June 25, 2022
Motortrivia Team (10167 articles)

Audi Q3 40 TFSI quattro S line Black Edition เอสยูวีทรงกระชับ สมรรถนะไม่ธรรมดา

เรื่อง – ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

●   หลังจากได้สัมผัสรหัสแรง RS หลายรุ่นเมื่อหลายเดือนก่อนในการทดสอบแบบกลุ่ม ทีมงานมอเตอร์ทริเวียมีโอกาสได้ลองขับรถยนต์ออดี้อย่างเต็มอิ่มอีกครั้งกับรุ่น Q3 40 TFSI quattro S line Black Edition เป็นรถรุ่นที่ชอบเป็นการส่วนตัว ด้วยตัวรถขนาดไม่ใหญ่ ยกสูงนิดๆ เข้า-ออกสะดวก ทัศนวิสัยดี เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร 180 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro กับการใช้งานทั่วไปจะเป็นอย่างไร ได้อะไรกลับมาบ้างถ้ายอมจ่าย 2.799 ล้านบาท

ทะมัดทะแมงแฝงความดุดัน

●   มิติตัวรถไม่เล็กไม่ใหญ่ มีความยาว 4,484 มิลลิเมตร กว้าง 1,849 มิลลิเมตร สูง 1,616 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,584/1,576 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 183 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 1,620 กิโลกรัม

●   การออกแบบเน้นเหลี่ยมสันที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งดุดัน เส้นบนฝากระโปรงหน้าทำให้ดูมีมิติ รับกับโคมไฟหน้าทรงแหลมพร้อมระบบไฟส่องสว่างแบบ LED มีไฟส่องออกด้านข้างตัวรถเพิ่มทัศนวิสัย กระจังหน้าทรง 8 เหลี่ยม ล้อมกรอบด้วยสีดำเงา Piano Black ด้านล่างเป็นช่องรับอากาศที่เล่นเส้นสายและเหลี่ยมสันที่คมเข้ม

●   ด้านข้างดูแกร่งด้วยเส้นพาดเหนือโป่งล้อหน้าและหลัง แนวเส้นหลังคาค่อนข้างตรงก่อนจะลาดลงเล็กน้อยสู่ด้านหลัง ส่วนแนวขอบล่างของกระจกข้างเป็นแนวเดียวกับเส้นฝากระโปรงหน้า ให้ความรู้สึกหนักแน่น ล้อขนาด 8.5×19 นิ้ว ยางใหญ่สะใจ 255/45 R19 เท่ากันทั้ง 4 ล้อ ซุ้มล้อมีช่องว่างกำลังเหมาะกับสไตล์รถลุย

●   ด้านท้ายยังคงเน้นความเฉี่ยวด้วยไฟท้าย LED ทรงเฉียง มีสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 เหนือกระจกบานท้าย ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า มีระบบกันกหนีบและปรับความสูงในการเปิดได้ด้วยการกดปุ่มที่ฝาท้าย กันชนท้ายตกแต่งแบบสปอร์ต ท่อไอเสียแยกออกซ้าย-ขวา แต่ซ่อนอยู่ด้านหลังกันชน

●   รูปลักษณ์ภายนอกโดยรวมดูลงตัว และปราดเปรียวพอตัว แม้จะไม่เท่ารุ่น Q3 Sportback ท้ายลาด แต่ก็เป็นเอสยูวีไซส์เล็กที่ดูสปอร์ตทะมัดทะแมง และดูไม่สูงวัย คันที่ขับเป็นสีดำ Mythos black เป็นสีเดียวที่มีภายในให้เลือกทั้งสีดำล้วนหรือสีเทา

สปอร์ตบนความเอนกประสงค์

●   เช่นเดียวกับภายนอก ห้องโดยสารของ Q3 ถูกออกแบบให้มีความสปอร์ตเต็มตัวโดยเน้นเหลี่ยมสันเช่นกัน แต่ที่น่าชื่นชมคือ ยังคงใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์ตามสไตล์รถ เช่น ช่องเก็บของขนาดใหญ่ที่บานประตูคู่หน้า ที่เท้าแขนกลางเบาะหน้าความสูงได้ 4 ระดับ และเลื่อนได้ ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เบาะนั่งด้านหลังปรับเลื่อนได้ พนักพิงเบาะหลังแยกพับและปรับเอนได้ มีที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำ ส่วนที่เก็บสัมภาระด้านท้ายก็มีช่องกั้น และช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์ มีพื้นที่เก็บสัมภาระ 530-1,525 ลิตร เมื่อพับพนักพิงเบาะหลัง

