Hyundai เผยโฉม Stargazer และ IONIQ 6 ใน Motor Expo 2022

666views

motortrivia

● ฮุนได ประเทศไทย เผยโฉมรถรุ่นสำคัญ 2 รุ่นในงาน Motor Expo 2022 ประกอบด้วย MPV ขนาดคอมแพคท์ Hyundai Stargazer รถที่ฮุนไดเตรียมจะเปิดตัวในบ้านเราภายในอนาคตอันใกล้ ส่วนอีกหนึ่งรุ่นคือ รถซีดานขนาดกลาง IONIQ 6 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่รุ่นที่ 2 จากซับ-แบรนด์ไอออนิคของฮุนได ซึ่งเป็นการจัดแสดงอย่างเป็นทางการครั้งแรกในอาเซียนด้วย

มร. ฮิโตชิ คาเนะโกะ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด

● มร. ฮิโตชิ คาเนะโกะ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้นับเป็นปีที่ 15 ของฮุนได ไทยแลนด์ ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราภาคภูมิใจในการเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์เป็นเวลาต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี”

● “สิ่งที่ทุกท่านได้เห็น ณ บูธฮุนได ภายในงานนี้ เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน เราขอให้ทุกท่านโปรดติดตามพื้นที่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาในผลิตภัณฑ์ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผู้อื่นได้ติดตาม”

มร. จุน แฮง เฮอว์ รองประธานฝ่ายขาย ฮุนได มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค

● “ฮุนไดได้ลงทุนสร้างศูนย์การผลิตรถยนต์ในภูมิภาคอาเซียนในประเทศอินโดนีเซีย นับเป็นก้าวแรกของการแสดงให้เห็นถึงการเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ฮุนได ในภูมิภาคนี้” มร. จุน แฮง เฮอว์ รองประธานฝ่ายขาย ฮุนได มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค กล่าวเสริม

● “การสร้างโรงงานแห่งในที่ประเทศอินโดนีเซีย นับเป็นกลยุทธ์สำคัญของเราต่อภูมิภาคอาเซียน เพราะโรงงานแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดในหลายๆ ประเทศ โรงงานแห่งนี้เริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2562 และรถยนต์รุ่นแรกที่ ออกจากสายการผลิตคือรุ่นเครต้า ในปี 2565”

Hyundai Stargazer

2023 Hyundai Stargazer

● Stargazer พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม Hyundai-Kia K ปัจจุบันใช้ผลิตรถในเครืออย่าง Hyundai i20, Hyundai Creta, Hyundai Venue หรือ KIA Seltos เป็นต้น ความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,460 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,690 – 1,695 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ความยาวฐานล้อหน้าถึงหลัง 2,780 มม. โดยรวมเล็กกว่า Mitsubishi Xpander รุ่นปัจจุบันนิดหน่อย

● อุปกรณ์มาตรฐานมากับกระจังหน้าและกันชนหน้าทรง X, แนวไฟ LED ด้านบนเต็มความยาวหน้ารถ, ด้านล่างเป็นชุดไฟหน้า LED แบบแยกส่วน, ชุดไฟท้ายทรง 3 เหลี่ยมพร้อมแนวไฟ LED เชื่อมต่อโคมทั้ง 2 ฝั่ง, หลังคาสีดำ, ชุดแต่งในลักษณะดิฟฟิวเซอร์ทางด้านล่าง และล้ออัลลอยขนาด 15 – 16 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

● ห้องโดยสารแบบเบาะ 3 แถว เลือกเลย์เอาท์ได้ระหว่าง 6 หรือ 7 ที่นั่ง พื้นที่บรรทุกสัมภาระหลังเบาะแถว 3 มีความจุ 200 ลิตร และจะเพิ่มเป็น 585 ลิตรหากพบเบาะแถว 3 อุปกรณ์มาตรฐานมีมาตรวัดดิจิทัล แสดงผลด้วยจอ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว, จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 8 นิ้ว และถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย

● เบื้องต้น Stargazer จะทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เพียงแบบเดียว คือเบนซินตระกูล Smartstream แบบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร N/A จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด MPi ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ CVT กำลังสูงสุดผลิตได้ 115 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม.

