February 28, 2023
Motortrivia Team (10069 articles)

BMW เปิดศักราช 2566 เปิดตัวรถใหม่ 8 รุ่นจาก 3 แบรนด์ในเครือ

ภาพ : จันทนา เจริญทวี

●   บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวประจำปี BMW Group Thailand Annual Press Conference 2023 ระบุยังคงครองอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในขณะบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ครองสัดส่วนในเซกเมนต์นี้ถึง 46.6% พร้อมประกาศเปิดตัวรถใหม่ในเครือ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป รวม 8 รุ่น ทั้ง BMW, MINI และมอเตอร์ไซค์ BMW Motorrad

●   มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา (Alexander Baraka) ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “การมุ่งสู่อนาคตคือนิยามของทุกสิ่งที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ วิธีที่เราทำธุรกิจ หรือการมอบสิ่งดีๆ คืนให้กับโลก ความมุ่งมั่นในด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศตลอดทั้งปี 2565 ส่งผลให้ลูกค้ามอบความไว้วางใจให้กับเรา”

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

●   “เราภูมิใจที่จะประกาศว่าเรายังคงครองตำแหน่งผู้นำในเซกเมนต์พรีเมียมอีกครั้ง และด้วยความสำเร็จและการเติบโตตลอดปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Luxury Class และรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเปิดตัวรุ่นรถยนต์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น BMW XM, X7 หรือซีรีส์ 7”

●   “อย่างไรก็ตาม พลังแห่งการเลือกยังคงเป็นปรัชญาที่เราภาคภูมิใจ และพร้อมแนะนำหลากหลายยนตรกรรมใหม่ๆ ไปจนถึงบริการและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ เรายังมุ่งมั่นเดินหน้าธุรกิจอย่างยั่งยืน อย่างที่เห็นได้จากหลากหลายโครงการด้านความยั่งยืนที่เราให้ความสำคัญมากขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จะยังคงมุ่งสู่ความเป็นเลิศไปพร้อมๆ กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการและพาร์ทเนอร์ของเรา เพื่อส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าคนสำคัญของเราทุกคน” มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา กล่าว

8 รถใหม่เตรียมเปิดตัวในปี 2566 นี้

●   1. BMW XM : สปอร์ตอเนกประสงค์ที่มาพร้อมชุดแต่ง M พร้อมแพคเกจการตกแต่งภายในแบบ M และยังเต็มสมรรถนะด้วยช่วงล่าง Adaptive M Suspension Professional, ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ M xDrive และเฟืองท้าย M Sport

●   ตัวรถใช้เครื่องยนต์เบนซิน 8 สูบ ความจุ 4.4 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน M HYBRID แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 29.5 กิโลวัทท์-ชม. กําลังรวมทั้งระบบ 653 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 81.5 กก.-ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 270 กม./ชม. โหมดไฟฟ้าล้วนใช้ความเร็วสูงสุดได้ 140 กม./ชม. ระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าสูงสุด 98 กม.

●   BMW XM ราคาจำหน่าย: 14,899,000 บาท

●   2. BMW X7 xDrive40d M Sport : รถหรูในเซกเมนต์รถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (SAV) ห้องโดยสารแบบเบาะ 3 แถว 6 ที่นั่ง มีการปรับปรุงหลายรายการ ตัวรถมากับชุดแต่งภายนอกและภายในแบบ M Sport อาทิ ท่อไอเสีย M Sport, คาลิเปอร์เบรค M Sport, ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา BMW Individual ขนาด 23 นิ้ว ลาย V-spoke และพวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M เป็นต้น

●   เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo พร้อมระบบ Mild Hybrid เทคโนโลยี 48 โวลท์ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ กำลังรวมทั้งระบบ 352 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 73.3 กก.-ม. ความเร็วสูงสุด 243 กม./ชม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 5.9 วินาที

●   BMW X7 xDrive40d M Sport ราคาจำหน่าย: 6,599,000 บาท

●   3. BMW 750e xDrive M Sport : รถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในกลุ่มพรีเมียมรุ่นใหม่ที่หรูสุดๆ ด้วยจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 31.3 นิ้ว ความคมชัด 8K พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins สะดวกด้วยรีโมทควบคุมแบบบสัมผัสที่แผงควบคุมบริเวณแผงประตู (BMW Touch Command) และมีฟังก์ชั่นม่านบังแสงด้านหลังปิดโดยอัตโนมัติเมื่อระบบจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังทำงาน

●   ตัวรถใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ BMW TwinPower Turbo จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวมทั้งระบบ 489 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 71.3 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. แบตเตอรี่แพคความจุ 22.1 กิโลวัทท์-ชม. โหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งทำระยะทางได้สูงสุด 85 กม.

