February 13, 2025
Motortrivia Team (7263 articles)

BYD เปิดตัวระบบช่วยขับในกลุ่ม ADAS เจนฯ ใหม่ “God’s Eye”

เรื่อง : AREA 54

● BYD เปิดตัวชุดระบบช่วยขับในกลุ่ม ADAS เจนเนอเรชั่นใหม่ ใช้ชื่อทางการค้าอย่างอหังการว่า “นัยน์ตาเทพเจ้า” หรือ God’s Eye พร้อมระบุว่ารถทุกรุ่นของ BYD ในประเทศจีนจะสามารถติดตั้งชุดระบบช่วยขับเจนฯ ใหม่ซึ่งอยู่ในกลุ่มไฮเอนด์ได้ แม้แต่รถแฮทช์แบครุ่นมาตรฐานราคาเบาๆ อย่าง BYD Seagull ซึ่งมีราคาจำหน่ายในจีนเริ่มต้นเพียง 69,800 หยวน หรือราวๆ 3.3 แสนบาทก็ตาม

หวาง ฉวนฟุ ประธาน BYD ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบัน BYD มีข้อมูลมากมายอยู่บนคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และ BYD ซึ่งมีวิศวกรถึง 110,000 คนนั้น มีหน่วยงานซึ่งทำหน้าที่พัฒนาชุดระบบช่วยขับในกลุ่ม ADAS ถึง 5,000 คน ซึ่งในปี 2024 ที่ผ่านมา พวกเขามีการเทรนระบบ ADAS ด้วยระยะทางเฉลี่ย 72 ล้านกิโลเมตร/วัน

● หวาง ฉวนฟุ เชื่อว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า (จำนวน) ชุดระบบ ADAS จะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์รุ่นนั้นๆ และคอนเฟิร์มว่า หลังจากนี้รถของ BYD ทุกรุ่นตั้งแต่รถราคาประหยัด จะติดตั้งชุดระบบ God’s Eye มาให้จากโรงงาน

หวาง ฉวนฟุ ประธาน BYD

3 แพคเกจ A, B, C แยกตามระดับราคารถ

● ในเบื้องต้น ชุดระบบ God’s Eye จะแยกเป็น 3 แพคเกจ ได้แก่แพคเกจมาตรฐาน “God’s Eye C” สำหรับรถ BYD ซึ่งเริ่มตั้งแต่รุ่นราคาประหยัด ฮาร์ดแวร์หลักๆ ประกอบด้วยกล้องความละเอียดสูง 3 ตัวติดตั้งเอาไว้ที่กระจกหน้า และควบคุมด้วยระบบ DiPilot 100 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการประมวลที่รวดเร็วถึง 100 TOPS (หมายถึง Trillions of Operations Per Second หรือความเร็วในการประมวลผลด้วย AI ในหลักล้านล้านคำสั่งภายใน 1 วินาที)

● นอกจากนี้ยังมีกล้องรอบคันอีก 9 ตำแหน่ง, เรดาร์ชนิดเทคโนโลยีคลื่นมิลลิเมตร (Millimeter Wave Radar) 5 ตำแหน่ง สำหรับคำนวณมุมรอบคัน 360 องศา และเรดาห์อัลตร้าโซนิค 12 ตำแหน่ง ซึ่งมีความสามารถในการวัดระยะประชิดที่แม่นยำถึง 1 ซม. และความแม่นยำในการวัดระยะขณะจอดรถ 2 ซม.

● ต่อด้วยแพคเกจระดับกลาง “God’s Eye B” เพิ่มความสามารถด้วยการติดตั้งเซ็นเซอร์ LiDAR เพื่อให้ระบบช่วยขับมีการแม่นยำมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ แพคเกจ God’s Eye B จะติดตั้งมาให้เฉพาะรถรุ่นแฟลกซิพของ BYD และรถหรูภายใต้ซับ-แบรนด์ Denza เท่านั้น โดย God’s Eye B จะขยับขึ้นไปใช้ระบบ DiPilot 300 ในการควบคุม ความเร็วในการประมวลผลเพิ่มขึ้นเป็น 300 TOPS

● ปิดท้ายด้วยแพคเกจระดับท๊อป “God’s Eye A” เพิ่มจำนวน LiDAR บนหลังคาเป็น 3 ตัว ใช้ระบบ DiPilot 600 ในการควบคุม ความเร็วในการประมวลผลสูงสุดถึง 600 TOPS แพคเกจนี้จะติดตั้งในรถไฮเอนด์ภายใต้ซับ-แบรนด์ Yangwang เท่านั้น

สถาปัตยกรรมใหม่ Xuanji + Deepseek

● สำหรับชุดระบบ God’s Eye นั้น BYD พัฒนาขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ในชื่อ Xuanji ซึ่งมีการทำงานในลักษณะ “1 สมอง 2 ตัวประมวล 3 เน็ทเวิร์ค 4 ห่วงโซ่” (One brain, Two ends, Three networks, and Four chains) หมายถึง โปรเซสเซอร์สำหรับประมวลผล 1 ตัว ต่อด้วย AI 2 ตัว แยกเป็น AI บนคลาวด์และ AI บนรถ ในขณะที่ 3 เน็ทเวิร์คจะแยกเป็นอินเตอร์เน็ทบนรถ, เครือข่าย 5G และเครือข่ายดาวเทียม ปิดท้ายด้วยห่วงโซ่ทั้ง 4 ที่ทำงานร่วมกัน ประกอบด้วย ห่วงโซ่เซ็นเซอร์, ห่วงโซ่การควบคุม, ห่วงโซ่ข้อมูล และห่วงโซ่การทำงานในเชิงกล

● นอกจากนี้ BYD ยังระบุว่า สถาปัตยกรรม Xuanji นั้นจะถูกพ่วงเข้ากับ AI ที่มาแรงสุดๆ อย่าง Deepseek R1 เพื่อช่วยเก็บข้อมูลและปรับปรุงการทำงานของ AI ใน God’s Eye A และ God’s Eye B ด้วย เพื่อให้ทั้ง 2 แพคเกจสามารถใช้งานระบบนำทางแบบ NOA (Navigation on Autopilot) ขณะใช้งานระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติได้อย่างราบรื่นทั้งแบบในเมือง และไฮเวย์

● ส่วนแพคเกจเริ่มต้นอย่าง God’s Eye C ซึ่งจะใช้งานในรถราคาประหยัด จะรองรับการใช้งานระบบนำทาง NOA ในเมืองผ่านการอัพเดทซอฟท์แวร์แบบ Over-The-Air ในอนาคตครับ ●