Isuzu เตรียมเปิดโรงงานใหม่ในสหรัฐฯ พร้อมเดินสายการผลิตในปี 2027

เรื่อง : AREA 54

● Isuzu North America Corporation เตรียมเปิดโรงงานผลิตรถบรรทุกในสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบจากโครงสร้างภาษีใหม่จากนโนบายของประธานาธิบดี Donald Trump โดยโรงงานแห่งนี้จะรับหน้าที่ผลิตรถบรรทุก Isuzu N-Series รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน, Isuzu N-Series เวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วน และ Isuzu F-Series รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ภายในปี 2027 และมีกำลังการผลิตสูงสุดประมาณ 50,000 คันต่อปี* ภายในปี 2030

● โรงงงานใหม่ของอีซูซุจะตั้งอยู่ที่กรีนวิลล์ รัฐเซาท์แคโรไลนา ใช้พื้นที่ราว 750,000 ตารางเมตร และใช้งบลงทุน 280 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 9.5 พันล้านบาท สามารถสร้างงานให้คนในพื้นที่ได้มากกว่า 700 อัตรา สายการผลิตออกแบบให้มีลักษณะผสม เพื่อให้รองรับการผลิตรถได้หลายรุ่น และมีความยืดหยุ่นในแง่ของการปรับตัวเลขปริมาณการผลิตตามความต้องการของตลาด เช่น ลด/เพิ่มกำลังการผลิตของรถ ICE หรือลด/เพิ่มกำลังการผลิตรถ EV เป็นต้น

*หมายเหตุ : ในปี 2024 อีซูซุมียอดจำหน่ายรถบรรทุกในอเมริกาเหนือ (รวมแคนาดา) ราว 44,000 คันต่อปี

All-New Isuzu NRR EV (Isuzu N-Series EV)

● โรงงานแห่งนี้จะนับเป็นโรงงานแห่งแรกของอีซูซุที่ไม่ใช้ไลน์การผลิตชนิดสายพานลำเลียง (Conveyor) หรือต่างระดับ (Pit) ในแบบดั้งเดิม ทำให้สามารถปรับลด/ขยายไลน์การผลิตได้ง่าย นอกจากนี้ อีซูซุจะใช้ระบบตรวจสอบแบบอัตโนมัติ เพื่อตรวจสอบคุณภาพในการผลิต และลดข้อบกพร่อง (Defective) ระหว่างขั้นตอนการผลิตให้ได้มากที่สุดก่อนที่ตัวรถจะถูกส่งออกไปทำตลาด

● สำหรับรถรุ่นแรกที่อีซูซุจะผลิตบนแผ่นดินสหรัฐฯ ก็คือ รถบรรทุกตระกูล N-series ซึ่งเป็นรถในกลุ่มรถบรรทุกขนาดกลาง (Medium-duty truck) พิกัดระหว่าง 7.5 – 9.3 ตัน จากนั้นจึงจะเป็นคิวของรถบรรทุกตระกูล F-series ที่มีน้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้นในพิกัด 15 ตันในภายหลัง

● การตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานระยะกลาง “Isuzu Transformation – Growth to 2030” ซึ่งประกาศไว้ในช่วงเดือนเมษายน 2024 ที่ผ่านมา โดยอีซูซุตั้งเป้าขยายการดำเนินงาน 3 ประการ ประกอบด้วย (1) โซลูชันการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ หรือ Autonomous driving solutions (2) การขยายบริการผ่านการเชื่อมต่อ หรือ Connected services และ (3) โซลูชันที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon-neutral solutions

●   ทั้งหมดนี้ อีซูซุคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทราว 1 ล้านล้านเยนภายในปี 2030 และภูมิภาคอเมริกาเหนือได้ถูกวางตำแหน่งให้เป็นภูมิภาคบุกเบิกสำหรับธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของอีซูซุ ●