
2023 Toyota Prius รุ่นใหม่เจนเนอเรชั่น 5 ยังคงมีทั้ง HEV และ PHEV
เรื่อง : AREA 54
● โตโยต้าเปิดตัวรถคอมแพคท์ไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นสำคัญ Toyota Prius ใหม่เจนเนอเรชั่นที่ 5 ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เตรียมทำตลาดทั้ง 2 รุ่นระบบขับเคลื่อน ในขณะที่ยุโรปจะมีให้เฉพาะรุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด เท่านั้น จากกฏมลพิษที่เข้มงวดขึ้นทุกวัน (ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี) กำหนดการลงโชว์รูมจะเริ่มขึ้นภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023
● เวอร์ชั่นอเมริกาเหนือ เพิ่งเปิดตัวไปในงาน 2022 Los Angeles Auto Show ตัวรถมากับงานออกแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งสวยงามอย่างไร้ที่ติ การผลิตมีขึ้นบนแพลทฟอร์ม TNGA-C (รหัสย่อย GA-C) แบบเดียวกับ Toyota Corolla Cross, รถในเครืออย่าง Lexus UX รวมถึงรถพลังแรงอย่าง Toyota GR Corolla ความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,600 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,430 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. รวมแล้วใหญ่ขึ้นในทุกมิติเมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน
● อุปกรณ์มาตรฐาน (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) ในห้องโดยสารมี มาตรวัดฟูลดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว, จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบ Toyota Audio Multimedia ขนาด 8 นิ้ว หรือ 12.3 นิ้วในรุ่นท๊อป, กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น HomeLink เชื่อมต่อกับประตูโรงรถ, กุญแจดิจิทัล, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, พอร์ท USB-C รวม 6 ตำแหน่ง, ชุดเครื่องเสียงพรีเมียม JBL พร้อมลำโพง 8 แหน่ง และมีหลังคาโซลาร์เซลล์เป็นออปชั่น

● รุ่นพื้นฐานพลังไฮบริด ขับเคลื่อนล้อหน้า ใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด (Hybrid Synergy Drive) รุ่นล่าสุดเจนเนอเรชั่น 5 เครื่องยนต์ขยับขึ้นไปใช้เบนซิน Atkinson cycle แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า (บางข้อมูลระบุว่าจะมีรุ่น 1.8 ลิตรด้วย), แบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน รุ่นใหม่ ความจุเพิ่มขึ้น 15% กำลังสูงสุดผลิตได้ 197 แรงม้า (PS) เทียบกับรุ่นก่อนหน้าจะมีกำลังเพิ่มขึ้นถึง +73 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ภายใน 7.2 วินาที เร็วขึ้นกว่าเดิม -2.6 วินาที
● รุ่น All-wheel drive หรือที่โตโยต้าใช้ชื่อทางการค้าว่า E-Four (Electronic four-wheel drive) ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยหมุนล้อคู่หลัง อัตราเร่ง 0 – 96 กม./ชม. ภายใน 7 วินาที ทั้งคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์ eCVT อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 24.2 กม./ลิตร
● รุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด หรือ Prius Prime ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร 148 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 160 แรงม้า ติดตั้งเอาไว้ที่เพลาหน้า เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคลิเธียม-ไอออน ความจุ 13.6 กิโลวัทท์-ชม. กำลังรวมทั้งระบบ 223 แรงม้า เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึง +122 แรงม้า โหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 60 กม.

● ชุดระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 มีอาทิ ระบบ Pre-Collision System with Pedestrian Detection ช่วยเตือนการชนด้านหน้า พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน ตรวจจับจักรยานในเวลากลางวัน และตรวจจับคนเดินถนนได้ดีในสภาพแสงน้อย, ระบบ Lane Departure Alert with Steering Assist ช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมฟังก์ชั่นหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ, ระบบ Blind Spot Monitor แจ้งเตือนมุมอับสายตา
● ต่อด้วยระบบ All-Speed Dynamic Radar Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตั้งแต่จุดหยุดนิ่ง และสามารถเร่งความเร็วไปยังระดับที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถขวางหน้า, ระบบ Proactive Driving Assist คาดการณ์ความเสี่ยงตามสถานการณ์การขับ เช่น คนเดินเท้าข้ามถนน หรือรถอาจจะไม่สามารถควบคุมได้, ระบบ Rear Cross-Traffic Alert แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลัง และระบบช่วยจอด Advanced Park เป็นต้น
● แฟนๆ ในบ้านเราที่สนใจ ต้องรอลุ้นกันไปอีกสักพักครับ ●