● ระบบความปลอดภัย Hyundai SmartSense มีระบบ Lane Keeping Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง, ระบบ Blind Spot Collision-avoidance Assist ช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในจุดอับสายตาเพื่อป้องกันการชน และระบบ Rear Cross-traffic Collision-avoidance Assist ช่วยเตือนและเบรคอัตโนมัติขณะถอยรถเพื่อป้องกันการชน

● ปัจจุบันฮุนไดเริ่มทำตลาด Stargazer ในอินโดนีเซียแล้ว โดยแยกเป็น 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วย Active, Trend, Style และ Prime ราคาจำหน่ายรุ่นพื้นฐานเริ่มต้นที่ 243,300,000 อินโดนีเซีย รูเปียห์ หรือประมาณ 6 แสนบาท รุ่นท๊อปจบที่ 307,100,000 รูเปียห์ หรือราว 7.5 แสนบาท

IONIQ 6

2023 IONIQ 6

● ต่อด้วย IONIQ 6 รถรุ่นนี้นับเป็นรถไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่รุ่นที่ 2 ภายใต้ซับ-แบรนด์ไอออนิคของฮุนได ต่อจาก IONIQ 5 งานออกแบบคลี่คลายรูปแบบมาจาก Hyundai Prophecy Concept ซึ่งใช้ Design language ใหม่ที่เรียกว่า Sensuous Sportiness

● IONIQ 6 เป็นรถในกลุ่มซีดานขนาดกลาง คลาสเดียวกับ Hyundai Sonata ตัวรถมีความยาวรวม 4,855 มม. กว้าง 1,880 มม. สูง 1,495 มม. ความยาวฐานล้อจากหน้าถึงหลัง 2,950 มม. โดยรวมแล้วขนาดตัวจะสั้นกว่า Sonata นิดหน่อย ทว่าฐานล้อจะยาวกว่ารุ่นตลาดโลก

IONIQ 5

● งานออกแบบในห้องโดยสารไม่หนีจาก IONIQ 5 มานัก จุดเด่นยังคงเป็นความเรียบหรูในแบบมินิมอล และมีไฮไลท์เป็นจอคู่ที่วางเรียงไว้ในกรอบเดียวกัน แยกเป็นมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12 นิ้ว และจอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12 นิ้วเท่ากัน ต่างกันที่คอนโซลกลางจะไม่เปิดโล่งแบบ IONIQ 5 ซึ่งความต่างเพียงเล็กน้อยนี้ จะทำให้ทั้ง 2 รุ่นให้อารมณ์ที่ต่างกันในขณะขับ แม้จะมีงานออกแบบที่ใกล้เคียงกันก็ตาม และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของ IONIQ 6 ก็คือ ที่บริเวณปลายของแผงแดชบอร์ดทั้ง 2 ฝั่ง จะมีการติดตั้งจอแสดงผลจากกล้องข้างที่ใช้แทนที่กระจกมองข้างแบบเดิม

● ชุดระบบขับเคลื่อนคาดว่าจะเลือกได้ระหว่าง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุดประมาณ 228 แรงม้า (PS) แรงบิดประมาณ 35.6 กก.-ม. หรือรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หมุนล้อแบบ All-wheel drive กำลังสูงสุดประมาณ 324 แรงม้า แรงบิดประมาณ 61.6 กก.-ม. แบตเตอรี่แพคชนิด นิคเกิล-โคบอลท์-แมงกานีส ลิเธียม ความจุประมาณ 58 – 77 กิโลวัทท์-ชม. ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย และรองรับการชาร์จด้วยกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงตั้งแต่ 400 จนถึง 800 โวลท์ ในโหมดชาร์จเร็ว

● IONIQ 6 มีสายการผลิตอยู่ที่โรงงาน Asan Plant ในเมืองอาซัน เกาหลีใต้ ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้รับหน้าที่ผลิตรถรุ่นหลักอย่าง Hyundai Sonata และ Hyundai Grandeur

Hyundai Staria Premium

● สำหรับรุ่นที่พร้อมจำหน่ายในงาน คือ Hyundai Staria รุ่นปี 2023 ที่เพิ่มระบบ Cross Wind Stability Control ช่วยควบคุมเสถียรภาพเมื่อมีลมปะทะข้างตัวรถเป็นออปชั่นใหม่ โดยโปรโมชั่นพิเศษในงานนี้ คือ จอง Staria รุ่นย่อย S หรือ SEL รับประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี, รับประกันคุณภาพตัวรถนาน 60 เดือน หรือ 150,000 กิโลเมตร, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงนาน 60 เดือน และคูปองน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท

● ส่วนข้อเสนอและกิจกรรมพิเศษในงานปีนี้ ผู้ที่จอง Hyundai Creta ระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2565 ทั้งการจองภายในงาน หรือที่โชว์รูมทั่วประเทศ จะได้รับสิทธิ์ร่วมชิงรางวัลทองคำหนัก 5 บาท และสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Z Fold รวมมูลค่ารางวัลทั้งหมดมากกว่า 3.8 ล้านบาท กติกาและเงื่อนไข สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซท์ www.hyundai.co.th หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาผลิตภัณฑ์ภายในงาน

● นอกจากนี้ ลูกค้าเก่าของฮุนได รับสิทธิ์เพิ่มส่วนลดมูลค่า 10,000 บาท เมื่อจองฮุนไดรุ่นใดก็ได้ในงาน ส่วนผู้ที่สนใจทดลองขับ สามารถติดต่อได้ที่บูธฮุนได หรือที่โชว์รูมฮุนไดทั่วประเทศ ●