September 16, 2022
Motortrivia Team (10170 articles)

Haval H6 PHEV เปิดตัวในไทย เพิ่มความประหยัดด้วยระบบปลั๊ก-อินฯ

ภาพ : จันทนา เจริญทวี

●   หลังเปิดตัวและทำตลาด Haval H6 เจนเนอเรชั่น 3 เวอร์ชั่นไฮบริดในไทยมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 ล่าสุดฮาวาลเพิ่มความประหยัดให้กับ H6 ไปอีกขั้น ด้วยการเผยโฉม Haval H6 PHEV รถครอสโอเวอร์ SUV ขนาดคอมแพคท์พลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุดในเครือ เกรท วอลล์ มอเตอร์

●   นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ เข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทยด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน พร้อมกับพันธกิจ ‘Mission 9 in 3’ ที่จะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ อย่างน้อย 9 รุ่น เข้ามามอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับให้กับแฟนๆ ชาวไทยภายในเวลา 3 ปี โดยก่อนหน้านี้เราประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจากการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปแล้วทั้งหมด 4 รุ่น ตามลำดับ ได้แก่ All NEW HAVAL H6 Hybrid SUV, ORA Good Cat, All New HAVAL JOLION Hybrid SUV และ ORA Good Cat GT เราพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าอีกหนึ่งก้าวสำคัญเพื่อให้แฟนๆ ชาวไทยได้จับจองสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ HAVAL ที่เคยสร้างความฮือฮาให้กับวงการยานยนต์จากการเผยโฉมครั้งแรกของโลกในประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่า All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ซึ่งมาพร้อมความโดดเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์ สมรรถนะ และฟังก์ชั่นอัจฉริยะ จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่ไม่เพียงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางได้อย่างลงตัว แต่ยังจะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์ขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งแคมเปญ ULTRA DEAL ถือเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดของรถแต่ละรุ่นของเราแทนคำขอบคุณสำหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของเราก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย”

●   เกรท วอลล์ จัดแสดง Haval H6 PHEV เป็นครั้งแรกในงาน Motor Expo 2021 ปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ตัวรถมีการปรับโฉมใหม่โดยใช้การออกแบบที่ฮาวาลเรียกว่า Star Matrix กระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ และช่องระบายอากาศแบบไล่ระดับ ขนาดตัวรถไม่ต่างจาก H6 Hybrid มากนัก ความกว้างอยู่ที่ 1,886 มม. ยาว 4,683 มม. สูง 1,730 มม. ระยะฐานล้อ 2,738 มม.

●   อุปกรณ์มาตรฐานประกอบด้วย ชุดไฟหน้า Intelligent LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และระบบ Follow me home หน่วงเวลาดับไฟหลังดับเครื่องยนต์, ไฟท้าย LED, หลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาด 1.2 ตารางเมตร, เสาอากาศแบบ shark fin, ไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED, สปอยเลอร์ท้าย, ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 19 นิ้ว จับคู่ยางขนาด 235/55 R19 และเพิ่มระบบประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่นแฮนด์ฟรี

●   ห้องโดยสารมากับจอ Head Up Display, มาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว, จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบสั่งงานด้วยเสียง, การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple CarPlay, ระบบนำทางบอกตำแหน่ง Point of Interest อาทิ ร้านอาหาร, ปั๊มน้ำมัน หรือห้างสรรพสินค้า, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา, ระบบกรองอากาศ PM2.5, ปุ่มควบคุมเกียร์ไฟฟ้าแบบโรตารี่ สีพิเศษแบบ High gloss, ระบบ Push Start, กุญแจ Smart Key และชุดไฟ Ambient Light สำหรับสร้างบรรยากาศ

