรือทูโทน ดำ/น้ำตาล Black/Cognac Brown

ระบบความปลอดภัยเท่ากันทั้ง 2 รุ่นย่อย

●   สิ่งที่น่าชื่นชมคือ การให้ระบบความปลอดภัย HYUNDAI SmartSense ครบครันเท่ากันทั้ง 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย

  • FCA : ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision-Avoidance Assist
  • LKA : ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน Lane Keeping Assist
  • LFA : ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist
  • BCA : ระบบเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance Assist
  • RCCA : ระบบเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist
  • HBA : ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist
  • SEW : ระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Warning
  • DAW : ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้า Driver Attention Warning
  • MSLA : ระบบช่วยจำกัดความเร็ว
  • ROA : ระบบเตือนให้เช็คผู้โดยสารด้านหลัง

●   ระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน ก็ให้มาครบเช่นกันทั้ง 2 รุ่นย่อยเช่นกัน ประกอบด้วย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC, ระบบเสริมแรงเบรก BAS, ระบบควบคุมการทรงตัว VSM, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS, ระบบล็อคประตูอัตโนมัติตามความเร็วรถ, ระบบแจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ TPMS, กล้องมองหลังแสดงภาพขณะถอยจอด (Back Camera), เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง, ถุงลมนิรภัย 6 จุด (คู่หน้า, ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย) และระบบกุญแจ Immobilizer

เครื่องยนต์มีรุ่นเดียว

●   ฮุนได เครต้า ทั้ง 2 รุ่นย่อย ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เดียว รหัส Gamma II 1.5 MPI แบบเบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว D-CVVT กระบอกสูบ 75.6 มิลลิเมตร ช่วงชัก 83.4 มิลลิเมตร ความจุ 1,497 ซีซี อัตราส่วนการอัด 10.5:1 ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 ถังน้ำมันจุ 40 ลิตร ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT

●   ในช่วงถาม-ตอบ ระหว่างการเปิดตัวแบบออนไลน์จากประเทศอินโดนีเซีย สื่อมวลชนไทยได้ถามถึงความเป็นไปได้ ที่จะมีเครื่องยนต์รุ่นอื่นเข้ามาทำตลาดในไทย ทั้งเบนซินเทอร์โบ และดีเซลเทอร์โบ ก็ได้รับคำตอบว่า ต้องศึกษาความเป็นไปได้ก่อน แต่สำหรับช่วงแรกนี้จะมีเครื่องยนต์เบนซินไม่มีเทอร์โบเพียงรุ่นเดียว

ระบบกันสะเทือนมาตรฐานรถเล็ก

●   ฮุนได เครต้า ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์ 4 ล้อ ทั้ง 2 รุ่นย่อย มีตัวช่วยครบครันตามมาตรฐาน ระบบบังคับเลี้ยวแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า ที่ย้ายชุดมอเตอร์ขับเคลื่อนมาไว้ที่แกนพวงมาลัย (จากเดิมที่อยู่ในชุดแร็กฯ ด้านล่างใกล้ห้องเครื่องยนต์ซึ่งมีอุณหภูมิสูง) ทำให้ชุดมอเตอร์มีความทนทานใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

●   จากการสัมผัสอย่างใกล้ชิด 1 ชั่วโมงเต็ม เข้าใจว่า ฮุนได เครต้า น่าจะออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก ไม่เน้นความหวือหวาหรือสมรรถนะมากนัก เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังเพียงพอกับการใช้งาน เน้นเรื่องการใช้งานเช่น การเป็นเอสยูวีขนาดเล็กคล่องตัว ทัศนวิสัยดี และลุยได้นิดหน่อย ภายในกว้างขวางสำหรับ 4 ที่นั่ง เบาะหลังพับได้ เพิ่มพื้นที่ใส่สัมภาระ หน้าจอมาตรวัด LCD ทันสมัย ชุดเครื่องเสียงรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย มี Wireless Charger และมีซันรูฟ ส่วนสมรรถนะการขับจะเป็นอย่างไรนั้น จะมารายงานให้ทราบอีกครั้งหลังการทดลองขับ

– CRETA SE ราคา 949,000 บาท
– CRETA SEL ราคา 999,000 บาท

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮุนได ในประเทศไทย เชิญได้ที่เว็บไซท์ www.hyundai.co.th

Preview : 2022 Hyundai CRETA