●   BMW 750e xDrive M Sport ราคาจำหน่าย: 6,999,000 บาท

●   4. BMW X1 sDrive18i : รถ SAV โฉมใหม่ที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือเดินทางไกล ตัวรถใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ Steptronic กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 23.4 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 9 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม.

●   BMW X1 sDrive18i ราคาจำหน่าย: 2,249,000 บาท

●   5. BMW 330Li M Sport และ BMW 320Li M Sport : รถสปอร์ตยอดนิยมในตระกูล 3-series รุ่นฐานล้อยาว เสริมความสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารตอนหลังด้วยฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นพื้นฐาน +114 มิลลิเมตร ความยาวรวม 4,823 มิลลิเมตร ผู้โดยสารสามารถเข้า-ออกเบาะหลังได้สะดวกยิ่งขึ้น และสบายกว่าขณะเดินทางด้วยพื้นที่ห้องโดยสารแถวหลังที่ยาวขึ้น +43 มิลลิเมตร

●   ด้านพละกำลัง 330Li M Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ BMW TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

●   ส่วน 320Li M Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 30.5 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 233 กม./ชม. ทั้งคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ โหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง COMFORT, SPORT และ ECO PRO

●   BMW 330Li M Sport ราคา 3,099,000 บาท ส่วน BMW 320Li M Sport ราคา 2,759,000 บาท

●   6. MINI Cooper S Convertible Resolute Edition และ MINI Cooper SE Resolute Edition และ MINI Cooper S Hatch Resolute Edition : มินิรุ่นพิเศษแบบสปอร์ตคลาสสิค Resolute Edition ตกแต่งแบบเฉพาะตัวด้วยสัญลักษณ์ชื่อรุ่น “RESOLUTE” ตามจุดต่างๆ ทั้งภายนอกและภายใน

●   ห้องโดยสารมากับเบาะสปอร์ต MINI Yours Leather Lounge หรือเบาะผ้า Light Chequered, พวงมาลัยสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa สลักคำว่า “RESOLUTE” บริเวณด้านล่างของก้านพวงมาลัย

●   Cooper S Convertible ตัวถังเปิดประทุน และ Cooper S Hatch ตัวถัง 3 ประตูแฮทช์แบค ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร MINI TwinPower Turbo ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ Steptronic กำลังสูงสุด 192 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 28.5 กก.-ม. Cooper S Convertible อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 7.1 วินาที ส่วน Cooper S Hatch อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุดมากกว่า 235 กม./ชม.

●   สำหรับ MINI Cooper SE Resolute Edition ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วนแบบแบตเตอรี่ ตัวรถมากับสีขาว Nanuq White ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว ลาย MINI Electric Collection Spoke ห้องโดยสารติดตั้งเบาะทรงสปอร์ตแบบผ้า Light Chequered

●   ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 217 กม. จากการทดสอบตามมาตรฐาน NEDC โหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง SPORT, MID หรือ GREEN+

●   MINI Cooper S Convertible Resolute Edition ราคา 3,090,000 บาท (Light Chequered) และราคา 3,120,000 บาท (MINI Yours)

●   MINI Cooper SE Resolute Edition ราคา 2,469,000 บาท (Light Chequered) และ MINI Cooper S Hatch Resolute Edition ราคา 2,919,000 บาท (Light Chequered) และ 2,959,000 บาท (MINI Yours)

●   7. BMW M 1000 R : มอเตอร์ไซค์สปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นล่าสุดในตระกูล BMW M สืบทอดอัตลักษณ์ที่โดดเด่นมาจาก BMW S 1000 R และ S 1000 RR ตัวรถมากับชุดแต่ง M Competition ชุดสี Blackstorm metallic / M Motorsport, เบาะ M Sport, ล้อ M คาร์บอนไฟเบอร์, พักเท้า M และชิ้นส่วน M คาร์บอนไฟเบอร์ตามจุดต่างๆ รวมถึงระบบเบรค M ที่ได้รับการพัฒนามาจากระบบเบรคของรถแข่งรายการ Superbike World Championship ซึ่งทำให้ BMW M 1000 R เป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นที่ 2 ที่ติดตั้งเทคโนโลยีนี้

●   M 1000 R ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน 4 วาล์วไทเทเนียมต่อลูกสูบ DOHC และ BMW ShiftCam ความจุ 999 ซีซี. กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 11.5 กก.-ม. ความเร็วสูงสุด 280 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 15.6 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 จังหวะ แบบ constant-mesh พร้อมเกียร์ straight cut คลัทช์เปียกหลายแผ่นซ้อน พร้อมระบบคลัทช์ anti-hopping