●   ทั้งนี้ ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ของ H6 PHEV ยังคงรองรับการอัพเดทเฟิร์มแวร์แบบออนไลน์ (FOTA) ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการของระบบอินโฟเทนเมนท์ หรือระบบควบคุมการขับเคลื่อน เช่น ระบบส่งกำลัง หรือระบบช่วยขับอัจฉริยะ (ADAS) เป็นต้น

●   นอกจากนี้ยังมี GWM Application บนสมาร์ทโฟน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการควบคุมและดูข้อมูลรถระยะไกล เช่น การตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่, การตรวจสอบสถานะการชาร์จแบตเตอรี่, ระบบจัดการการชาร์จ, การล็อคและปลดล็อคประตู, การปิดหน้าต่างหรือปิดซันรูฟ, การสั่งงานระบบปรับอากาศ, การควบคุมระบบระบายความร้อนของเบาะ, การค้นหาตำแหน่งรถ, การกำหนดรัศมีการใช้งานรถ และระบบตรวจสอบสถานะอื่นๆ

●   เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบระบายอากาศ เบาะฝั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง มีระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า, เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากจากฝั่งผู้ขับ, เบาะหลังมีที่เท้าแขนกลาง แยกพับได้แบบ 60:4, ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังพร้อมพอร์ท USB

●   ชุดระบบขับเคลื่อนประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซินรหัส GW4B15 แบบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมระบบส่งกำลังแบบอิเลคทรอนิคส์ Multi-mode DHT กำลังรวมทั้งระบบ 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 54 กก.-ม. เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคชนิดเทอร์นารี-ลิเธียม (Ternary-Lithium) ความจุ 34 กิโลวัทท์-ชม. โหมดในการขับเลือกได้ 8 โหมด (โหมดไฮบริด 4 โหมด + โหมดไฟฟ้า 4 โหมด) โหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 201 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

●   พอร์ทชาร์จเป็นแบบ CCS Type 2 combo (Combined Charging System) รองรับการชาร์จทั้งแบบพื้นฐานด้วยไฟบ้านกระแสสลับ (AC) และการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากตู้ชาร์จสาธารณะ *ระยะเวลาในการชาร์จเร็วจาก 0 – 80% ประมาณ 35 นาที ส่วนการชาร์จด้วยไฟบ้านจาก 0 – 100% ใช้เวลาประมาณ 6 ชม.

หมายเหตุ : * เกรท วอลล์ ระบุว่า ระยะเวลาในการชาร์จขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ระดับแบตเตอรี่คงเหลือ หรือกำลังไฟของสถานีชาร์จนั้นๆ เป็นต้น

●   ชุดระบบช่วยขับและระบบความปลอดภัยมี กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องรอบคัน 4 ตัว ความละเอียด 4 Megapixel ตัวระบบจะรวมมุมมองภาพจากกล้องทั้ง 4 ตัวมาสร้างภาพจำลองมุมมอง 360 องศา แสดงภาพรถจากมุมสูง ทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดถอยหลัง สามารถดูได้ที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กม./ชม. และเมื่อสตาร์ทรถ

●   ต่อด้วยระบบ Intelligent Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่นช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ โดยใช้กล้องทำการตรวจสอบความโค้งของถนน, ระบบ Traffic Jam Assist ช่วยเบรคและเร่งความเร็วในขณะขับท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด, ระบบ Auto Emergency Braking + Intersection ช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก, ระบบ Wisdom Dodge System ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้างระหว่างการแซง, ระบบ Blind spot Detection ช่วยเตือนมุมอับสายตา

●   ระบบ Lane Keeping Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Lane Departure Warning ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบ Lane Center Keeping ช่วยรักษาตำแหน่งรถให้อยู่กลางเลน, ระบบ Emergency Lane Keeping ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนขณะฉุกเฉิน, ระบบ Secondary Collision Mitigation ช่วยลดความรุนแรงหากเกิดการชนซ้ำซ้อน, ระบบ Driver Fatigue Monitoring ช่วยเตือนหากผู้ขับเกิดความเหนื่อยล้าขณะขับ