●   เรื่องความสปอร์ตไม่ต้องพูดถึง เพราะสัมผัสได้ตั้งแต่เข้าไปนั่งหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง D-Shape ปรับได้ 4 ทิศทางด้วยระบบกลไก วงพวงมาลัยอวบกระชับมือ และมี Paddle Shift ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ ชุดมาตรวัดดิจิตอล Virtual Cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว ความละเอียดสูงคมชัด ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลและเรียกดูข้อมูลการขับได้ รวมทั้งปรับตั้งได้ว่าจะให้แสดงผลอะไรบ้าง จอที่คอนโซลกลางแบบสัมผัส MMI Touch ขนาด 8.8 นิ้ว เป็นศูนย์กลางการควบคุมระบบลึกๆ ของรถ รวมทั้งระบบข้อมูลความบันเทิงและกล้องมองหลัง ให้ภาพละเอียดคมชัดสมราคา การสัมผัสสั่งงานรวดเร็วลื่นมือ

●   ถัดลงมาเป็นชุดสวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศ หน้าตาเรียบๆ ใช้งานง่ายสะดวกรวดเร็ว ด้านล่างมีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อยู่ทางขวา ส่วนทางซ้ายเป็นสวิตช์ของระบบเครื่องเสียง เหนือช่องเก็บของที่คอนโซลกลาง มีชุดสวิตช์ควบคุมระบบการขับและไฟฉุกเฉิน มีช่อง USB-A และ USB-C

●   คันเกียร์เป็นแบบโยกขึ้นลง มีตำแหน่ง +/- ให้ใช้งานสำหรับคนที่ไม่ถนัด Paddle Shift ด้านหลังคอนโซลเกียร์เป็นที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง สวิตช์เบรกมือไฟฟ้า Auto Hold และช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์ บนเพดานมีสวิตช์ไฟอ่านแผนที่ระบบสัมผัส แตะที่ตัวโคมเบาๆ เพื่อเปิด-ปิด กระจกมองหลังแบบไร้กรอบตัดแสงแยงตาอัตโนมัติ ไม่มีซันรูฟซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่จำเป็น

●   เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมที่ดันหลังไฟฟ้า ปั้มสัญลักษณ์ S line ที่พนักพิง ปีกเบาะค่อนข้างโอบกระชับ แต่อยู่ในตำแหน่งต่ำ จึงไม่ติดข้อศอกเวลาหมุนพวงมาลัย เบาะนั่งปรับความยาวของที่รองต้นขาได้ด้วยช่วยให้นั่งสบายขึ้น เบาะหลังสไตล์เอสยูวีแท้ๆ เพราะเลื่อนเดินหน้าถอยหลังได้ และปรับความเอนพนักพิงได้ รวมทั้งแยกพับพนักพิงได้เกือบราบเป็นแนวเดียวกับพื้นห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังอยู่ในระดับกลางๆ นั่งสบายถ้าผู้ขับและผู้โดยสารด้านหลังมีความสูงประมาณ 170-175 เซนติเมตร ที่วางขาไม่ถึงกับเหลือเฟือ ส่วนพื้นที่เหนือศีรษะยังสบายๆ

●   คุณภาพของห้องโดยสารไม่เสียชื่อรถยุโรป เพราะให้ความรู้สึกหนักแน่น เงียบสงบ และปลอดภัยมั่นใจเวลาขับ การเก็บเสียงทำได้ดีทั้งเสียงลมปะทะและเสียงยาง ใช้วัสดุคุณภาพดีแม้จะมีบางส่วนที่เป็นพลาสติกแข็งแซมๆ มากับพื้นผิวแบบ Soft Touch แต่ก็ทำได้เนียนตา สวิตช์ควบคุมระบบต่างๆ กดใช้งานแล้วให้ความรู้สึกแน่นหนา โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าเป็นภายในสีดำล้วนน่าจะสวยสปอร์ตถูกใจมากกว่านี้ แต่บางคนอาจไม่ชอบเพราะดูมืดทึบเกินไป

