สวีเดนเตรียมเปิดถนนชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายในปี 2026

เรื่อง : AREA 54

●   สวีเดนประกาศบันทึกหน้าประวัติศาสตร์โลกบทใหม่ เตรียมเปืดให้บริการระบบถนนไฟฟ้าสาธารณะ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้รถยนต์ยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบไร้สายได้ระหว่างขับ เบื้องต้นใช้ชื่อเรียบง่ายตรงตัวว่าระบบ “ERS” หรือ Electric Road System จุดประสงค์หลักก็คือช่วยเพิ่มระยะทางในการขับให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ลดปัญหาแบตเตอรี่หมดระหว่างเดินทางก่อนจะถึงสถานีชาร์จ

●   แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปี 2016 Renault, Qualcomm และสถาบัน R&D สัญชาติฝรั่งเศส Vedecom ได้เริ่มพัฒนาโครงการถนนอัจฉริยะในฝรั่งเศส ใช้ชื่อระบบว่า DEVC หรือ Dynamic Electric Vehicle Charging ใช้เทคโนโลยีระบบชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายแบบแม่เหล็กเหนี่ยวนำ (แบบเดียวกับจุดชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบไร้สายส่วนบุคคลที่มีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบของ Evatran หรือ Toyota/WiTricity)

●   ทว่าในปีเดียวกันนั้น หน่วยงานการขนส่งของสวีเดนเองก็ชิงนำด้วยการเปิดทดลองใช้ถนนไฟฟ้า หรือ e-Highway เป็นระยะทางราว 2 กม. เพื่อให้บริษัท Scania ทดสอบการชาร์จรถบรรทุกไฟฟ้า ทว่าในเวลานั้น พวกเขาใช้ระบบจ่ายไฟแบบ “Overhead Catenary System” ตัวระบบจะมีสายไฟขึงบนอากาศเพื่อจ่ายไฟให้ให้อุปกรณ์รับกระแสไฟที่ติดตั้งบนตัวรถ พร้อมๆ กับชาร์จแบตเตอรี่สำรองไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ตัวรถมีกระแสไฟฟ้าสำรองมากพอในขณะที่วิ่งพ้นช่วงถนนไปแล้ว และสามารถเดินทางต่อไปได้อย่างเต็มระยะทางที่วางแผนเอาไว้ โดยที่ไม่ต้องหยุดจอดรถเป็นระยะๆ เพื่อชาร์จแบตเตอรี่

●   สำหรับแผนงานใหม่นี้ สวีเดนตั้งใจจะให้บริการรถยนต์ส่วนบุคคลด้วย โดยระบบนี้จะติดตั้งเอาไที่ไฮเวย์สาย E20 ซึ่งเชื่อมเมืองใหญ่อย่าง สตอคโฮล์ม, โกเธนเบิร์ก และ มัลเมอ โดยแผนงานนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของแผงานใหญ่ซึ่งรวมเป็นระยะทางกว่า 3,000 กม. (1,864 ไมล์)

●   ณ เวลานี้ เทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (สำหรับรถยนต์) ที่ผู้ผลิตต่างๆ ใช้กันนั้น แยกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกคือเทคโนโลยี “Electromagnetic Induction” หรือการเหนี่ยวนำไฟฟ้าสถิต (แบบเดียวกับมาตรฐาน Qi ที่ใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย) ส่วนอีกแบบก็คือ “Magnetic Resonance” ส่งคลื่นพลังงานผ่านอากาศ หลักการทำงานคร่าวๆ ก็คือ การส่งความถี่ของคลื่นพลังงานจากจุดกำเนิด ไปยังวัตถุที่เป็นตัวรับ หากวัตถุที่เป็นตัวรับ-ส่ง มีคลื่นความถี่ตรงกัน (Resonance) ก็จะสามารถถ่ายเทพลังงานให้กันได้ จุดเด่นก็คือการสูญเสียพลังงานระหว่างทางน้อยกว่า

●   อย่างไรก็ตาม ในเนื้อข่าวระบุว่า สวีเดนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้เทคโนโลยีใดในการติดตั้งให้กับถนนไฟฟ้าเส้นแรกนี้ และนอกจากเทคโนโลยี Electromagnetic Induction และ Magnetic Resonance แล้ว เทคโนโลยี Overhead Catenary System ก็ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกเหมือนกัน (หากจะให้ผู้แปลเดา ก็คงจะเป็นเทคโนโลยีเหนี่ยวนำไฟฟ้าสถิตครับ)

●   ตามข่าวระบุว่า ระบบถนนไฟฟ้า ERS จะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปี 2025 และน่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปี 2026… หากไม่มีประเทศใดชิงเปิดตัว e-Road ตัดหน้าไปเสียก่อน สวีเดนก็จะเป็นประเทศแรกในโลกที่มีการให้บริการ e-Road สำหรับบุคคลทั่วไปครับ         ●