●   ระบบ Hill Descent Control ช่วยควคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางชัน, ระบบ Auto Reversing Assistance บันทึกเส้นทางและช่วยถอยหลังกลับในเส้นทางเดิมแบบอัตโนมัติที่ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ในระยะ 50 เมตร, ระบบ Rear Cross Traffic Braking ช่วยเตือนและเบรคเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอย, ระบบ Integration Intelligent Parking ช่วยจอดอัตโนมัติ, ระบบ Door Opening Warning ช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในการเปิดประตูหลังจากจอดรถ และระบบ Tyre Pressure Monitoring System ตรวจความดันลมยางอัตโนมัติ

เปิดจองก่อนประกาศราคา

●   เกรท วอลล์ เปิดจองสิทธิ์เพื่อซื้อก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2565 เวลา 00.00 น. ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 18.00 น. ผู้ที่ทำการจองสิทธิ์ในช่วงเวลาที่กำหนดและทำการชำระเงินจองสำเร็จภายใน 24 ชั่วโมงหลังการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ 300 ท่านแรก จะได้รับส่วนลดในการซื้อรถยนต์มูลค่า 50,000 บาท

●   ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ผ่านทาง GWM Application และเว็บไซต์ www.gwm.co.th โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยจะต้องชำระเงินมัดจำจำนวน 10,000 บาท ในระหว่างวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 20.00 น. ถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 เวลา 23.59 น. หากไม่มีการชำระเงินมัดจำ 10,000 บาท ในแคมเปญ ULTRA DEAL ภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่าสละสิทธิ์ โดยสิทธิ์จากข้อเสนอในแคมเปญ ULTRA DEAL สำหรับรถยนต์ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่น และไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนมูลค่าของสิทธิ์ที่ระบุไว้เป็นเงินสดได้

●   Haval H6 PHEV เลือกสีภายนอกได้ 5 สีระหว่าง ขาว, ดำ, เทา, น้ำเงิน หรือแดง ส่วนห้องโดยสารเป็นแบบทูโทน สีดำ-เทา ตกแต่งด้วยวัสดุสี Rose Gold, Silver, Piano Black และ Chrome พร้อมเบาะหนังสังเคราะห์

●   ทุกคันรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กม. และรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน

●   โปรโมชั่นพิเศษ Ultra Deal + :

รวมมูลค่าข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้แคมเปญ ULTRA DEAL กว่า 300,000 บาท

  1. ดอกเบี้ย 0% 48 เดือน (ดาวน์ 25%)
  2. ฟรีประกันรถยนต์ชั้น 1 เวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท
  3. ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมการติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 20 เมตร (จากตู้เมน) 1 ครั้ง (ไม่รวมค่าแท่นชาร์จ) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
  4. ฟรีแพ็คเกจค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM Ultra Service Inclusive: GUSI) สูงสุด 10 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (เมื่ออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมอะไหล่สิ้นเปลือง รวมมูลค่า 75,000 บาท
  5. ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) เป็นเวลา 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท
  6. ฟรีสิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับ (Pickup Service) หรือบริการส่งรถยนต์ (Delivery Service) เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง หรือบริการบำรุงรักษาตามระยะทางนอกสถานที่ (GWM mobile service) จำนวน 2 ครั้ง รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1,500 บาท
  7. ฟรีน้ำมันรถยนต์ มูลค่าสูงสุด 2,000 บาท
  8. ฟรีกรอบป้ายทะเบียนและพรม GWM มูลค่ารวม 1,640 บาท
  9. ฟรีคะแนน GWM Point เพื่อใช้แลกสินค้าและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ใน GWM Application จำนวน 15,000 คะแนน

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.gwm.co.th หรือเแฟนเพจ : facebook.com/GWMThai หรือทวิทเตอร์ : twitter.com/GWMThailand หรือแอดไลน์ : GWM Thailand

Grand Opening : 2022 Haval H6 PHEV