แรงเกินคาด ประหยัดเกินตัว

●   เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ไดเร็คอินเจ็คชั่น DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ ความจุ 1,984 ซีซี กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,900-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,940 รอบต่อนาที ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro เกียร์อัตโนมัติ S Tronic 7 จังหวะ ตามสเปคระบุ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถังน้ำมันจุ 60 ลิตร

●   เห็นตัวเลขแรงบิดสูงสุดที่มาในรอบต่ำ ก็พอจะเดาได้ว่าการตอบสนองจะเป็นอย่างไร แล้วก็ไม่ผิดคาด เพราะอัตราเร่งช่วงความเร็วต่ำ-ปานกลางค่อนข้างทันใจ ไม่ต้องกดคันเร่งสุดก็เพียงพอแล้ว การเร่งแซงฉุกเฉินที่ต้องอาศัยการคิ๊กดาวน์ เกียร์ก็ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจและนุ่มนวล ทั้งจังหวะเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำและไล่ขึ้นเกียร์สูง เครื่องยนต์ตอบสนองดี ไล่ขึ้นรอบสูงได้อย่างลื่นไหลแตะขีดแดงที่ 6,000 รอบต่อนาทีได้แบบสบายๆ ไม่ต้องรีดเค้น ในแต่ละโหมดการขับก็มีการตอบสนองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนสัมผัสได้ ขับใช้งานทั่วไปอยู่โหมด Auto ก็เหลือเฟือแล้ว ถ้าอยากสนุกขึ้นอีกนิดก็ไปที่ Dynamic อัตราสิ้นเปลืองอยู่ในระดับรับได้ ขับเดินทางไกลใช้ความเร็วตามกฎหมายมีเร่งแซงบ้าง ได้ตัวเลขตามชุดมาตรวัด 15-17 กิโลเมตรต่อลิตร

Quattro ขับง่ายและมั่นใจ

●   รถรุ่นนี้ใช้ระบบกันสะเทือนอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังมัลติลิงก์ ยางใหญ่หน้ากว้างแก้มเตี้ย 255/45 R19 ช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ทำให้รถรุ่นนี้มีการยึดเกาะถนนที่ดี และยังมีการดูดซับแรงกระแทกได้พอสมควร จึงขับได้แบบไม่ต้องระวังมาก แต่เจอหลุมเจอเนินก็ชลอความเร็วลงบ้างเพื่อความปลอดภัยและถนอมรถ

●   ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro มีส่วนช่วยให้ขับรถรุ่นนี้ได้ง่ายและปลอดภัยมั่นใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้าใช้ความเร็วไม่สูงจัดจ้านจนเกินไป ตัวรถจะมีความมั่นคงและเป็นกลางโดยเฉพาะบนทางโค้งแคบๆ สามารถเลี้ยวได้คมและนิ่ง ไม่ขาดไม่เกิน ขับง่ายขับสนุกเบาแรง และไม่ต้องเคร่งเครียดกับการควบคุมรถมากนัก พวงมาลัยมีความแม่นยำและน้ำหนักกำลังดี ระบบกันสะเทือนที่เซตมาให้ค่อนข้างหนึด ตัวรถมีการเอียงหรือโคลงไม่มากนัก จึงเป็นเอสยูวีไซส์เล็กที่ขับใช้งานทั่วไปก็ขับสบาย รองรับการขับความเร็วสูงได้ดี เข้าโค้งได้นิ่งและแม่นยำ ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ด้านหน้ามีครีบระบายความร้อน ควบคุมแรงเบรกได้ง่าย และสร้างแรงเบรกได้หนักแน่นสมกับความแรง

●   Audi Q3 40 TFSI quattro S line Black Edition ให้ความรู้สึกการขับค่อนไปทางสปอร์ต สัมผัสได้ทั้งจากการตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ พวงมาลัย และช่วงล่าง ขับสนุกโดยไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วสูง อัตราเร่งอยู่ในเกณฑ์ดี เกียร์ฉลาดฉับไว ระบบกันสะเทือนหนักแน่นไว้ใจได้ ภายในแบบสปอร์ตแต่ไม่ละทิ้งความเอนกประสงค์ตามสไตล์รถ ถ้าชอบรถสูงหน่อย ขนาดไม่เทอะทะ สมรรถนะดี รถรุ่นนี้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจกับราคา 2,799,000 บาท พร้อมรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร     ●

ขอบคุณ บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด (อาวดี้ ประเทศไทย)

Test Drive : 2022 Audi Q3 40 TFSI quattro S line Black Edition