Royal Enfield Hunter 350 เปิดตัวแบบเวิลด์พรีเมียร์ในไทย

5.9Kviews

motortrivia

● รอยัล เอนฟิลด์ เปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ Royal Enfield Hunter 350 แบบเวิลด์พรีเมียร์ในประเทศไทย และเตรียมทำตลาดโลกแทนที่ Thunderbird 350 โดยตั้งเป้าหมายเจาะตลาดลูกค้าทั่วโลกในตลาดสำคัญๆ โดยในเอเชียแปซิฟิกจะเริ่มขึ้นก่อนสิ้นปี 2565 นี้ ส่วนยุโรปและอเมริกาจะเริ่มทำตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566

● การจำหน่ายจะแยกเป็น 2 รุ่นหลัก คือ Retro Hunter และ Metro Hunter เลือกสีได้ 6 สี (ขึ้นอยู่กับรุ่น) ประกอบด้วยสีโมโนโทน Dapper Ash, Dapper White, Dapper Grey และสีทูโทน Rebel Blue, Rebel Red หรือ Rebel Black ตัวรถพัฒนาขึ้นบนแชสซีส์ Half-Duplex แบบเปลคู่ ออกแบบโดย Harris Performance, ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ ความจุ 15 ลิตร, เบาะนั่งชิ้นเดียวพร้อมมือจับสำหรับผู้โดยสาร ตำแหน่งที่นั่งต่ำลง 800 มม., ฐานล้อสั้นลง, ท่อไอเสียออกขวา

● อุปกรณ์มาตรฐานมีอาทิ มาตรวัดดิจิทัลและอนาล็อกทรงกลม แสดงผลระยะทาง, ทริปเดินทาง, ไฟแสดงตำแหน่งเกียร์, กราฟแจ้งเตือนระดับเชื้อเพลิง, นาฬิกา พร้อมการแจ้งเตือนเมื่อต้องเข้ารับบริการ, สวิทช์บนแฮนเดิลบาร์แบบบิดเลือกตำแหน่ง, ระบบสตาร์ทแบบไฟฟ้า และพอร์ทชาร์จ USB

● รุ่น Retro Hunter ใช้ล้อซี่ลวดขนาด 17 นิ้ว, ยางแบบไม่มียางใน, ระบบเบรค ABS แบบหนึ่งทิศทาง} จานเบรคหน้าเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 มม., ดรัมเบรคหลังขนาด 6 นิ้ว, ระบบกันสะเทือนหน้า/หลัง Showa

● รุ่น Metro Hunter มากับสีทูโทน, ไฟท้าย LED ทรงกลม, ล้ออัลลอยแบบหล่อขึ้นรูปขนาด 17 นิ้ว, ยางหน้ากว้างแบบไม่มียางใน ด้านหน้าขนาด 110/70 ด้านหลัง 140/70, ระบบเบรค ABS สองทิศทาง, จานเบรคหน้าขนาด 300 มม. จานเบรคหลังขนาด 270 มม., ระบบกันสะเทือนหน้า/หลังแบบ Endurance

● Hunter 350 ใช้เครื่องยนต์ตระกูล J-series แบบสูบเดี่ยว ความจุกระบอกสูบ 350 ซีซี. จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดไฟฟ้า ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมัน ส่งกำลังด้วยเกียร์ 5 สปีด คลัทช์เปียกแบบหลายแผ่น กำลังสูงสุดผลิตได้ 20.2 แรงม้า (BHP) ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 2.7 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที

● นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งของแท้ (Genuine Motorcycle Accessories) ให้เลือกอีกหลายรายการ สามารถสั่งล่วงหน้าได้ผ่านแอพฯ Royal Enfield หรือสั่งผ่านโปรแกรม MIY (Make It Yours) อาทิ แผ่นป้องกันเครื่องยนต์และถังน้ำมัน, แท่นยึดสัมภาระ, เบาะแบบปรับได้, กระจกมองข้างแบบทัวร์ริ่ง, ไฟสัญญาณ LED สีดำ, บังลมสีต่างๆ และชิ้นส่วนด้านท้ายแบบมินิมอล รวมถึงชุดสวมใส่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมวกกันน็อค, เสื้อยืด ฯลฯ

● คุณสิทธัตถะ ลาล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอเชอร์ มอเตอร์ส จำกัด กล่าวว่า “ที่รอยัล เอนฟีลด์ เรามีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับผู้บริโภคและชุมชนของเรา ความปรารถนาและแรงบันดาลใจของพวกเขาเป็นตัวกำหนดรถจักรยานยนต์ที่เราผลิต และเราจะมองหาการสร้างประสบการณ์และรูปแบบใหม่ๆ ด้านจิตวิญญาณของการขับขี่ที่แท้จริงให้แก่ชุมชนของเราอยู่เสมอ กลุ่มนักขี่มอเตอร์ไซค์มากมายมักมีความหลงใหลในแบรนด์ของเรา แต่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรานั้นยังไม่รุ่นที่ใช่สำหรับพวกเขา Hunter 350 จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบรับกับความต้องการนี้ โดยเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่รวมเอาจุดแข็งของตระกูลต่างๆ ไว้ด้วยกันในรูปแบบที่สนุกสนานและมีสไตล์สุดๆ และเป็นรสชาติใหม่ในจิตวิญญาณของการขับขี่ที่แท้จริงกับภาพลักษณ์ รอยัล เอนฟีลด์ ที่ไร้ข้อผิดพลาด”

● คุณบี โกวินดาราจาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รอยัล เอนฟีลด์ กล่าวว่า “Hunter 350 เป็นผลมาจากการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกและการศึกษาจากผู้บริโภคทั่วโลกเป็นเวลาหลายปี รุ่นนี้เป็นรถจักรยานยนต์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านในมหานครขนาดใหญ่ สร้างความตื่นเต้นให้แก่นักขี่มากประสบการณ์ และความสะดวกสบายใช้งานง่ายให้แก่นักขี่หน้าใหม่ โดยมาพร้อมกับฐานล้อสั้นลง รูปทรงกะทัดรัดยิ่งขึ้น และน้ำหนักเบากว่า ทำให้คล่องตัวและว่องไวเมื่อขับขี่ในเมือง เรามั่นใจมากว่ารถโรดสเตอร์โฉมใหม่คันนี้จะนำกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลกกลุ่มใหม่เข้าสู่โลกของจิตวิญญาณของการขับขี่ที่แท้จริง”

● Mark Wells หัวหน้าฝ่ายออกแบบของรอยัล เอนฟีลด์ กล่าวว่า “การพัฒนารถโรดสเตอร์ 350 ที่ทั้งขับขี่สนุก น้ำหนักเบา และคล่องตัวมากขึ้นเป็นเหมือนเรื่องธรรมดาที่สุดในโลกสำหรับรอยัล เอนฟีลด์ เพราะเป็นรุ่นใหม่เอี่ยมและยังคงความเป็น รอยัล เอนฟีลด์ อย่างเต็มที่ ทุกครั้งที่ผมจ้องมอง Hunter ก็จะทำให้ผมรู้สึกไร้กังวลเหมือนเป็นเด็ก แล้วกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์และขับแล่นไปหาเพื่อนๆ”

● รอยัล เอนฟีลด์ เปิดราคาจำหน่าย Hunter 350 เริ่มต้นที่ 129,900 บาท ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจอง หรือจองคิวทดลองขับได้ผ่านแอพฯ Royal Enfield หรือบนเว็บไซท์ royalenfield.com หรือที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ●