Mercedes-Benz V 250 d Exclusive แวนหรู 7 ที่นั่ง นำเข้าจากสเปน

694views

motortrivia

● เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เริ่มลุยปี 2566 ด้วยการเปิดตัวรถ MPV หรูขนาดใหญ่ Mercedes-Benz V 250 d Exclusive รุ่นย่อยใหม่ล่าสุดแบบฐานล้อยาว (LWB) ของ V-Class เจนเนอเรชั่น 3 ซึ่งเริ่มทำตลาดโลกมาตั้งแต่ช่วงปี 2014 และผ่านการอัพเกรดใหญ่มาแล้วในช่วงปี 2020 โดย V 250 d Exclusive รุ่นใหม่นี้ นับเป็นการปรับปรุงครั้งล่าสุดเพื่อปรับรุ่นปีเป็นรถ MY2023

● V 250 d Exclusive เป็นรถแวนหรูที่ผลิตและนำเข้า (CBU) มาจากโรงงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในเมืองบิโตเรีย-กัสเตอิซ (Vitoria-Gasteiz) ประเทศสเปน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถแวนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก

● ตัวรถมากับขนาดตัวถังแบบ Extra Long พื้นที่โดยสารและพื้นที่บรรทุกสัมภาระมากขึ้น ความยาวตัวรถอยู่ที่ 5,370 มม. กว้าง 1,928 มม. สูง 1,909 มม. ความยาวฐานล้อ 3,430 มม. เพิ่มขึ้นจากรุ่นพื้นฐาน +230 มม. ความจุถังน้ำมัน 70 ลิตร อุปกรณ์มาตรฐานมีแพคเกจชุดแต่ง Avantgarde, ชุดไฟหน้า LED Intelligent Light System ปรับลำแสงตามสภาพแวดล้อมแบบอัตโนมัติ, ไฟ DRL สำหรับวิ่งกลางวัน, ราวหลังคาอลูมิเนียม และล้ออัลลอย 5-Twin Spoke ขนาด 18 นิ้ว จับคู่ยาง 245/45

● ห้องโดยสารแบบเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง เลย์เอาท์เบาะเป็นแบบ 2-2-3 พื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุด 1,410 ลิตร, ประตูสไลด์ไฟฟ้า, ประตูท้ายแบบ EASY-PACK tailgate เปิดแบบแยกส่วน, เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่น Memory seat ด้านละ 3 ตำแหน่ง, เบาะแถว 2 เป็นแบบ Luxury captain seat แยกซ้าย-ขวา ปรับไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง เสริมความสบายด้วยระบบนวดหลัง, ระบบระบายอากาศ และระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบแยกโซน โดยมีระบบ THERMOTRONIC สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และระบบ TEMPMATIC สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

● นอกจากนี้ยังมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, คอนโซลตกแต่งด้วยลวดลาย pinstripe effect, เบาะหุ้มหนัง Lugano สีดำ, จอทัชสกรีนขนาด 10.25 นิ้ว จัดวางแบบลอยตัว พร้อมระบบ Mercedes-Benz User Experience (MBUX) รุ่นล่าสุด ผสานการทำงานของระบบมัลติมีเดียเข้ากับเทคโนโลยี AI เพื่อเรียนรู้และจดจำพฤติกรรมของผู้ขับ ตัวระบบรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple CarPlay, คำสั่งเสียง, เทคโนโลยีแสดงภาพรอบทิศทาง 360º จากกล้อง, ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Burmester และชุดไฟ Ambient Light แบบปรับได้ 3 เฉดสี

● และนอกจากอุปกรณ์มาตรฐานติดรถ V 250 d Exclusive ยังมีออปชั่นติดตั้งเพิ่มเติมอีกหลายรายการ อาทิ ชุดแต่งกระจังหน้าแบบเรืองแสง, ล้ออัลลอยลาย 10 หรือ 16 ก้านขนาด 19 นิ้ว, ชุดแต่งฝาเติมลมยาง, กล่องเก็บสัมภาระบนหลังคา รับน้ำหนักได้สูงสุด 75 กก., ชุดไฟ LED Welcome Light แสดงตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บริเวณพื้นขณะเปิดประตู และกาบบันไดสแตนเลสเรืองแสง เป็นต้น

● V 250 d Exclusive ใช้เครื่องยนต์ดีเซลรหัส OM654 แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว ความจุ 1,950 ซีซี. คอมมอนเรล อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแบบ twinscroll ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic PLUS พร้อมแป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ DIRECT SELECT gearshift paddles

● กำลังสูงสุดผลิตได้ 190 แรงม้า (PS) ที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 44.8 กก.-ม. เริ่มตั้งแต่รอบต่ำที่ 1,350 – 2,400 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 9.6 วินาที ความเร็วสูงสุดประมาณ 205 กม./ชม. และนุ่มนวลด้วยระบบกันสะเทือนแบบ AGILITY CONTROL

● ชุดระบบความปลอดภัยมีอาทิ ระบบ Automatic headlight assist เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ, เซ็นเซอร์วัดระดับน้ำฝน, ระบบ Active Brake Assist ช่วยเบรคอัตโนมัติแบบแอคทีฟ, () ระบบ ATTENTION ASSIST ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับ, ระบบช่วยจอด PARKTRONIC ซึ่งใช้ความสามารถของเซ็นเซอร์ในการช่วยนำรถเข้าจอด และถุงลมนิรภัยพร้อมม่านถุงลมนิรภัยรอบคัน

● สีตัวถังของ V 250 d Exclusive เลือกได้ 6 สีระหว่าง ขาว Crystal white, แดง Hyacinth red metallic, เงิน Brilliant silver metallic, ดำ Obsidian black metallic, เทา Pebble grey หรือเทาเข้ม Dark graphite grey metallic ราคาจำหน่าย 5,400,000 บาท

● สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ดีลเลอร์อย่างเป็นทางการของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั่วประเทศ หรือเว็บไซท์ : www.mercedes-benz.co.th เฟซบุ๊คแฟนเพจ: facebook.com/MercedesBenzThailand หรือบริการทางการเงิน: mercedes-benz.co.th/th/passengercars/buy/financial-services ●