●   BMW M 1000 R ราคา 1,599,000 บาท

●   8. BMW R 1250 GS และ BMW R 1250 GS Adventure : มอเตอร์ไซค์รุ่นยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัย มาพร้อมสีใหม่ GS Trophy

●   ทั้งคู่ใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบ ความจุ 1,254 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยอากาศและของเหลว เพิ่มสมรรถนะด้วยเทคโนโลยี BMW ShiftCam เสริมความสมดุลของเพลา, ลูกเบี้ยว และจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. ความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กม./ชม. โหมดการขี่เลือกได้ระหว่าง ECO, Rain หรือ Road และยังเพิ่มโหมดการขี่แบบโปร (Riding Modes Pro) คือ Dynamic, Dynamic Pro, Enduro และ Enduro Pro

●   นอกจากนี้ยังมี Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) ช่วยปรับช่วงล่างด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมปรับระดับโหลดอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขี่ และยังมีระบบ Hill Start Control Pro ช่วยออกตัวในทางลาดชัน, ระบบ Dynamic Traction Control เพิ่มความปลอดภัยขณะเข้าโค้ง และ ABS Pro ด้วย

●   BMW R 1250 GS ราคา 1,115,000 บาท ส่วน BMW R 1250 GS Adventure ราคา 1,235,000 บาท

คุณวัชรพงศ์ สิทธิพงศ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ มินิ ประเทศไทย

ยอดจำหน่าย BMW และ MINI เติบโตเพิ่มขึ้น +46.6%

●   สำหรับยอดจำหน่ายในประเทศไทย รถหรูในกลุ่ม Luxury Class อาทิ 7-series, 8-series, X7 และ M8 มียอดจำหน่ายเติบโตขึ้น +25.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเจ้าของรถในกลุ่มนี้จะสามารถรับสิทธิพิเศษจาก BMW Excellence Club ที่ออกแบบขึ้นเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกโดยเฉพาะ และยังสามารถเลือกแพ็คเกจเอ็กซ์คลูซีฟที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้สูงสุด 6 แพ็คเกจ ไม่ว่าจะเป็น Business Travel Package, Dining Experience Package, Wellness Experience Package, Sports Experience Package, Family Experience Package หรือ Long Trip Package

●   ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ มีอัตราการเติบโตในตลาดเพิ่มขึ้นถึง +46.6% มียอดจดทะเบียนรถใหม่กว่า 15,010 คัน มากกว่าปีก่อนหน้าถึง +36.1% แบ่งเป็นบีเอ็มดับเบิลยู 13,572 คัน และมินิ 1,438 คัน

●   ในระดับโลก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ส่งมอบรถบีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และโรลส์รอยซ์ รวม 2,399,636 คันทั่วโลก โดยบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ มียอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รวม 215,755 คัน เพิ่มขึ้นถึง +107.7% และเมื่อรวมรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ซึ่งมียอดส่งมอบถึง 372,956 คันตลอดทั้งปี เพิ่มขึ้น +35.6% นั่นแสดงให้เห็นว่าความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นเพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ก็สามารถทำสถิติยอดขายสูงสุดด้วยยอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์และสกู๊ตเตอร์รวม 202,895 คันทั่วโลก

●   ในไทย ส่วนแบ่งทางการตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในกลุ่มพรีเมียม สูงถึง 40.8% ยอดจดทะเบียน 535 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากปีก่อนหน้า ปัจจุบันบีเอ็มดับเบิลยูมีรถไฟฟ้าให้เลือกซื้อครบทั้ง 3 แบรนด์ อาทิ BMW i7, MINI Cooper SE หรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า BMW CE 04 เป็นต้น นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ยังผลให้ปัจจุบันมีเครือข่ายสถานีชาร์จสาธารณะถึง 900 หัวจ่ายทั่วประเทศ คู่ไปกับการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านสำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอีก 2,500 เครื่อง

คุณโอภาส นพพรพิทักษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย (โรงงานระยอง)

บีเอ็มดับเบิลยูบางรุ่น จะปรับราคาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นไป

●   เนื่องจากผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่สูงขึ้นและต้นทุนการผลิต บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จึงประกาศปรับราคารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูบางรุ่น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

รุ่นรถยนต์ราคาใหม่พร้อมแพ็คเกจ BSI Standard (บาท)
BMW 220i Gran Coupé M Sport2,299,000
BMW M240i xDrive4,369,000
BMW 320d M Sport2,759,000
BMW 330e M Sport2,999,000
BMW M340i xDrive4,199,000
BMW 430i Coupé M Sport4,219,000 *
BMW 430i Convertible M Sport4,629,000 *
BMW 520d M Sport3,689,000 *
BMW 530e M Sport3,829,000 *
BMW 630i GT M Sport4,239,000 *
BMW 750e xDrive M Sport6,999,000 *
BMW X3 xDrive20d M Sport3,759,000 *
BMW X3 xDrive30e M Sport3,859,000 *
BMW X4 xDrive20d M Sport4,159,000 *
BMW X4 M Competition8,799,000 *
BMW Z4 sDrive30i M Sport4,219,000 *
BMW Z4 M40i5,219,000 *
BMW i4 M505,259,000 **
BMW iX xDrive50 Sport6,299,000 **
BMW iX3 M Sport3,699,000 **
BMW i7 xDrive60 M Sport8,099,000 **

(*) บริการดูแลบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. / การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง / การบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่เป็นระยะเวลาสูงสุด 5 ปี

(**) บริการดูแลบำรุงรักษา 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง / การรับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง / การรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูงนานสูงสุด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร / การบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่เป็นระยะเวลาสูงสุด 5 ปี

คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ขยายการรับประกันและแพ็คเกจบำรุงรักษาใหม่

●   ในปี 2566 นี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย จะขยายการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินหรือ โมบิลิตี้ เซอร์วิส เป็นระยะเวลา 5 ปี สำหรับลูกค้าที่รับมอบมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 (เข้าถึงการรับประกันได้ทั่วโลกกับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น)

●   ขณะเดียวกัน แพ็คเกจบำรุงรักษา BMW Motorrad Service Inclusive (BMSI) จะพร้อมให้เลือกซื้อเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถเลือกได้ระหว่างแพ็คเกจบำรุงรักษาครอบคลุม 3 ปี / 30,000 กิโลเมตร หรือแพ็คเกจ 5 ปี / 50,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)* โดยมีรายละเอียดดังนี้:

รุ่นการรับประกัน และ
โมบิลิตี้ เซอร์วิส
ราคาแพ็คเกจ BMSI
3 ปี/30,000 กม. (บาท)
ราคาแพ็คเกจ BMSI
5 ปี/50,000 กม. (บาท)
BMW CE045 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง13,000 19,000
BMW C 4005 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง19,000 31,000
BMW G 3105 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง28,000 36,000
BMW F 750, F 850, F 9005 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง27,000 40,000
BMW S 10005 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง31,000 46,000
BMW K 16005 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง34,000 48,000
BMW R nineT, R 12505 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง33,000 48,000
BMW R 185 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง32,000 50,000

●   แพ็คเกจบำรุงรักษา BMW Motorrad Service Inclusive ครอบคลุมอะไหล่แท้ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด} ค่าแรง และน้ำมันหล่อลื่นต่างๆ สำหรับรายการตามตารางการซ่อมบำรุงมาตรฐาน ดังนี้:

●   (1) การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมกรองน้ำมันเครื่อง รวมถึงน้ำมันเครื่องสำหรับเติมกลับในระบบ (2) บริการเปลี่ยนกรองอากาศ กรองน้ำมันเชื้อเพลิง หัวเทียน (3) บริการเปลี่ยนน้ำมันเบรก และ (4) บริการตรวจสภาพรถตามข้อกำหนดของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.bmw-motorrad.co.th

ขยายเครือข่ายผู้จำหน่าและศูนย์บริการต่อเนื่อง

●   บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับการประเมินคะแนนความพึงพอใจของผู้บริโภค (Net Promoter Score – NPS) สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ขยายจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการเต็มรูปแบบ (Fully-Fledged), ศูนย์บริการหลังการขาย (Service Only Outlet) และโชว์รูมในห้างสรรพสินค้า (Urban Store) หลายพื้นที่

●   ทั้งนี้ ในปี 2565 ได้มีการเปิดตัวคอนเซปต์โชว์รูมและศูนย์บริการแบบใหม่ หรือ Retail Next เป็นครั้งแรกที่ มิลเลนเนียม ออโต้ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ รวมถึงเพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส ราชพฤกษ์ ที่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อเร็วๆ นี้

