BMW i7 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสุดหรู เปิดตัวในประเทศไทย
ภาพ : จันทนา เจริญทวี
● บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวซีดานหรูฟูลไซส์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ BMW i7 หนึ่งในรุ่นย่อยของ BMW 7 Series รุ่นใหม่ล่าสุดเจนเนอเรชั่นที่ 7 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในตลาดโลกเมื่อช่วงกลางปี 2022 ที่ผ่านมา เบื้องต้นการจำหน่ายจะแยกเป็น 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition) ต่อด้วยเวอร์ชั่นสปอร์ต BMW i7 xDrive60 M Sport และ BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ซึ่งสามารถเลือกคู่สีแบบทูโทนได้
● และหลังจากการทำตลาด i7 เวอร์ชั่นแบตเตอรี่ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จะเปิดตัว BMW 7 Series ใหม่เวอร์ชั่น ปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นประกอบในประเทศตามออกมาภายในช่วงปี 2566 ด้วย
มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
● มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา (Alexander Baraka) ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ สะท้อนความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมของบีเอ็มดับเบิลยู และจะมาเป็นยนตรกรรมที่นำพาอุตสาหกรรมยานยนต์เข้าสู่ยุคใหม่แห่งอนาคตได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และวันนี้ เราพร้อมเผยโฉมรุ่นขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบให้แฟนบีเอ็มดับเบิลยูชาวไทยได้ชมเป็นครั้งแรก กับรุ่นรถยนต์ที่สะท้อนความโดดเด่นครบทุกด้าน ทั้งความสง่างามอันเป็นเอกลักษณ์ ความสะดวกสบาย สุดยอดประสบการณ์การขับขี่ และเทคโนโลยีเหนือชั้นพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ บีเอ็มดับเบิลยู i7 นับเป็นที่สุดของรถยนต์ในอุดมคติที่รวมคำจำกัดความของการคิดแบบมองไปข้างหน้า ดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่พร้อมเผชิญทุกความท้าทายโดยยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และมองว่าการเดินทางด้วยรถยนต์คือส่วนหนึ่งของประสบการณ์พิเศษในทุกๆ วัน”
● “บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ เปิดตัวภายใต้แนวคิด ‘FORWARDISM’ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยูในการก้าวสู่ศักราชใหม่แห่งสุนทรียภาพแห่งการขับขี่และการขับเคลื่อนในเซกเมนต์ยนตรกรรมพรีเมียม สอดรับกับความท้าทายในโลกปัจจุบัน บีเอ็มดับเบิลยู i7 พร้อมส่งมอบที่สุดแห่งสุนทรียภาพเพื่อวันพรุ่งนี้และอนาคตข้างหน้า ผ่านประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดและความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน การเผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู i7 นับเป็นหมุดหมายสำคัญของบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นระดับตำนาน และยังเป็นจุดเริ่มต้นของบทบาทที่น่าตื่นเต้นสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ในการผลักดันวิสัยทัศน์อนาคตแห่งการขับเคลื่อนของเรา”
7 Series พลังแบตเตอรี่ที่มากับความหรูในระดับไฮเอนด์
● i7 รุ่นพื้นฐานมากับกระจังหน้าพร้อมกรอบเรืองแสง, ชุดโคมไฟ 2 ชั้นลักษณะเดียวกับ BMW X7 รุ่นปรับโฉม, ฟังก์ชั่นไฟหน้าแบบ Adaptive LED ปรับองศาเมื่อเข้าโค้ง, ชุดไฟหน้าคริสตัลสวารอฟสกี้ Iconic Glow ประกอบด้วยไฟ LED จำนวน 22 ดวง ที่ส่องสว่างผ่านคริสตัลจากด้านหลัง, ฟังก์ชั่นแสดงกราฟฟิกแสงเมื่อผู้ขับเข้าใกล้ตัวรถ เริ่มจากกระจังหน้าไปจนถึงไฟหน้า และไฟส่องพื้น, ระบบปลดล็อคประตูอัจฉริยะ Comfort Access System สามารถปลดล็อคและสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ เสริมด้วยระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตู
● จุดที่ต่างกัน i7 xDrive60 M Sport และ i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso จะเพิ่มความพิเศษด้วยระบบเปิด/ปิดประตูอัตโนมัติ นอกจากนี้ i7 xDrive60 M Sport (First Edition) และ i7 xDrive60 M Sport จะมากับล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 21 นิ้ว แบบสลับสี ในขณะที่ i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso จะพิเศษสุดด้วยล้ออัลลอย M aerodynamic ขนาด 21 นิ้ว ตกแต่งด้วยสี Titanium Bronze ขัดเงาลาย 3 มิติ และระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่ติดตั้งมาเป็นพิเศษ
ห้องโดยสารหรูที่สุดเท่าที่เคยมีมา
● ห้องโดยสารมากับอุปกรณ์มาตรฐานในระดับไฮเอนด์ ประกอบด้วย จอ BMW Head-up Display, จอคู่ BMW Curved Display แยกเป็นมาตรวัดฟูลดิจิทัลวางคู่กับจอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ ควบคุมด้วยระบบปฏิบัติการ iDrive 8 รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมระบบ My Modes รุ่นใหม่, ฟังก์ชัน Augmented View ที่ติดตั้งมาเป็นครั้งแรกบนมาตรวัดดิจิทัล, แผง Interaction Bar วางยาวตลอดแผงแดชบอร์ด ทำหน้าที่เป็นชุดไฟแอมเบียนท์สร้างบรรยากาศ
● ทั้งนี้ BMW Live Cockpit Professional ได้ถูกออกแบบมาให้ข้อมูลกับผู้ขับโดยไม่รบกวนสมาธิระหว่างการขับ เสริมความสะดวกด้วยระบบ BMW ConnectedDrive รวมบริการดิจิทัลที่เชื่อมต่อรถกับโลกภายนอก นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจสอบระยะไกล (Telematics Service) และการให้บริการด้านการจราจร, การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และระบบความบันเทิงต่างๆ ในตัวรถ ปิดท้ายระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ BMW IconicSounds Electric ออกแบบโดยผู้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง Hans Zimmer สำหรับทุกโหมดการขับ
● การควบคุมระบบต่างๆ ในห้องโดยสารและในทุกตำแหน่งเบาะ เป็นระบบดิจิทัลเกือบ 100% เต็ม อาทิ ชุดควบคุมระบบสัมผัสพร้อมจอแสดงผลในลักษณะสมาร์ทโฟนบนแผงประตู (Touchpad ขนาด 5.5 นิ้ว)
● ด้านความสะดวกสบาย i7 มากับเบาะแบบมัลติฟังก์ชันสำหรับผู้ขับ, ผู้โดยสารตอนหน้า และผู้โดยสารตอนหลัง ตัวเบาะมีฟังก์ชันนวดทั้งผู้ขับและผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบอุ่นเบาะทุกที่นั่ง, ระบบระบายอากาศทุกที่นั่ง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน เพิ่มการไหลเวียนอากาศในห้องโดยสาร ทั้ง 3 รุ่นย่อยตกแต่งด้วยวัสดุบุหลังคาแบบ M Alcantara, พร้อมตกแต่งตามจุดต่างๆ ในห้องโดยสารด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M, คอนโซลกลางสีดำเงาแบบ Piano Finish Black และหลังคากระจกพาโนรามา Sky Lounge LED roof
● และไฮไลท์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังคือ จอ BMW Theater Screen สำหรับชมภาพยนตร์แบบสไลด์เก็บแนบไปกับหลังคาได้ ตัวจอมีขนาด 31.3 นิ้ว อัตราส่วน 32:9 ความละเอียดในระดับ 8K พร้อมเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทด้วยเทคโนโลยี 5G และใช้ระบบเสียง Diamond Surround Sound system กำลังขับ 1,965 วัทท์ จากชุดลำโพง 39 ตำแหน่งของแบรนด์ไฮเอนด์อย่าง Bowers & Wilkins
● ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่รุ่นใหม่ แยกหมุนเพลาหน้า/หลัง หมุนล้อแบบ All-wheel drive (BMW xDrive พร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5) มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้ากำลังสูงสุด 259 แรงม้า ด้านหลัง 312 แรงม้า กำลังรวมทั้งระบบ 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 75.8 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ภายใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 240 กม./ชม. แบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน ความจุ 101.7 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 625 กม. จากการทดสอบตามมารฐาน WLTP
● ชุดระบบความปลอดภัย และระบบช่วยขับรุ่น Professional ประกอบด้วย ระบบ Active Cruise Control ควบคุุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go, ระบบ Front-collision warning system ช่วยเตือนการชนหน้าด้าน, ระบบ Integral Active Steering ปรับองศาของล้อหลังเพื่อช่วยเลี้ยวหรือเข้าโค้ง, ระบบ Steering and Lane Control Assistant พร้อม Lane Change Assistant หน่วงพวงมาลัยเพื่อควบคุมรถให้อยู่ในเลน พร้อมฟังก์ชั่นตรวจสอบความปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน, ระบบ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist ช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Parking Assistant Professional เป็นต้น
● นอกจากนี้ยังมี Crash Sensor ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน, ระบบ Side Impact Protection ป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง, ระบบสร้างเสียงจำลองเพื่อเตือนคนเดินถนน พร้อมระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
ราคาจำหน่าย
● BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition) เลือกได้เฉพาะเฉพาะสีดำ Black Sapphire Metallic ส่วน BMW i7 xDrive60 M Sport เลือกได้ 8 สีระหว่าง ดำ Black Sapphire Metallic, ขาว Mineral White Metallic, เทา Oxide Grey Metallic, เทา Brooklyn Grey Metallic, ดำ Carbon Black Metallic, แดง Aventurine Red Metallic, น้ำเงิน Tanzanite Blue Metallic หรือเทา Dravit Grey Metallic
● BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso สามารถเลือกสีแบบทูโทนได้ โดยตัวรถจะมีสีหลังคาให้เลือก 2 สีระหว่าง ดำ Black Sapphire Metallic หรือเทา Oxide Grey Metallic ส่วนสีตัวถังมี 5 สี ประกอบด้วย ดำ Black Sapphire Metallic, เทา Oxide Grey Metallic, แดง Aventurine Red Metallic, น้ำเงิน Tanzanite Blue Metallic และเทา Dravit Grey Metallic
- i7 xDrive60 M Sport (First Edition) ราคา 7,599,000 บาท
- i7 xDrive60 M Sport ราคา 7,849,000 บาท
- i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ราคา 8,599,000 บาท
รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
● โปรแกรมบำรุงรักษารถ BMW Services Inclusive (BSI) Standard สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ครอบคลุมแพคเกจการรับประกันนานสูงสุด 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง, การบริการดูแลบำรุงรักษาสูงสุด 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และการรับประกันแบตเตอรี่แรงดันไฟสูงและอุปกรณ์ร่วมนานสูงสุด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน)
● ทั้งนี้ การดูแลบำรุงรักษารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ จะมีกำหนดเข้ารับบริการทุก 24 เดือน โดยครอบคลุมรายการต่างๆ ประกอบด้วย, บริการตรวจเช็ครถ, บริการเปลี่ยนไมโครฟิลเตอร์, บริการเปลี่ยนน้ำมันเบรค, บริการชาร์จแบตเตอรี่แรงดันสูงหลังการให้บริการ (ชาร์จสูงสุด 75 – 80%), บริการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนปีละหนึ่งครั้ง และบริการเปลี่ยนชุดเบรคหน้าและหลัง 1 ชุด รวมผ้าเบรคและจานเบรค (กำหนดการเปลี่ยนไม่ขึ้นอยู่กับระยะทาง)
● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.bmw.co.th ●