2023 BMW 7 Series รุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่น 7 พร้อมรุ่นไฟฟ้า BMW i7

6.5Kviews

เรื่อง : AREA 54

● บีเอ็มดับเบิลยู เปิดตัวรถหรูฟูลไซส์ BMW 7 Series รุ่นใหม่ล่าสุด เจนเนอเรชั่นที่ 7 พร้อมรุ่นย่อยใหม่พลังแบตเตอรี่ BMW i7 เป็นครั้งแรก เบื้องต้นตัวรถจะมากับชุดโคมไฟ 2 ชั้นแบบที่เราเห็นกันไปก่อนหน้าใน BMW X7 รุ่นปรับโฉม ในขณะที่รุ่นย่อยเครื่องยนต์ V12 จะถูกตัดออกไป เนื่องจากข้อกำหนดในเรื่องมลพิษที่เข้มงวดขึ้นอย่างมากในยุโรป ดังนั้น i7 รุ่นย่อยใหม่พลังไฟฟ้าจะถูกทำตลาดแทนที่รุ่น V12 ในฐานะรุ่นแฟลกชิพ

● 7 Series ขยายขนาดตัวขึ้นพอสมควร เทียบกับรุ่นก่อนหน้าความยาวรวมอยู่ที่ 5,390 มม. (+126 มม.) ทว่าความยาวฐานล้อกลับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 3,215 มม. (+5 มม.) อย่างไรก็ตาม ความยาวที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้พื้นที่บรรทุกสัมภาระเพิ่มขึ้นจากเดิม 516 ลิตร เป็น 541 ลิตร

● ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ห้องโดยสารที่ออกแบบใหม่ทุกจุด 7 Series มากับการยกระดับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกแบบใหม่ทั้งหมด เริ่มที่จอคู่แบบโค้ง BMW Curved Display ที่วางเรียงไว้ในกรอบเดียวกัน แยกเป็นมาตรวัดฟูลดิจิทัลวางคู่กับจอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ ควบคุมด้วยระบบปฏิบัติการ iDrive 8 รุ่นใหม่ล่าสุด, ถัดลงมาด้านล่างจะมีแผง Interaction Bar วางยาวตลอดแผงแดชบอร์ด ทำหน้าที่เป็นชุดไฟแอมเบียนท์สร้างบรรยากาศ และตอบสนองด้วยการการเปลี่ยนสีให้สอดคล้องกับจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ ปิดท้ายด้วย BMW Digital Key ซึ่งอนุญาตให้ผู้ขับควบคุมฟังก์ชั่นบางรายการได้ผ่านสมาร์ทโฟน

● ผู้โดยสารทางด้านหลังสามารถสร้างโลกส่วนตัวระหว่างเดินทางได้ด้วย Panoramic Sky Lounge LED roof หลังคาพาโนรามิคที่แสดงสีสันได้ผ่านชุดไฟ LED ต่อด้วยจอสำหรับชมภาพยนตร์แบบสไลด์เก็บแนบไปกับหลังคา BMW Theater Screen ขนาด 31.3 นิ้ว ความละเอียดสูงในระดับ 8K บิลท์-อิน Amazon Fire TV พร้อมเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทด้วยเทคโนโลยี 5G ปิดท้ายด้วยระบบเสียง Diamond Surround Sound system กำลังขับ 1,965 วัทท์ จากชุดลำโพง 18 ตำแหน่งของแบรนด์ไฮเอนด์อย่าง Bowers & Wilkins

● การควบคุมระบบต่างๆ ในห้องโดยสารและในทุกตำแหน่งเบาะ แทบจะเป็นระบบดิจิทัลเกือบ 100% เต็ม แม้แต่ชุดควบคุมระบบสัมผัสพร้อมจอแสดงผลในลักษณะสมาร์ทโฟนบนแผงประตู (Touchpad ขนาด 5.5 นิ้ว)… หากวันนี้บีเอ็มดับเบิลยูจะเคลมว่า BMW 7 Series ใหม่คือรถที่หรูหราและไฮเทคที่สุดในกลุ่ม F-segment ณ วันปัจจุบัน นี่เป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่เกินเลยแต่อย่างใด

● ด้าน BMW i7 xDrive60 ซึ่งนับเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่รุ่นแรกของ 7 Series ตัวรถจะมากับขนาดและงานออกแบบที่ไม่ต่างจาก 7 Series รุ่นพื้นฐานมากนัก ทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร

● คู่แข่งของ i7 โดยตรงก็คือรถแบตเตอรี่ในกลุ่มรถหรูอย่าง Audi A8 e-tron หรือ Mercedes-Benz EQS การส่งมอบจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 นี้

● และนอกเหนือจากชุดระบบความปลอดภัยในกลุ่ม ADAS ตามยุคสมัยแล้ว 7 Series ใหม่จะมากับออปชั่นติดตั้งเพิ่มเติม Driving Assistance Professional Package ซึ่งเป็นระบบช่วยขับอัตโนมัติ และช่วยให้ผู้ขับละมือจากพวงมาลัยได้ตามความเหมาะสม ทำงานได้จาก 0 จนถึงความเร็วสูงสุดที่ 130 กม./ชม

2023 BMW i7 รถแบตเตอรี่รุ่นแรกในอนุกรม 7 Series

● รุ่นพื้นฐานพลัง ICE เริ่มที่รุ่นย่อย BMW 740i ตัวรถใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร เทอรฺโบชาร์จ เสริมกำลังด้วยระบบ Mild-hybrid เทคโนโลยี 48-volt กำลังสูงสุด 380 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 55 กก.-ม. เทียบกับรุ่นก่อนหน้าจะมีกำลังเพิ่มขึ้นประมาณ +41 แรงม้า

● ขยับขึ้นไปที่รุ่น ICE พลังแรง BMW 760i xDrive ตัวรถใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 4.4 ลิตร พ่วงด้วยระบบ Mild-hybrid 48-volt กำลังสูงสุดผลิตได้ 543 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 76.4 กก.-ม. เทียบกับรุ่นก่อนหน้าจะมีกำลังเพิ่มขึ้นประมาณ +41 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ภายใน 5 วินาที

● รุ่นท๊อปพลังไฟฟ้า BMW i7 xDrive60 ในฐานะรุ่นธงแทนที่รุ่น V12 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่รุ่นใหม่ แยกหมุนเพลาหน้า/หลังแบบ AWD ด้านหน้ากำลังสูงสุด 259 แรงม้า ด้านหลัง 312 แรงม้า กำลังรวมทั้งระบบ 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 75.8 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 482 กม.

● ราคาจำหน่ายรุ่นพื้นฐาน BMW 740i เริ่มต้นที่ 93,300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.2 ล้านบาท ต่อด้วย BMW 760i xDrive ราคา 113,600 ดอลลาร์ หรือราว 3.9 ล้านบาท ส่วนรุ่นไฟฟ้าล้วน BMW i7 xDrive60 เริ่มต้นที่ 119,300 ดอลลาร์ หรือราว 4.1 ล้านบาทครับ ●