Aito M9 ฟูลไซส์ SUV หรูจาก Huawei และ Seres เปิดตัวรุ่น 5 ที่นั่ง
เรื่อง : AREA 54
● หลังเปิดตัวรถรุ่นที่ 3 ในจีนไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา รถฟูลไซส์ SUV หรูรุ่นแฟลกชิพ Aito M9 ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 3 ของ Aito แบรนด์ในเครือ Seres Group ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Seres และ Huawei ก็เพิ่มทางเลือกความหรูและความสะดวกสบายในขณะเดินทางด้วยรุ่นห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง หลังทำตลาดรุ่น 6 ที่นั่งมาระยะหนึ่ง โดยระบบขับเคลื่อนยังคงได้ระหว่างไฟฟ้าล้วน หรือขยายระยะทาง (EREV : extended-range electric vehicles) เช่นเดิม
● ปัจจุบัน Aito M9 รับหน้าที่เป็นรถธงของแบรนด์ Aito คู่แข่งหลักๆ นอกจากรถพลังงานทางเลือกด้วยกันเองในบ้านเกิดแล้ว พวกเขายังพุ่งเป้าไปที่รถหรูพลัง ICE อย่าง BMW X7 หรือ Mercedes-Benz GLS ด้วย โดยชูจุดเด่นไปที่ต้นกำลังเป็นระบบขับเคลื่อนที่สะอาดกว่า และแน่นอนว่ามีราคาประหยัดกว่า
● ขนาดตัวของ Aito M9 มีความยาว 5,230 มม. กว้าง 1,999 มม. สูง 1,800 มม. ความยาวฐานล้อจากกึ่งกลางล้อหน้าถึงล้อหลังมีให้ถึง 3,110 มม. การันตีได้ว่าเบาะแถว 2 และแถว 3 จะมีพื้นที่วางขาหรือเอนหลังได้อย่างเหลือเฟือ (BMW X7 ความยาวฐานล้อ 3,105 มม. ส่วน Mercedes-Benz GLS ความยาวฐานล้อ 3,135 มม.)
Aito M9 รุ่นมาตรฐานห้องโดยสาร 6 ที่นั่ง
● รุ่นมาตรฐาน 6 ที่นั่ง ห้องโดยสารมีอุปกรณ์ที่ทันยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็น Head-up display บนกระจกหน้า เทคโนโลยี AR เทียบเท่าจอขนาด 75 นิ้ว, มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว, จอกลางสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 15.6 นิ้ว, จอระบบเอนเตอร์เทนเมนท์สำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 16 นิ้ว, จอกลางขนาด 32 นิ้วแบบลากเก็บพร้อมเลเซอร์ โปรเจคเตอร์ สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, จอระบบเอนเตอร์เทนเมนท์สำหรับผู้โดยสารบนเบาะแถว 2 และแถว 3 ขนาด 10 นิ้วอีก 4 จอ (ออปชั่น) ปิดท้ายด้วย Huawei sound system พร้อมลำโพง 25 ตำแหน่ง
● ไฮไลท์ใหม่ในรุ่นล่าสุด 5 ที่นั่งคือ เบาะหนัง Nappa, เบาะคู่แถว 2 แบบ Zero Gravity ปรับเอนได้สูงสุด 43 องศา, ที่วางขาปรับได้สูงสุด 75 องศา, ที่วางแขนกว้าง 255 มม. สามารถพับเพื่อปรับจาก 3 ที่นั่งให้เป็น 2 ที่นั่งแบบกึ่งเบาะกัปตันได้, สีเบาะใหม่ 2 สี Amber Brown หรือ Truffle Brown, แผงหลังคาหุ้มด้วยหนังกลับ, พื้นที่บรรทุกสัมภาระเพิ่มขึ้นเป็น 637 ลิตร และสูงสุด 1,105 ลิตรเมื่อพับเบาะ
Aito M9 รุ่นใหม่ ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง
● ระบบขับเคลื่อนไม่เปลี่ยนแปลง รุ่น EV ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หมุนล้อแบบ All-wheel drive กำลังสูงสุด 530 แรงม้า (PS) อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที แบตเตอรี่แพคชนิด Ternary lithium-ion ใช้บริการของ CATL ความจุ 97 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 630 กม.
● ส่วนรุ่น EREV ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์ เก็บประจุไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่แพคชนิด NMC (Lithium nickel manganese cobalt oxides) ของ CATL ความจุ 42 หรือ 52 กิโลวัทท์-ชม. ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย แล้วใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หมุนล้อแบบ AWD กำลังสูงสุด 496 แรงม้า (PS) อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.9 วินาที แบตเตอรี่เต็ม + น้ำมัน 1 ถังวิ่งได้ไกล 1,362 กม.
● รุ่นมาตรฐานเวอร์ชั่น 5 ที่นั่ง เกรด Max (EREV) ราคาเริ่มต้นที่ 469,800 หยวน หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท ส่วนรุ่นท๊อปเกรด Ultra (EV) เริ่มต้นที่ 569,800 หยวน หรือราว 2.7 ล้านบาทครับ ●