
Group Test : Hyundai Creta SEL รถดีที่ต้องทดลองขับ
เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ
● หลังจากได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดไปแล้ว ครั้งนี้ทีมงานมอเตอร์ทริเวีย ได้ทดลองขับเอสยูวีไซส์เล็ก ฮุนได เครต้า รุ่นท๊อป SEL อย่างเต็มอิ่มบนเส้นทางล่องใต้ นครศรีธรรมราช-พัทลุง-สงขลา-หาดใหญ่ ระยะทางรวมกว่า 500 กิโลเมตร หลังจากทดลองขับบอกได้เลยว่า รถรุ่นนี้มีดีกว่าที่คิด
● ชื่อรุ่นเครต้า มาจากชื่อเกาะ Crete ในประเทศกรีซ ซึ่งมีความหมายว่า Creative หรือความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้เกาะ Crete ซึ่งอยู่ในทะเลในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีจุดเด่นเรื่องการผสมผสานสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายและเงียบสงบ เข้ากับกิจกรรมกลางแจ้งที่มีชีวิตชีวาและกระฉับกระเฉง ซึ่งตรงกับบุคลิกของ ฮุนได เครต้า

ภายนอกดูแข็งแกร่งมีเอกลักษณ์
● เครต้า ออกแบบด้วยแนวคิด Futuristic มีดีไซน์เฉพาะตัว แฝงความแข็งแกร่งในแบบ Dynamic Muscular ระบบไฟส่องสว่างด้านหน้าแบบ LED ซ่อนไฟ DLR ไว้อย่างกลมกลืนกับกระจังหน้าดีไซน์ล้ำสมัย ถ้าไม่เปิดไฟจะแทบไม่เห็นว่าเป็นโคม ชุดไฟหน้า LED มัลติรีเฟล็กเตอร์อยู่มุมล่างของกันชน มีการตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียมและเมทัลลิกในจุดต่างๆ มุมมองด้านหน้าดูสวยทันสมัยแปลกตา
● ด้านข้างมีการเล่นลวดลายด้วยแถบเมทัลลิกบริเวณเสาหลัง ถ้าเป็นรถสีเข้มจะเห็นได้ชัด ล้อแม็กลาย Diamond Cut ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60/17 ในแง่ความสวยงามจะดูเล็กไปนิด แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งในแง่สมรรถนะและการซับแรงสะเทือน ช่องว่างของซุ้มล้อไม่มากเกินไป มีแถบพลาสติกสีดำโอบรอบขอบตัวรถด้านล่างสไตล์รถลุย เหนือซุ้มล้อทั้งหน้าและหลัง มีเส้นคาดให้ความรู้สึกแข็งแกร่งมีพลัง กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวและระบบเตือนจุดบอดด้านข้าง

● หนึ่งในไฮไลต์ของรถรุ่นนี้คือ หลังคาพาโนรามิก ซันรูฟ หลังคากระจกครอบคลุมถึงเบาะนั่งแถวหลัง ส่วนบานกระจกเปิดได้เฉพาะครึ่งหน้า ม่านบังแสงมีความหนาพอสมควร กันความร้อนได้ดีในระดับหนึ่ง สั่งงานด้วยระบบไฟฟ้าแบบ One-Touch
● ชุดไฟท้ายแบบ LED ทรงแปลกตา ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบูมเมอแรง มีไฟท้าย ไฟเบรก และไฟเลี้ยว ส่วนไฟถอยหลังแยกไปติดตั้งด้านล่างของกันชน ระบบล็อกฝาท้ายแบบไฟฟ้า เปิด-ปิดแบบอัตโนมือ มีช๊อกฯ ช่วยผ่อนแรงตอนเปิด เหนือกระจกบานท้ายมีไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ติดตั้งรวมอยู่กับสปอยเลอร์
● รูปลักษณ์ภายนอกโดยรวมดูกะทัดรัดสมส่วน และดูมีความหนักแน่นแข็งแรง มิติตัวรถมีความยาว 4,315 มิลิลเมตร กว้าง 1,790 มิลลิเมตร สูง 1,630 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,610 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 200 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถ 1,150 กิโลกรัม

ภายในเด่นที่ชุดมาตรวัดและระบบความปลอดภัย
● ห้องโดยสารโดยรวมของ เครต้า ก็ทำได้ดี ทั้งในด้านการเลือกใช้วัสดุที่ดูดี พื้นผิวสัมผัสให้ความรู้สึกที่ดี การประกอบที่แน่นหนา และดีไซน์ร่วมสมัย เรียบง่ายสะอาดตาใช้งานสะดวก ความกว้างขวางก็ทำได้ดีเกินคาดเมื่อเทียบกับขนาดรถ
● จุดเด่นของรถรุ่นนี้คือ ชุดมาตรวัดที่เลือกได้ว่าจะให้ปรับเปลี่ยนตามโหมดการขับ หรือจะเปลี่ยนเองก็ได้ ตรงนี้ยกมาจากรุ่นใหญ่อย่าง Staria ภาพกราฟิกสวยงามคมชัดเต็มตา ด้วยจอแสดงผลแบบ Full LCD ขนาด 10.25 นิ้ว มีจอย่อยตรงกลางมาตรวัด สำหรับปรับตั้งระบบต่างๆ ของรถด้วยปุ่มบนพวงมาลัยฝั่งขวา ปุ่มเดียวสั่งงานได้ทั้งการเลื่อนเมนู และกดลงเพื่อเข้าสู่เมนู ใช้งานสะดวกมากๆ

● จอกลางระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ให้ภาพที่คมชัดเกินราคา และตอบสนองการสัมผัสได้รวดเร็วติดมือ ดีตรงที่รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto เพราะต้องใช้แผนที่นำทางตลอดทริป เชื่อมต่อได้แบบไร้สายไม่รุงรัง ถ้าจะชาร์จแบตสมาร์ทโฟน ก็มีแท่นชาร์จแบบไร้สายมาให้ พลังไฟในการชาร์จพึ่งพาได้ วางไว้ไม่นานก็ชาร์จเต็ม
● ภายในห้องโดยสารมีการซีลเก็บเสียงที่ดี ใช้ความเร็วเกินกฎหมายไปเล็กน้อย ห้องโดยสารค่อนข้างเงียบแทบไม่มีเสียงลมปะทะหรือเสียงยางบดถนน ส่วนเสียงเครื่องยนต์ก็เงียบ แต่ถ้าคิ๊กดาวน์ลากรอบสูง ก็จะมีเสียงดังเข้ามาในห้องโดยสารบ้างเป็นเรื่องปกติ การเก็บเสียงโดยรวมทำได้ดีแม้เป็นรถทรงสูง ชิ้นส่วนต่างๆ ในห้องโดยสาร ประกอบเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา ขับแล้วไม่มีเสียงแปลกปลอมรบกวน ปุ่มและสวิตช์ต่างๆ ใช้งานแล้วให้ความรู้สึกหนักแน่นมีราคา
● เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวเบาะรองนั่งสั้นไปนิด รองต้นขาได้น้อยไปหน่อย แต่ปรับความแข็งความนุ่มของเบาะมาได้พอดี นั่งครั้งแรกอาจรู้สึกว่าแข็ง แต่จะนั่งได้นานโดยไม่เมื่อยก้นเพราะเบาะจะกระจายแรงกดได้ดีกว่าเบาะที่นุ่มเกินไป แรงกดจะลงเฉพาะส่วนทำให้เมื่อยเร็ว ปีกของพนักพิงไม่ได้สูงหรือกระชับร่างกายมากนัก เน้นนั่งสบายๆ และกระชับพอตัวเมื่อคาดเข็มขัดนิรภัย

● พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง เบาะผู้ขับปรับระดับได้ ทำให้ปรับท่านั่งให้ถูกต้องและนั่งสบายได้ง่าย ปรับแล้วให้ทัศนวิสัยรอบคันที่โปร่งตา เป็นรถที่ขับง่ายใช้เวลาขับไม่นานก็ชิน และขับได้อย่างคล่องแคล่วมั่นใจ
● ลองย้ายไปนั่งเบาะหลัง มีที่เท้าแขนตรงกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ มีช่องแอร์และช่อง USB-A กับที่วางของจุกจิก พนักพิงเบาะหลังปรับมุมเอียงมาพอเหมาะ ไม่ตั้งชันหรือเอียงมากเกินไป นั่งสบายไม่ปวดหลัง นั่งหลังตรงพิงพนักเต็มหลังแล้วศีรษะไม่โผล่เกินแนวหลังคา พื้นที่ด้านหลังพอดีๆ กับความสูง 169 เซนติเมตร ขับกลางวันแดดเปรี้ยง รถติดฟิล์มแล้ว แอร์เย็นมาถึงด้านหลัง สำหรับคนขี้หนาวคงไม่บ่นว่าร้อน ตรงศีรษะบริเวณหลังคาแก้ว ก็ไม่รู้สึกว่ามีไอความร้อนลงมากระทบ พื้นที่กระจกด้านข้างของเบาะหลังก็กว้างขวางพอตัว มุมมองไม่อึดอัด และกระจกบานหลังเปิดลงได้สุดด้วย ด้านหลังนั่ง 2 คนได้สบายๆ ถ้าตัวไม่ใหญ่หรือสูงเกิน 170 เซนติเมตร
● พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายก็กว้างขวางตามระดับรถ นั่ง 4 คน กระเป๋าเดินทาง 4 ใบ ยังพอใส่ได้แต่ต้องตั้งใจจัดเรียงกันหน่อย เพื่อใช้พื้นที่ให้คุ้ม พนักพิงเบาะหลังแยกพับได้ สำหรับเคลื่อนย้ายสัมภาระขนาดใหญ่หรือมีความยาว เป็นอีกหนึ่งข้อดีของรถ 5 ประตู เพราะประตูบานท้ายมักจะเปิดได้กว้าง
● ระบบความปลอดภัย Hyundai SmartSense ส่วนใหญ่ทำงานได้สอดคล้องกับการขับแล้ว แต่มีบางระบบที่ยังต้องปิดการใช้งานหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ เช่น ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน โดยเฉพาะเมื่อขับบนทางคดเคี้ยว ที่ต้องมีการขับชิดเส้นถนนบ้าง ระบบจะดึงมากไปนิดทำให้รบกวนการขับ ส่วนระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาและควบคุมพวงมาลัย ใช้งานได้ดี ระบบไม่ถึงกับดึงพวงมาลัยกลับ แต่จะมีแรงต้านนิดๆ เสมือนเตือนว่ามีรถในมุมอับสายตา

เครื่องยนต์มีเซอร์ไพรส์
● เครต้า ทำตลาดในไทยด้วยเครื่องยนต์เดียว แบบเบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว D-CVVT ความจุ 1,497 ซีซี กระบอกสูบ 75.6 มิลลิเมตร ช่วงชัก 83.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนการอัด 10.5:1 กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที รองรับ E10 ขับเคลื่อนล้อหน้า ถังน้ำมันจุ 40 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ทางฮุนไดเรียกว่า IVT หรือ Intelligent Variable Transmission อัตราทดเดินหน้า 2.680-0.385 เฟืองท้าย 6.483
● ดูจากสเปคแล้วไม่มีอะไรตื่นเต้น แต่หลังจากได้ขับไปไม่นานกลับรู้สึกแปลกใจ เพราะทั้งเครื่องยนต์และเกียร์ทำงานสอดคล้องกันได้ดีกว่าที่คิด ไม่ได้ขับแล้วจี๊ดจ๊าดหวือหวาแน่ๆ แต่เป็นการขับที่ได้อย่างใจ ต้องยกความดีความชอบให้เกียร์ที่ยังคงเป็นแบบ CVT ขับเคลื่อนพูเลย์ด้วยโซ่ ที่ทางฮุนไดระบุว่าให้การตอบสนองที่ดีเพราะไม่ยืดเหมือนสายพานโลหะ และเสียงไม่ดัง ซึ่งจากการทดลองขับก็พบว่าเสียงไม่ดังจริงๆ
● เกียร์ IVT ให้การตอบสนองที่ทันใจ ความรู้สึกใกล้เคียงเกียร์อัตโนมัติแบบฟันเฟือง มีช่วงเปลี่ยนเกียร์ต่อเกียร์ให้สัมผัส ในขณะที่ยังคงความนุ่มนวลและให้อัตราเร่งที่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อดีของเกียร์ CVT ลองเปลี่ยนเกียร์เองด้วยโหมด Sport ก็รู้สึกว่าการตอบสนองเร็วกว่าเกียร์ทั้งแบบ CVT ด้วยกันและเกียร์แบบฟันเฟืองในรถทั่วไป ดึงคันเกียร์แล้วเกียร์เปลี่ยนให้ทันที ตอบสนองเร็วและนุ่มนวล
● เครื่องยนต์ไม่มีอะไรหวือหวา รองรับ E10 ขับความเร็วเดินทาง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้รอบแถวๆ 1,800-2,500 รอบต่อนาที รอบอาจจะไม่ได้ต่ำมาก เพราะเฟืองท้ายค่อนข้างสูง 6.483 ต้องทำไว้เผื่อจุผู้โดยสารเต็มพิกัดในรถที่ใช้เครื่องยนต์บล็อกเล็ก การจับคู่กับเกียร์ CVT ที่มีอัตราทดในช่วงกว้าง จึงช่วยลดรอบเมื่อใช้ความเร็วสูงได้พอสมควร ขับทดสอบเป็นขบวน มีเร่งบ้างเมื่อถนนโล่ง ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยก่อนเปลี่ยนผู้ขับ 14 กิโลเมตรต่อลิตร

