Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC ครอสโอเวอร์ไซส์เล็กสเปคโหด

1.5Kviews

เรื่อง – ภาพ – วีดิโอ : นาธัส แสงสุริยะ

● Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC รถแรงอีกหนึ่งรุ่นที่ทีมงานมอเตอร์ทริเวียได้ทดลองขับในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ตรงสเปคทั้งรูปร่างหน้าตาที่ยกสูงนิดๆ เข้าออกง่ายทัศนวิสัยดี และขนาดตัวรถที่กะทัดรัดคล่องตัว โดนใจด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 306 แรงม้า กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาสมกับเป็นรถในฝัน 3,190,000 บาท

ความแรงที่เลือกได้

● ขับสนุกด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1,991 ซีซี อัดอากาศด้วยเทอร์โบแบบ Twin-Scroll พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 225 กิโลวัตต์ หรือ 306 แรงม้า (PS) ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบดูอัล-คลัตช์ 8 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT DCT 8G พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

● ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC สามารถแปรผันการส่งกำลังไปยังล้อหน้าและล้อได้ตามลักษณะการขับ เพื่อให้มีการยึดเกาะถนนที่ดีที่สุด เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถังน้ำมันจุ 51 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 13 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ 171-175 กรัมต่อกิโลเมตร

● ลองขับในสนามช้างครบทั้ง 3 โหมด อุ่นเครื่องด้วย Comfort โดยส่วนตัวเป็นคนขับรถไม่เร็ว โหมดนี้ก็ให้การตอบสนองที่เหลือเฟือแล้ว ขับได้นุ่มนวล คุมคันเร่งง่าย ขับในสนามแข่งด้วยความเร็วสบายๆ ก็ไม่รู้สึกว่าอืดอาดหรือไม่ทันใจ ถ้ากดคันเร่งหนักๆ เครื่องยนต์และเกียร์ก็ตอบสนองได้ทันท่วงที โดยรวมโหมดนี้ขับง่าย ราบเรียบนุ่มนวล ความแรงก็ไม่ได้ถูกลดทอนลงไป เหมาะกับการใช้งานบนถนน

● จากนั้นลองขยับเป็นโหมด Sport และ Sport+ ตามลำดับ ก็พบว่าเหมาะกับการขับในสนามแข่งเป็นอย่างยิ่ง แม้จะไม่ได้ใช้ความเร็วมากขึ้น แต่ก็ขับสนุกขึ้นด้วยการตอบสนองที่กระฉับกระเฉงกว่า เสมือนคันเร่งเบาลง เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจขึ้น ทำให้ไม่กลับไปขับในโหมด Comfort อีกเลย

ดุดันบนทรงกระชับ

● GLA รุ่นมาตรฐานจะออกแนวเรียบร้อยน่ารัก แต่เมื่อเป็น AMG ก็ดุดันขึ้นแบบผิดหูผิดตาด้วยกระจังหน้า AMG-Specific Radiator Grille ทรงซี่ตั้งเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประกบด้วยไฟหน้าทรงเฉียงแบบ LED High Performance กันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมช่องระบายอากาศ AMG Front Apron ที่แซมความหรูไว้นิดๆ ด้วยคิ้วโครเมียม ฝากระโปรงหน้ายกสันสไตล์ Power Dome ทำให้ภาพลักษณ์ด้านหน้าดุดันยิ่งขึ้น

● ตัวรถด้านข้างเน้นความคลีนไม่มีเส้นสายมากนัก ตัวรถยกสูงนิดๆ แต่ยังให้ความสปอร์ตด้วยล้อแม็ก AMG Light-Alloy Wheel แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ยางขนาด 235/50 R19 เท่ากันทั้ง 4 ล้อ เว้นช่องว่างซุ้มล้อกำลังสวย ตกแต่งด้วยโครเมียมล้อมกรอบกระจกข้าง สเกิร์ตข้าง และแร็กหลังคา ส่วนด้านท้ายบ่งบอกความไม่ธรรมดาด้วยปลายท่อไอเสียทรงกลมคู่แยกออกซ้าย-ขวา โดยเป็นชุดท่อไอเสียแบบ AMG-Sport Exhaust System ปรับเสียงตามโหมดการขับ คั่นกลางด้วย Diffuser ที่รวมเป็นชิ้นเดียวกับกันชนท้ายทรงสปอร์ต สปอยเลอร์หลังแบบ AMG Rear Apron ปิดทับด้วย AMG Spoiler Lip ชิ้นเล็ก พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3

● มิติตัวรถมีความยาว 4,436 มิลลิเมตร กว้าง 1,849 มิลลิเมตร สูง 1,588 มิลลิเมตร

ความสปอร์ตที่ปลอดโปร่ง

● อีกหนึ่งข้อดีของรถทรงสูงสไตล์เอสยูวีหรือครอสโอเวอร์ก็คือ ห้องโดยสารที่โปร่งโล่งและทัศนวิสัยรอบด้านที่ดี สำหรับคันนี้ก็ถูกเติมความสปอร์ตด้วย AMG Interior Package ทั้งการตกแต่งภายในสีดำล้วนแซมด้วยสีแดง และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมปัดลาย Light Longitudinal-Grain Aluminium Trim รวมทั้งสีดำเงา Piano Black ที่แบ่งสัดส่วนได้อย่างพอเหมาะ พร้อมลูกเล่น Ambient Lighting 64 เฉดสี ทำให้ห้องโดยสารมีทั้งความสปอร์ตและมีชีวิตชีวา

● มาตรวัดความเร็วและวัดรอบเครื่องยนต์แบบ All-Digital Instrument Display ขนาด 10.25 นิ้ว ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้หลายรูปแบบ จอยาวต่อเนื่องไปถึงบริเวณคอนโซลกลางซึ่งเป็นจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX ทำงานร่วมกับระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist ค้นหาที่ว่างพร้อมกล้องมองหลัง PARKTRONIC มีระบบแผนที่นําทางแบบ Hard-Disc Navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester®

● พวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa มี Paddle Shift ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 1 โซน พร้อมช่องแอร์ทรงกลมสไตล์ครีบใบพัด คันเกียร์อยู่ที่คอพวงมาลัยฝั่งขวา ส่วนที่คอนโซลเกียร์ติดตั้ง AMG Centre Console ควบคุมฟังก์ชันการขับที่หลากหลาย เบาะนั่งแบบสปอร์ต AMG Sport Seat หุ้มหนัง ARTICO/DINAMICA Microfibre Black พร้อมเข็มขัดนิรภัยสีแดง Designo เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังพับได้แบบ 1/3 และ 2/3 ประตูท้ายไฟฟ้า ที่เก็บของด้านหลัง 435-1,430 ลิตร

● ด้วยทรงรถแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู แนวหลังคาค่อนข้างตรง ไม่ได้ลาดเอียงมากนัก ทำให้ที่นั่งด้านหลังมีพื้นที่เหนือศีรษะเพียงพอสำหรับความสูง 170 เซนติเมตร เช่นเดียวกับที่วางขาถ้านั่งหลังผู้ขับที่มีความสูงใกล้เคียงกัน ผู้ใหญ่นั่งได้สบายๆ 4 คน

ช่วงล่างปรับได้ตามความชอบ

● ระบบกันสะเทือนอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังโฟร์ลิงก์ แบบ AMG RIDE CONTROL Suspension เลือกได้ 3 โหมด Comfort โหมด Sport และ Sport+ ขับในสนามแข่ง แต่ไม่ได้ขับเร็วจัดจ้าน ใช้โหมด Comfort ก็เอาอยู่ ส่วนโหมด Sport และ Sport+ ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างอย่างชัดเจน ช่วงล่างหนึบกระชับขึ้น แฮนด์ลิ่งคมขึ้น ใช้ความเร็วสูงในโค้งได้อย่างมั่นใจ ส่วนความสั่นสะเทือนหรือแข็งกระด้างมีให้สัมผัสไม่มากนัก น่าจะเพราะขับในสนามแข่งที่พื้นแทร็คเรียบสนิท

● ตรงชุดควบคุมระบบการเปลี่ยนเกียร์และปรับความหนืดช่วงล่าง มีสวิตช์ควบคุมระบบ Electronic Stability Programme ESP® ซึ่งปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้ขับได้อย่างปลอดภัยและขับสนุก แบ่งเป็น ESP® ON สำหรับการขับใช้งานทั่วไป ESP® SPORT HANDLING MODE สำหรับการขับแบบสปอร์ต โดยระบบจะเพิ่มการส่งกำลังไปที่ล้อหลังมากขึ้น และ ESP® OFF สำหรับการขับในสนามแข่ง โดยจะมีไฟแจ้งสถานะของ ESP® บนชุดมาตรวัดด้วย ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ด้านหน้ามีรูระบายความร้อน AMG High-Performance Brake System คาลิเปอร์สีเทาพร้อมสัญลักษณ์ AMG เบรกหนักๆ จนคนขับเวียนหัวก็ยังไม่มีอาการ Fade

● Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC เป็นรถยนต์ในกลุ่ม AMG รุ่นเริ่มต้น ราคาไม่แรงมาก ตัวรถเป็นทรงแฮช์แบ็กยกสูงนิดๆ คันไม่ใหญ่มาก จึงใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์และใช้งานในชีวิตประจำวันได้สะดวก ซื้อคันเดียวจบได้ทั้งรถแรงขับสนุกและใช้งานสะดวก การยึดเกาะถนนการทรงตัวทำได้ดี ขับในสนามแข่งได้สบาย ภายในห้องโดยสารปลอดโปร่ง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน

ขอบคุณ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด