|
ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ, จันทนา เจริญทวี • วีดิโอ : สุพรรณี ยังอยู่ |
update Wednesday, 5 October, 2011 14:29 PM |
|
 |
|
|
|
|
|
เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก สำหรับ เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่โมเดลเชนจ์ โดยโครงการพัฒนา โคโลราโด รุ่นใหม่นี้ GM ใช้เงินลงทุนถึงกว่า 60,000 ล้านบาท (2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี และได้รับการพัฒนาขึ้นใน 5 ทวีป เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้ามากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
โคโลราโด มาพร้อมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้น ห้องโดยสารและรูปลักษณ์ภายนอก ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคัน และโครงการรถกระบะ โคโลราโด ถือเป็นการเริ่มต้นโครงการพัฒนารถกระบะขนาดกลางครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ 100 ปีของเชฟโรเลต |
|
 |
|
การเปิดตัวแบบเวิลด์พรีเมียร์
ในบ้านเรา เชฟโรเลต เปิดตัว โคโลราโด รุ่นใหม่ออกจำหน่ายทั้งหมด 26 รุ่นย่อย แตกต่างที่เครื่องยนต์ ห้องโดยสาร และความสูงของรถ ทั้งแบบธรรมดาและยกสูง พร้อมกับรูปแบบตัวถัง 3 แบบ คือ ซิงเกิลแค็บ, เอ็กซ์เทนเดด-แค็บ และ ครูว์-แค็บ รวมถึงตัวถังแบบกว้าง และแบบปกติ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ เครื่องยนต์ ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ รุ่นใหม่ล่าสุด มีให้เลือก 2 ขนาด แบ่งออกเป็น 3 รุ่น
มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ ได้รับการพัฒนาจากประสบการณ์หนึ่งศตวรรษของ เชฟโรเลต ที่มุ่งสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เหนือกว่าความต้องการของลูกค้า
"เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่เปิดตัวโคโลราโดรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นโครงการพัฒนารถกระบะขนาดกลางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม" มร. แอพเฟล กล่าว "นี่คือรถกระบะพันธุ์แกร่งที่ผลิตโดยคนไทย เพื่อคนไทย เป็นรถกระบะแห่งความภาคภูมิใจของประเทศไทย" |
|
 |
|
• นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย |
|
 |
|
• มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด |
|
 |
|
• คุณวันชนะ อูนากูล ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายวิศวกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด |
 |
|
จากพื้นฐานการประกอบตัวถังบนแชสซีส์ (Body-on-frame) ของรถกระบะขนาดกลางขับเคลื่อนล้อหลังในระดับโลกของ จีเอ็ม นี้ โคโลราโด ใหม่ได้รับการออกแบบ พัฒนาทางวิศวกรรม และดำเนินการผลิตให้เป็นรถกระบะที่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุด มีสมรรถนะที่ดีที่สุด เอนกประสงค์ที่สุด และประณีตที่สุดในรถกระบะระดับเดียวกัน
มร. แบรด เมอร์เคล ผู้บริหารสายผลิตภัณฑ์ยานยนต์สำหรับรถกระบะขนาดกลางของ จีเอ็ม โกลเบิล กล่าวว่า "เป้าหมายของเราตั้งแต่เริ่มต้นโครงการนี้ คือการสร้าง 'รถกระบะที่ลากได้ทุกสิ่ง ลุยไปได้ทุกที่' และนั่นคือสิ่งที่โคโลราโด พร้อมมอบให้แก่ลูกค้า เราพัฒนาระบบวิศวกรรมเพื่อตอบสนองการใช้งานเชิงพาณิชย์ และในชีวิตประจำวัน โคโลราโดสามารถบรรทุกหนักได้สารพัด เป็นรถขนสิ่งของสำหรับครอบครัว และเป็นรถที่ตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งรวมถึงลูกค้าที่ต้องการรถกระบะระดับพรีเมียม"
"ความเอนกประสงค์ดังกล่าว ถือเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดก็ตาม ลูกค้าก็ยังจะได้รับรถกระบะที่มีโครงสร้างแข็งแกร่ง ตัวถังอยู่บนแชสซีส์ ขุมพลังขับเคลื่อนที่ทรงพลัง และการประกอบอย่างพิถีพิถัน ไม่มีการละทิ้งสุนทรียศาสตร์ หรือประนีประนอมในการเลือกใช้ชิ้นส่วนพื้นฐานใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโคโลราโดแบบ 2 ประตูเพื่อการขนส่งเต็มพิกัด ไปจนถึงโคโลราโด ครูว์-แค็บ 4 ประตูที่ให้ความหรูหรา"
"ไม่ว่าจะเลือกโคโลราโด รุ่นใดก็ตาม ลูกค้าก็จะได้รับรถกระบะที่มีความครบครันสมบูรณ์แบบ ทั้งการออกแบบที่โดดเด่น ความประหยัดน้ำมัน ความละเอียดประณีต และความสนุกสนานในการขับขี่ เรามีความภาคภูมิใจมากกับผลลัพธ์ที่ได้ในครั้งนี้" มร. เมอร์เคล กล่าว
|
|
 |
|
ก้าวย่างของพัฒนา
การพัฒนา เชฟโรเลต โคโลราโด นำโดยทีมวิศวกรที่มีทักษะชั้นเยี่ยมของ จีเอ็ม บราซิล ซึ่งใช้ประสบการณ์อันเชี่ยวกรากในการผลิตรถกระบะ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแต่ละประเทศ ซึ่งรวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทีมวิศวกรของ จีเอ็ม เดินทางมาพักอาศัยในประเทศไทยตลอดช่วงการพัฒนา เพื่อเข้าถึงตลาดรถกระบะเมืองไทยที่มีการแข่งขันสูง และเฝ้าสังเกตการณ์รูปแบบการขับขี่ใช้งานอันหลากหลายของคนไทย ซึ่งทักษะความเชี่ยวชาญของทีมวิศวกร จีเอ็ม นำมาซึ่งการพัฒนา โคโลราโด รุ่นใหม่ ออกมา 3 ระดับ คือ รุ่นเริ่มต้น LS, รุ่นกลาง LT และ รุ่นสูงสุด LTZ
โคโลราโด มาพร้อมการขับขี่และการควบคุมที่เหนือความคาดหมายของตลาดรถกระบะขนาดกลาง ซึงเป็นผลจากการปรับแต่งช่วงล่าง และแชสซีส์ 2 ระดับ รองรับการบรรทุกและลากจูง รวมถึงการใช้งานปกติในชีวิตประจำวันอีกด้วย |
|
 |
|
รูปลักษณ์ภายนอก
รูปลักษณ์ภายนอกสร้างสรรค์โดยศูนย์การออกแบบ แอดวานซ์ ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ของ จีเอ็ม ในนครเซาเปาโล ประเทศบราซิล โดยดึงเอาดีเอ็นเอความแกร่งหลายส่วนของ รถต้นแบบ โคโลราโด ที่เคยโชว์ตัวในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึง อาร์เจนติน่า ออสเตรเลีย และเยอรมนี ตลอดทั้งปีที่ผ่านมานี้
ด้านหน้าเน้นความบึกบึนของฝากระโปรง เพิ่มสันขอบให้ดูแข็งแกร่ง โคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ติดตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้น เหนือฝากระโปรงหน้า กระจังหน้าแบบ ดูอัลพอร์ท ล้อมกรอบด้วยโครเมียม เน้นดีไซน์ลายตาข่ายที่ให้มุมมองแบบ 3 มิติ กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า ขณะเดียวกัน ไฟท้ายของ โคโลราโด รุ่นท็อปยังเป็นแบบ LED ส่องสว่างเห็นชัดเจน นับเป็นครั้งแรกของรถกระบะ เชฟโรเลต
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 255/65 R17 รับกับโป่งซุ้มล้อขนาดใหญ่ทั้งหน้าและหลังในรุ่น LTZ ส่วนล้อขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 245/70 R16 มากับรุ่น LT |
|
 |
|
เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบรุ่นล่าสุด
เครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบดีเซล ดูราแม็กซ์ ขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร รุ่นใหม่ล่าสุดของ จีเอ็ม ผสมผสานสมรรถนะสูงสุด และความประหยัดน้ำมันเหนือชั้น ผลิตโดย ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล 'จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน' มูลค่า 6,000 ล้านบาท (200 ล้านเหรียญฯ) ที่เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการของ จีเอ็ม ประเทศไทย พร้อมติดตั้งเพลาถ่วงสมดุลย์ เพื่อการขับขี่ที่ลื่นไหลนุ่มนวล ทั้ง 2 เครื่องยนต์ใหม่นี้ มีชิ้นส่วนที่รองรับการใช้งานได้ระยะทางสูงถึง 240,000 กิโลเมตร
เครื่องยนต์ดีเซล
4 สูบ 2.8 ลิตร 16 วาล์ว คอมมอนเรลไดเรคอินเจคชั่น พร้อมเทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีแรงบิดสูงสุดถึง 47.8 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที รุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ แรงบิด 44.8 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที
ส่วนเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร 16 วาล์ว คอมมอนเรลไดเรคอินเจคชั่น มาพร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์เช่นกัน กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. ที่ 3,800 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ |
|
 |
|
ภายในตอบสนองทุกการใช้งาน
การออกแบบภายในเน้นความลื่นไหล ดีไซน์แบบ ดูอัลค็อกพิท ผสานบุคลิกแบบรถยนต์นั่งเข้ากับความบึกบึนแบบรถกระบะ พื้นที่ช่วงไหล่ของเบาะตอนหน้าและแถวที่สอง, พื้นที่ช่วงศีรษะ และความสูงเบาะที่นั่ง มีให้มากที่สุดในรถกระบะระดับเดียวกัน นักออกแบบของ จีเอ็ม ถ่ายทอดรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นสู่ภายในห้องโดยสารด้วยการใช้โครเมียมตกแต่งหลายจุด อาทิ คันเกียร์, หัวเกียร์, พวงมาลัย, ระบบปรับอากาศ, ที่เปิดประตู และสวิทช์เครื่องเสียง ขณะเดียวกัน มาตรวัดเรืองแสง และระบบปรับอากาศติดตั้งไฟ LED สีฟ้าไอซ์บลู (Ice Blue) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ เชฟโรเลต
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดิจิตอล ให้ความเย็นรวดเร็วกว่าเดิมในทุกสภาพอากาศ ทำงานเงียบกว่าเดิมด้วยการปรับปรุงระบบไหลเวียนอากาศใหม่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครูสคอนโทรล อยู่คู่กับพวงมาลัย 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น เครื่องเสียง 2 DIN สามารถเชื่อมต่อด้วย บลูธูท เล่นไฟล์ MP3 ได้ มีพอร์ท USB และ AUX รุ่น LTZ มีลำโพงให้ 6 ตัว
คอนโซลกลางติดตั้งสวิทช์ทรงกลมควบคุมระบบขับเคลื่อน เพียงหมุนปรับเปลี่ยน ก็สามารถเรียกใช้งานระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD Hi/ 4WD Lo ได้อย่างง่ายดาย โดยระบบนี้ควบคุมด้วยไฟฟ้า
ห้องโดยสารของ โคโลราโด ใหม่ มีช่องเก็บของมากที่สุดในรถระดับเดียวกัน โดย เรกูลาร์ แค็บ มีทั้งหมด 16 ช่อง, เอ็กซ์เทนเดด แค็บ 19 ช่อง และ ครูว์แค็บ มีถึง 30 ช่อง เบาะที่นั่งหุ้มผ้า หรือเบาะหนัง เสริมด้วยวัสดุโทนเดียวกับวัสดุตกแต่งคอนโซลกลางรุ่นท็อป ออกแบบที่เน้นขอบสันให้คมชัด ใช้วัสดุโฟมความหนาแน่นสองชั้น เพื่อความสบายในทุกการเดินทาง ขณะที่รุ่นเริ่มต้นใช้เบาะหนังแบบไวนิล |
|
 |
|
มาตรฐานความปลอดภัย
โครงสร้างแชสซีส์ได้รับการคำนวณโครงสร้างให้ทนแรงบิดตัวได้ดี ติดตั้งคานขวางเสริมแรงถึง 8 จุด (8 Cross members ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ) และคานขวางเสริมแรง 7 จุด (7 Cross members ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ) โครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อก ใช้เทคโนโลยีพัฒนาพื้นผิวตัวรถอย่างพิถีพิถัน เพื่อความทนทาน ตลอดจนการประกอบที่เน้นให้ช่องว่างของชิ้นส่วนตัวถังแคบลงกว่าเดิม ลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร
ระบบกันสะเทือนให้ความมั่นคงในทุกย่านความเร็วตามแบบของ เชฟโรเลต ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกสองชั้น พร้อมทอร์ชั่นบาร์ และโช้กอัพแก็ส ขณะที่ด้านหลังใช้แบบลีฟสปริงแป้นรูปครื่งวงรีใช้วัสดุทำด้วยเหล็กกล้า พร้อมโช้กอัพแก็ส
ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ติดตั้งในรุ่น LTZ แชสซีส์ขนาดใหญ่พร้อมคานขวางเสริมแรง คานเสริมนิรภัยกันกระแทกด้านข้าง พวงมาลัยนิรภัยยุบตัวอัตโนมัติ ลดแรงกระแทกช่วงอกจากการชนด้านหน้า และกระจกหน้าอัดซ้อนนิรภัย
ดิสก์เบรกคู่หน้าพร้อมครีบระบายอากาศขนาด 300 มม. ระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อก, ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และมีระบบ TCS (Traction Control System) ป้องกันล้อหมุนฟรี ทำงานร่วมกับ ABS
ระบบ
ESP (Electronic Stability Program) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ทำงานร่วมกับ TCS ประเมินการเคลื่อนที่ของรถ กับองศาการหมุนของพวงมาลัย หากเกิดการเสียสมดุล ระบบจะเพิ่มแรงเบรกในแต่ละล้อ รวมทั้งลดกำลังของเครื่องยนต์ เพื่อให้รถกลับเข้าสู่สภาวะสมดุล และควบคุมได้ง่ายขึ้น (เฉพาะรุ่น LTZ)
ระบบ
PBA (Panic Brake Assist) รองรับการเบรกกะทันหัน ตรวจจับจากน้ำหนักการกดเท้าลงที่แป้นเบรก ช่วยเพิ่มกำลังและสั่งการให้ระบบ ABS ทำงานเร็วขึ้น ช่วยลดระยะในการหยุดรถให้สั้นลง เมื่อเปรียบเทียบกับรถที่มีระบบเบรก ABS แต่ไม่มีระบบ PBA (ยกเว้นรุ่น LS)
ระบบ
CBC (Cornering Brake Control) สร้างสมดุลขณะเบรกในโค้ง ควบคุมแรงดันเบรก และลงน้ำหนักในการเบรกไปยังล้อทั้ง 4 อย่างอิสระจากกันอย่างเหมาะสม ซึ่งแรงดันและน้ำหนักในการเบรกในแต่ละล้ออาจแตกต่างกัน ช่วยสร้างสมดุลและการทรงตัว ลดอาการท้ายปัด (Oversteer) หรือดื้อโค้ง (Understeer) ติดตั้งเฉพาะรุ่น LTZ
ระบบ
HBA (Hydraulic Brake Assist) ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ทำงานเมื่อผู้ขับขี่ลงน้ำหนักเท้าไปที่แป้นเบรกอย่างรุนแรง ขณะเบรกกะทันหัน (ยกเว้นรุ่น LS) และระบบ HBFA (Hydraulic Brake Fade Assist) ชดเชยแรงดันน้ำมันเบรก ทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อผู้ขับขี่ทำการย้ำเบรกขณะเบรกกะทันหัน |
|
 |
|
3 รูปแบบตัวถัง
Crew Cab: รถปิกอัพสไตล์เอนกประสงค์ 4 ประตู เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความแข็งแกร่ง พร้อมตอบสนองความสะดวกสบาย และให้ความหรูหรา Extended Cab: รถปิกอัพ 2 ประตูตอนครึ่ง พร้อม Cab Flex หรือแค็บแบบเปิดได้ 90 องศา ออกแบบมาสำหรับการใช้งานแบบเอนกประสงค์ ทั้งในชีวิตประจำวัน การบรรทุกหนัก ตลอดจนการท่องเที่ยว Single Cab: รถปิกอัพ 2 ประตู รองรับทุกการบรรทุกหนัก เพื่อความคุ้มค่าในการใช้งานเชิงพาณิชย์
โคโลราโด มาพร้อมกับสีสันตัวถัง 7 สี ได้แก่ สีขาว Alpine White, สีเงิน Switchblade Silver, สีดำ Black Sapphire, สีเทา Royal Gray, สีแดง Sizzle Red, สีน้ำตาล Auburn Brown และ สีน้ำเงิน Oceanic Blue
ภาพรวมโครงการพัฒนา เชฟโรเลต โคโลราโด
• นับเป็นโครงการวิศวกรรม และการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดของ จีเอ็ม ประเทศไทย
• มูลค่าการลงทุนโครงการนี้ 60,000 ล้านบาท รวมถึงการลงทุนมูลค่า 15,000 ล้านบาทของ จีเอ็ม ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง
• เป็นการเริ่มต้นโครงการใหม่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปีของ เชฟโรเลต
• มีการทดสอบขับมากกว่า 2.5 ล้านกิโลเมตร ตลอดกระบวนการพัฒนาโครงการนี้
• ได้รับการพัฒนาใน 5 ทวีป เพื่อลูกค้ามากกว่า 60 ล้านประเทศทั่วโลก
• สำหรับการเปิดตัวและการผลิตในประเทศลำดับถัดไปนั้น จีเอ็ม จะประกาศอีกครั้งในอนาคตอันใกล้ |
|
 |
|
ราคาจำหน่าย |
|
• Chevrolet Colorado Duramax 2.5 Single Cab |
รุ่นมาตรฐาน |
537,000 บาท |
• Chevrolet Colorado Duramax 2.5 Extended-Cab |
รุ่นมาตรฐาน |
584,000 บาท |
• Chevrolet Colorado Duramax 2.5 Extended-Cab |
Z71 ยกสูง |
688,000 บาท |
• Chevrolet Colorado Duramax 2.5 Extended-Cab |
Z71 4WD |
737,000 บาท |
• Chevrolet Colorado Duramax 2.5 Crew-Cab |
รุ่นมาตรฐาน |
659,000 บาท |
• Chevrolet Colorado Duramax 2.5 Crew-Cab |
Z71 ยกสูง |
765,000 บาท |
• Chevrolet Colorado Duramax 2.5 Crew-Cab |
4WD |
808,000 บาท |
|
|
หมายเหตุ: ราคาจำหน่ายรุ่น 2.8 โปรดรออัพเดทอีกครั้ง |
|