Lifestyle Test Drive ไปกับโตโยต้า ไหว้พระ ปลูกปะการัง ดำน้ำ

346views

เรื่อง – ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

● โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จัดกิจกรรม Lifestyle Test Drive ก่อนวันหยุดยาว บนเส้นทางกรุงเทพฯ – พัทยา ระยะทางรวมประมาณ 352 กิโลเมตร โดยการเดินทางครั้งนี้ไม่เน้นการทดสอบรถ แต่เป็นการเดินทางแบบผ่อนคลาย สนุกสนาน เสมือนเป็นการพาเพื่อน หรือครอบครัวไปพักผ่อน

● เริ่มต้นนัดรวมตัวสื่อมวลชนกันที่ Toyota Alive บางนา กิโลเมตรที่ 3 เป็นโชว์รูมที่ทันสมัย ทั้งภายในและภายนอก แบ่งหลายโซน เพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันไป ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ และพื้นที่สันทนาการ ก่อนเข้างานและเดินทางมีการตรวจ ATK เพื่อความปลอดภัยของทุกคน และรับประทานอาหารว่าง จากนั้นได้เวลาเข้าฟังบรรยายข้อมูลรถและการเดินทางโดย คุณจักรกฤษณ์ รัตนกำเนิด รองผู้อำนวยการ โครงการฝ่ายบริหารการตลาด และประชาสัมพันธ์ ร่วมด้วยคุณโยธิน ตรุสานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์

● ทีมงานมอเตอร์ทริเวียเดินทางด้วย โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส รุ่น 1.8 GR Sport 140 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 จังหวะ ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ มีการปรับเซตช่วงล่างสไตล์สปอร์ตให้มีความหนึบขึ้น

● ภายนอกตกแต่งสปอร์ตด้วยสีดำ เปียนโน แบล็ก ไฟหน้า และไฟตัดหมอก LED ส่วนไฟท้าย Full LED พร้อมโลโก้ GR Sport ล้อแม็ก 17 นิ้ว ยาง 225/45/17 ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย ตกแต่งสไตล์สปอร์ตด้วยด้ายแดง เบาะคู่หน้ามีตัวอักษร GR บนหมอนรองศรีษะ จอแสดงผลข้อมูลสีขนาด 7 นิ้ว

● การเดินทางเป็นไปในลักษณะใช้งานตามชีวิตประจำวัน ไม่เน้นการขับแบบทดสอบจึงง่ายต่อการขับ ไม่เครียดมากนัก อัตราเร่ง ช่วงล่าง เพียงพอกับการใช้งานปกติได้สบาย มีผ่อนความเร็ว เร่งแซงบ้างตามจังหวะ และทริปนี้ทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ไม่ได้จัดรถเพื่อเดินทางเฉพาะรุ่น โคโรลล่า อัลติส เพียงรุ่นเดียว ยังมีคัมรี่ CHR และเซียนต้า ใหม่ ให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับด้วย

● จุดหมายแรกคือ อาคารศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์ ตั้งอยู่ที่โรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา สังกัดขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ได้จัดทำโครงการศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์

● เป้าหมายของศูนย์ฯ คือการเป็นศูนย์การเรียนรู้ในท้องถิ่นเพื่อการอนุรักษ์ด้วยกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม พัฒนาเป็นองค์ความรู้สู่การแก้ปัญหาทรัพยากรทางทะเลในท้องถิ่น อีกทั้งยังจัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางทะเลที่มีความปลอดภัย มีสื่อและอุปกรณ์ประกอบการศึกษา มีบุคลากรที่สามารถเป็นผู้นำในการขยายผลความรู้ สามารถให้บริการการเรียนรู้กับนักเรียนในท้องถิ่นและจากสถานศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ สามารถสื่อสารถึงทรัพยากรที่มีค่าของจังหวัดกับองค์กรต่างๆ หรือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังได้ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนของโครงการ มีส่วนร่วมวางแผนแก้ปัญหา พัฒนาสิ่งแวดล้อมทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ข้อมูลอ้างอิง www.chonburilocal.go.th) โดย คุณครูดำรงค์ สุภาษิต เป็นผู้บรรยายให้ข้อมูลความรู้แก่สื่อมวลชน ทำให้ตระหนักถึงการอนุรักษ์และคงรักษาปะการังให้มีชีวิตอยู่ เพื่อระบบนิเวศทางทะเล และถือเป็นวัตถุประสงค์หนึ่งที่ทางโตโยต้าส่งเสริมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลยั่งยืนต่อไป

● จากนั้นเดินทางใกล้ๆ เพื่อไปสักการะหลวงพ่อดำ วัดช่องแสมสาร หลวงพ่อดำ แต่เดิมนั้นเป็นพระพุทธรูปลงรักสีดำ ประดิษฐานอยู่กลางแจ้งโดยไม่มีหลังคาปกคลุมบนเขาเจดีย์ ชาวบ้าน ชาวเรือประมงและผู้ที่สัญจรไปมาจึงเรียกว่า “หลวงพ่อดำ” ด้วยความศรัทธาของชาวประมง และผู้ที่เคยขอพรและประสบโชคสำเร็จได้ร่วมกันสร้างวิหารหลังคา ฝากั้น และบูรณะจนปัจจุบันได้สร้างเป็นวิหารจตุรมุข

● ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง และมีภาพปูนปั้นเรื่องราวพุทธประวัติหลวงพ่อดำ วัดเขาเจดีย์ ช่องแสมสาร หรือ พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสูง 5 เมตร ประดิษฐานในพระวิหารวัดเขาเจดีย์ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีรูปใบหน้าอิ่มเอิบ ดวงตาทอดต่ำลงแผ่เมตตาให้กับผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้ นับเป็นพระพุทธปฏิมากรศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง ซึ่งชาวประมงฝั่งตะวันออกเลื่อมใสศรัทธา ทุกครั้งที่ออกทะเลเพื่อหาปลาก็มักจะมาสักการะและขอพรเพื่อให้มีโชคลาภ ออกทะเลหาปลาได้จำนวนมาก และกลับจากทะเลโดยปลอดภัย (ข้อมูลอ้างอิง sattahipcity.com)

● จากนั้นเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน มารีน่า คาเฟ่ ช่องแสมสาร สถานที่แห่งนี้เป็นจุดเดินทางปลูกปะการังและดำน้ำด้วย นั่งพักรออาหารย่อยสักครู่ ต่างก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อทำกิจกรรมปลูกปะการังและดำน้ำ การเดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ท จำนวน 3 ลำ จำนวนผู้โดยสาร 12 – 13 คน/ลำ สำหรับผู้ที่ต้องการทำกิจกรรมปลูกปะการังอย่างเดียว เจ้าหน้าที่ให้โดยสารเรือลำเดียวกัน เพื่อลดความสับสน และการจัดการ

● จุดปลูกปะการัง ไม่ไกลจากจุดขึ้นเรือมากนัก เจ้าหน้าที่ชี้ให้ดู มองตามทิศทางก็ดูไม่ไกลจริงๆ ก่อนขึ้นเรือทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัย ถึงจุดหมายมีเจ้าหน้าที่และผู้บรรยายข้อมูลรออยู่บนโป๊ะเทียบเรือขนาดใหญ่

● เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับปะการัง และวิธีปลูก ปะการังเพื่ออนุรักษ์และขยายพันธุ์ครั้งนี้ เรียกว่า ปะการังเขาขวาง วัสดุที่ใช้ปลูกคือท่อพีวีซี เพื่อช่วยในการยึดเกาะกิ่งปะการังให้เติบโตขยายกิ่งก้านต่อไป สร้างความสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศ และคืนชีวิตปะการังสู่ท้องทะเล

● วิธีการปลูกนำกิ่งปะการังที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ ใส่ลงไปในท่อพีวีซี ที่มีการผ่าออกเป็น 4 แฉก เพื่อสามารถนำกิ่งปะการังใส่เข้าไป และไม่ควรใส่กิ่งลึกเกินไป จะทำให้ปะการังตาย ความลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตรก็พอ

● จากนั้นรีบนำปะการังที่อยู่ในท่อพีวีซีไปแช่น้ำประมาณ 60 วินาที ปะการังขาดน้ำนาน น้ำเมือกที่ตัวกิ่งจะออกมาก เท่ากับเสียเลือดมาก กิ่งปะการังอาจจะเสียชีวิตได้ จากนั้นนำไปวางในแปลงปลูกท่อพีวีซีจัดเตรียมไว้ เจ้าหน้าที่นำลงไปวางปลูกใต้ทะเลต่อไป

● หลังจากจบกิจกรรมปลูกปะการังดำน้ำ ก็ได้เวลาเคลื่อนขบวนเดินทางเข้าที่พัก Ozo North Pattaya และพักผ่อนตามอัธยาศัย ●

ขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง