Ford เปิดตัว 2025 Everest Sport Special Edition
motortrivia
● ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัว Everest รุ่นย่อยใหม่ Ford Everest Sport Special Edition ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,619,000 บาท คันจริงจะจัดแสดงอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2025 ใครสนใจฟอร์ดเปิดจองแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ดีลเลอร์ฟอร์ดทั่วประเทศ หรือสามารถสั่งจองออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซท์ www.ford.co.th ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
● สีภายนอกของ Everest Sport Special Edition เลือกได้ 2 สีระหว่าง ขาว Snowflake White Pearl หรือเงิน Aluminium Metallic ทุกคันรับประกันคุณภาพจากโรงงาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และฟรีประกันภัยชั้น 1 ปีแรก
● ด้านภาพลักษณ์ Everest Sport Special Edition จะมากับตกแต่งแบบเฉพาะรุ่นด้วยโทนสีดำรอบคัน เช่น หลังคาสีดำ, สปอยเลอร์ท้ายสีดำ และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลายใหม่สีดำ แอสฟัลท์ แบล็ก พื้นผิวด้าน จับคู่ก้านสีแดงหนึ่งก้าน และก้านสีดำเงาอีก 5 ก้าน พร้อมยาง 255/55 แบบเดียวกับ Ford Ranger Stormtrak และมีตัวอักษร Everest สีดำตกแต่งบนฝากระโปรงหน้า
● อุปกรณ์มาตรฐานมีชุดไฟหน้า LED รีเฟลกเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟ LED DRL สำหรับวิ่งกลางวันทรง C, ไฟตัดหมอกหน้า LED, ชุดไฟท้าย LED และประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
● ห้องโดยสารตกแต่งแบบสปอร์ตด้วยโทนสีดำ อุปกรณ์มาตรฐานมีมาตรวัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว, จอทัชสกรีนแบบมัลติทัชขนาด 12 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Wireless Apple CarPlay, บลูทูธ พร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์ SYNC® 4A เสริมด้วยบริการ Always-On ผ่านแอพพลิเคชัน FordPass™ สำหรับเชื่อมต่อฟีเจอร์ต่างๆ ในรถ, ถาดชาร์จสมร์ทโฟนแบบไร้สาย และชุดลำโพง 8 ตำแหน่ง
● เบาะหนังและหนังสังเคราะห์สีดำลายสปอร์ต, เบาะผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา, ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ช่องจ่ายไฟ 12V รวม 3 ช่อง, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB, ระบบเปิด-ปิดกระจกแบบสัมผัสเดียว ฝั่งผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ พร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ
● ด้านพละกำลัง Everest Sport Special Edition ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อน 2 ล้อ กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที โหมดในการขับเลือกได้ 4 โหมดระหว่าง Normal, Eco, Slippery หรือ Tow/Haul อัตราการคายมลพิษอยู่ในระดับ Euro 5
● ชุดระบบความปลอดภัยในกลุ่ม ADAS มาแบบครบๆ ประกอบด้วย กล้องมองรอบคัน 360 องศา, ระบบ Forward Collision Warning System เตือนการชนด้านหน้า, ระบบ Evasive Steering Assist ช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ, ระบบ Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go, ระบบ Lane Departure Alert ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
● ต่อด้วยระบบ Autonomous Emergency Braking with Pedestrian Detection ช่วยเบรคอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน, ระบบ Roll-Over Mitigation ลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ, ระบบ Hill Launch Assist ช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน, ระบบ Blind Spot Information System (BLIS®) with cross-traffic alert ตรวจจับรถในจุดบอด พร้อมระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด
● ปิดท้ายด้วยถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ประกอบด้วยคู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า, ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน, สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง, กล้องมองหลังขณะถอยจอด, ระบบเบรค ABS และ EBD, เบรคมือไฟฟ้า, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control System
● พิเศษ สำหรับลูกค้า Everest รุ่นปี 2025 ที่ต้องเติมสาร AdBlue® ฟอร์ดมีคูปองแพคเกจพิเศษสำหรับนำรถเข้ารับบริการเติมสาร AdBlue® ได้ 2 แกลลอน ในปริมาณ 18.9 ลิตร โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยคูปองมีอายุ 2 ปี สามารถใช้งานได้ที่ศูนย์บริการฟอร์ดทั่วประเทศ หรือนัดหมายเข้ารับบริการผ่านหน่วยบริการเคลื่อนที่ Ford Mobile Service
● และในกรณีเรียกใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Road side Assistance หรือ RSA) สามารถเลือกรับบริการนำรถเข้าศูนย์บริการฟอร์ดเพื่อเติมสาร AdBlue® โดยใช้คูปองหรือให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน RSA เติมสาร AdBlue® ให้แก่ลูกค้านอกสถานที่ ซึ่งในกรณีนี้จะมีค่าบริการในการเติมสาร AdBlue®
● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซต์ : www.ford.co.th หรือ เฟซบุ๊ค แฟนเพจ : facebook.com/FordThailand หรือแอด LINE : @FordThailand หรือติดต่อ Ford Call Center โทร.1383 หรือ 1-800-225-449 (ต่างจังหวัดโทรฟรี) ●