●   Retail Next จะนำมาใช้กับโชว์รูมที่เตรียมเปิดบริการในปี 2566 นี้ ได้แก่ มิลเลนเนียม ออโต้ สุราษฎร์ธานี และ เนลสัน ออโต้เฮ้าส์ ระยอง ขณะเดียวกัน ลูกค้ามินิก็สามารถเข้ารับบริการหลังการขาย ณ ศูนย์บริการหลังการขาย (Service Only Outlet) แห่งใหม่ 3 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น มิลเลนเนียม ออโต้ ลาดพร้าว, เยอรมัน ออโต้ สุวรรณภุูมิ และพลาติโน มอเตอร์ ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในปีนี้ก็จะมีการปรับโฉม มิลเลนเนียม ออโต้ อุบลราชธานี และบาเซโลนา มอเตอร์ เชียงใหม่ และภายในปี 2566 จะมีโชว์รูมและศูนย์บริการในทุกประเภทสำหรับแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู 34 แห่ง, มินิ 18 แห่ง และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 14 แห่ง

มร. คาร์สเทน สตัมพ์ฟ (Karsten Stumpf) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงิน บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย

บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส พัฒนาบริการดิจิทัล

●   ปี 2565 เป็นอีกปีที่อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ แต่ด้วยการคำนึงถึงความพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย สามารถสร้างการเติบโตให้กับยอดสินเชื่อรวมได้ถึง +4% เมื่อเทียบกับปี 2564

●   และปี 2565 บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ยังมีผลการประเมินคะแนนความพึงพอใจของผู้บริโภค (NPS Score) เพิ่มขึ้น +8 คะแนน และมีคะแนนด้านการดูแลลูกค้า (Customer Care) เพิ่มขึ้นถึง +23 คะแนน ขณะเดียวกันยังสร้างผลงานที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อรถมือสองซึ่งเติบโตกว่า +13% ขณะที่อัตราการเข้าถึงตลาดลูกค้าองค์กรเพิ่มกว่า +65% ด้วย

●   บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังได้ลงทุนเพิ่มเติมบริการด้านดิจิทัล ผ่าน MyBMW Finance และ MyMINI Finance โดยให้บริการผ่านแอพพลิเคชันทางการเงินออนไลน์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้ายืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัลได้ (National Digital ID – NDID) ยังผลให้ลูกค้าสามารถสมัครบริการทางการเงินได้โดยตรงผ่าน BMW Thailand Web Shop ช่วยให้ประหยัดเวลา และมีความสะดวกเพิ่ม

คุณจริยา คูนลินทิพย์ ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย

กิจกรรมเพื่อสังคม หนึ่งในแกนหลักของกลยุทธ์องค์กร

●   ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ สนับสนุนโอกาสการเรียนรู้ของนักเรียนอาชีวะผ่านการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติกับโครงการ BMW Service Apprentice และโครงการการศึกษาระบบทวิภาคีเยอรมัน-ไทย มุ่งส่งเสริมทักษะยานยนต์ยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า โดยตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา โครงการ BMW Service Apprentice มีนักเรียนเข้าร่วม 247 คน มีนักเรียน 107 คนเข้าร่วมโครงการการศึกษาระบบ ทวิภาคีเยอรมัน-ไทย รวมจากทั้งสองโครงการ 354 คน และกว่า 50% ของนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากโครงการยังคงทำงานอยู่ในเครือข่ายผู้จำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

●   ต่อด้วยโครงการ Care4Water จัดหาน้ำสะอาดที่เข้าถึงได้ให้กับชุมชนที่ขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน โดยตลอดระยะเวลา 8 ปีของโครงการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ส่งมอบเครื่องกรองน้ำรวมทั้งสิ้น 7,103 ชุดให้กับ 96 ชุมชนใน 32 จังหวัดทั่วประเทศไทย

●   ปิดท้ายด้วยโครงการ Choice is Yours ส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษากล้าแสดงความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง โดยร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรชั้นนำต่างๆ ซึ่งล่าสุดได้สนับสนุนนิสิตนักศึกษารุ่นเยาว์ในการต่อยอดไอเดีย เพื่อค้นหาแนวทางในการ REduce REuse REthink และ REcycle พร้อมส่งเสริมความเชี่ยวชาญยิ่งขึ้นกับโปรแกรมการฝึกงานซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของทั้งนิสิตนักศึกษาและสังคม โครงการดังกล่าวยังได้ขยายไปสู่ผู้จำหน่ายด้วยเช่นกันกับรางวัล Sustainability Awards ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มอบให้เพื่อแสดงความยกย่องผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน         ●

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.bmw.co.th หรือแฟนเพจ : facebook.com/bmwthailand หรือ : mini-th.com หรือแฟนเพจ : facebook.com/mini.th.blog หรือ : www.bmw-motorrad.co.th หรือ : แฟนเพจ facebook.com/BMWMotorradTH หรือติดต่อ : BMW Contact Center Tel: 1397 ●

Report : 2023 BMW Group Thailand Annual Press Conference