Lamborghini เผยผลประกอบการ 2021 และประกาศร่วมเยียวยายูเครน

motortrivia

●   ออโตโมบิลิ แลมบอร์กินี เผยผลการดำเนินธุรกิจปี 2021 ผลประกอบการสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทฯ ทั้งด้านยอดจำหน่าย, มูลค่าการซื้อขาย และผลกำไร โดยแลมบอร์กินีระบุว่าเป็นผลมาจากกลยุทธ์ธุรกิจที่แข็งแกร่งตลอดปีที่ผ่านมา

●   สเตฟาน วิงเคิลมันน์ (Stephan Winkelmann) ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ แลมบอร์กินี กล่าวว่า “แลมบอร์กินีมีผลประกอบการทั้งด้านการซื้อขายและการเงินที่ดีเยี่ยม และนับว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของเราเลยทีเดียว ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทให้พร้อมเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้อย่างมั่นคงท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในปัจจุบัน หากวันนี้ เรายังรู้สึกสลดใจอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน และหวังให้ความบาดหมางนี้จบลงโดยเร็วภายใต้หลักประชาธิปไตย”

สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ แลมบอร์กินี

●   มูลค่าการซื้อขายในปี 2021 มีสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของแลใบอร์กินีที่ 1.95 พันล้านยูโร คิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มขึ้น +19% เมื่อเทียบกับปี 2020 อันเป็นผลมาจากการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ, การเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้สามารถเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานได้ถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

●   ผลกำไรจากการดำเนินงานนี้ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2018 และแตะที่ 20.2% ซึ่งเป็นระดับผลกำไรเดียวกับอุตสาหกรรมสินค้าลักชัวรี และก่อให้เกิดรายได้จากการดำเนินงานถึง 393 ล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้นถึง +49% เมื่อเทียบกับปี 2020 (264 ล้านยูโร) และด้วยแผนการลงทุนครั้งสำคัญที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทฯ ที่ 1.8 พันล้านยูโรในช่วงเวลา 5 ปีข้างหน้าเพื่อจัดหาเงินทุนด้วยตนเอง ทำให้แลมบอร์กินีตั้งเป้าหมายผลประกอบการทางการเงินในอนาคตที่ท้าทายขึ้น นั่นคือการเพิ่มผลกำไรให้ได้ 22 – 25% ในปีต่อๆ ไป

สนับสนุนการยุติสงครามในยูเครน

●   นอกจากนี้ แลมบอร์กินียังประกาศว่า ต้องการส่งมอบการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมให้กับชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในปัจจุบัน จึงบริจาคเงินจำนวน 500,000 ยูโร ให้แก่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (The United Nations High Commissioner for Refugees: UNHCR) ซึ่งได้ทำงานร่วมกับยูเครนมาตั้งแต่ปี 2014 รวมถึงการตัดสินใจระงับการดำเนินธุรกิจในรัสเซียด้วยเช่นกัน

●   เปาโล โพมา (Paolo Poma) กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ออโตโมบิลิ แลมบอร์กินี กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเรามีศักยภาพและความสามารถในการดำเนินงานเพื่อสร้างผลประกอบการทางการเงินอันยอดเยี่ยมได้ แม้ต้องเผชิญกับปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมหาศาลอย่างการแพร่ระบาดที่เรากำลังประสบอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งสถานการณ์ภูมิศาสตร์ทางการเมืองในปัจจุบันก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิดถึงผลกระทบที่อาจเกิดกับระบบเศรษฐกิจโลก”

●   “เราจะพยายามใช้มาตรการที่จำเป็นทุกวิถีทางเพื่อรักษาการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ของเราเอาไว้ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานการพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ซึ่งมีแผนการลงทุนครั้งใหญ่ของบริษัทรองรับ เพื่อนำพาเราสู่เส้นทางแห่งการเติบโต ซึ่งจะช่วยยกระดับสถานะทางการเงิน รวมถึงมูลค่าของแบรนด์และบริษัทของเราในอนาคต”

●   ปี 2021 นับเป็นปีที่มีการซื้อขายสูงที่สุด โดยมียอดจำหน่ายรถยนต์กว่า 8,405 คันทั่วโลก หรือเพิ่มขึ้น +13% จากปี 2020 เมื่อมองในภาพรวมจะพบว่ามี 3 ภูมิภาคหลักที่แลมบอร์กินีมีอัตราการเติบโตสูงในระดับเลข 2 หลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (+14%) เอเชียแปซิฟิก (+14%) และภูมิภาคยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (+12%) ทั้ง 3 ภูมิภาคมีอัตราส่วนยอดจำหน่ายเทียบกับยอดรวมทั่วโลกอยู่ที่ 34%, 27% และ 39% ตามลำดับ

●   สำหรับยอดจำหน่ายในสหรัฐฯ ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดที่ 2,472 คัน (+11%) รองลงมาคือจีน ซึ่งขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในปีนี้ที่ 935 คัน (+55%), เยอรมนี 706 คัน (+16%) และสหราชอาณาจักร 564 คัน (+9%) ส่วนในบ้านเกิดอย่างอิตาลี แลมบอร์กินีมียอดจำหน่ายที่ 359 คัน (+4%)

●   รุ่นรถที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในปี 2021 ที่ผ่านมาคือ Lamborghini Urus ซึ่งมียอดการส่งมอบทั้งหมด 5,021 คัน ต่อด้วย Lamborghini Huracan V10 จำนวน 2,586 คัน ซึ่งได้แรงหนุนจาก Huracan STO ปิดท้ายด้วย Lamborghini Aventador V12 จำนวน 798 คัน

●   นอกจากนี้ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แลมบอร์กินีจะเปิดตัว 2 นวัตกรรมใหม่ที่จะใช้งานใน Lamborghini Huracan และ Lamborghini Urus โดยแลมบอร์กินีระบุว่า นี่คือการปิดฉากยุคเครื่องยนต์สันดาปภายใน และปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคระบบขับเคลื่อนไฮบริด เริ่มด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำตลาดที่ Lamborghini Aventador ในช่วงปี 2023

●   ในปี 2021 ที่ผ่านมา แลมบอร์กินีได้ประกาศกลยุทธ์ Direzione Cor Tauri ซึ่งใช้ชื่อตามดวงดาวที่ส่องสว่างที่สุดในกลุ่มดาววัว (Taurus) โดยเป็นการดำเนินงาน 2 ระยะเพื่อเดินหน้าสู่การผลิตระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า คู่ไปกับการรักษา DNA ของแบรนด์

●   ในเบื้องต้น แลมบอร์กินีจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริดในช่วงปี 2023 จากนั้นจะปรับเปลี่ยนรถในสายการผลิตทุกรุ่นให้เป็นระบบไฮบริดภายในปี 2024 เป้าหมายหลักคือลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 50% ก่อนจะเข้าสู่การดำเนินงานในระยะสุดท้ายของกลยุทธ์ Direzione Cor Tauri นั่นคือการเข้าสู่ระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วนภายในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ พร้อมเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ 4 รุ่น ซึ่งจะทำตลาดคู่ไปกับการทำตลาดรถในกลุ่มไฮบริด

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แลมบอร์กินี ในประเทศไทย เชิญได้ที่ www.lamborghini.com หรือ facebook.com/lamborghinirenazzomotor หรือติดต่อ Lamborghini Bangkok (Renazzo Motor) โทร. 02-512-5111 ●