ระบบกันสะเทือนไว้ใจได้
● เครต้า ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง เซตมาเน้นความหนึบแน่น ขับทางไกลเส้นทางคดเคี้ยวได้อย่างมั่นใจ ตัวรถไม่โคลงหรือโยนเอนจนน่าหวาดเสียว ควบคุมรถได้ง่ายและเบาแรง ขับความเร็วต่ำก็ออกแนวหนักแน่น ไม่ย้วย
● พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ที่ปรับน้ำหนักมาไม่ถึงกับเบาหวิว ยังมีความหนืดและส่งความรู้สึกมาถึงพวงมาลัยบ้าง การหมุนและตีคืนพวงมาลัยทำได้ราบเรียบต่อเนื่องและแม่นยำ ด้วยการผ่อนแรงของพวงมาลัยที่พอเหมาะ ทำให้ขับในเมืองหรือขับในที่คับแคบได้คล่องแคล่ว ขับทางไกลใช้ความเร็วสูงก็นิ่งหนักแน่นมั่นใจ ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ช่วงแรกที่แตะเบรก มีการจับตัวค่อนข้างไว ไม่ต้องออกแรงเยอะ ใช้งานในเมืองรถติดๆ จะไม่ค่อยเมื่อย แต่ก็ต้องปรับตัวบ้างถึงจะเบรกได้นุ่มนวล การสร้างแรงดึงแรงเบรกทำได้ตามมาตรฐาน ดึงรั้งตัวรถได้อย่างมั่นคง ไม่มีอาการ Fade หรือไหลแถม
● ฮุนได เครต้า เด่นที่รูปลักษณ์ดีไซน์แปลกตา ฉีกแนวจากรถรุ่นหลัก ภายในมีชุดมาตรวัดปรับเปลี่ยนได้ อุปกรณ์ความปลอดภัยเท่าเทียมกันทั้ง 2 รุ่นย่อย เครื่องยนต์ไม่หวือหวา แต่ได้เกียร์มาช่วยยกระดับการขับให้ดีขึ้นแบบผิดคาด ระบบกันสะเทือนหนักแน่นมั่นใจ และเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งเช่นเดียวกับรถฮุนไดทุกรุ่นที่เคยทำตลาดในเมืองไทย ตัวรถโดยรวมนับว่าดี แต่ยังต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คุณภาพและสร้างความมั่นใจ สำหรับตอนนี้คงต้องใช้ราคาดึงดูดให้คนมาทดลองขับ ซึ่งก็น่าจะเป็นงานหนักของฮุนได เพราะราคาที่เปิดมาแม้จะไม่ได้สูงเมื่อเทียบกับคุณภาพตัวรถ แต่ก็ใกล้เคียงกับคู่แข่งอื่นๆ
● ฮุนได เครต้า มี 2 รุ่นย่อย ต่างกันที่อุปกรณ์มาตรฐาน SE ราคา 949,000 บาท และ SEL ราคา 999,000 บาท ราคาต่างกันไม่มาก อุปกรณ์มาตรฐานต่างกันไม่เยอะ เหตุผลเดียวที่จะไม่ซื้อรุ่น SEL คือ ไม่ชอบซันรูฟ ●
ขอบคุณ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
