|
|
เรื่อง - ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ |
Wednesday, 09 September, 2009 3:51 PM |
|
 |
|
|
|
นิสสัน เทียน่า โฉมปัจจุบัน รหัสตัวถัง J32 ทำตลาดต่อจากรุ่นแรกรหัส J31 ที่เปิดตัวปี 2003 พัฒนาโดยใช้พื้นฐานจาก Niissan D platform ซึ่งใช้ร่วมกับรุ่น แม็กซิม่า และ อัลติม่า เปิดตัวปี 2008 ในเมืองไทยแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยตามเครื่องยนต์คือ 4 สูบ 2,000 ซีซี 136 แรงม้า และวี6 2,500 ซีซี 182 แรงม้า ส่วนในตลาดโลกมีรุ่นสูงสุด 350 XV 251 แรงม้า ทีมงานมอเตอร์ทริเวีย ได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในการทดสอบเทียน่าทั้ง 2 รุ่นในเวลาไล่เรี่ยกัน สำหรับครั้งนี้จะนำเสนอ Nissan 250 XV เกียร์อัตโนมัติ CVT ทั้งในด้านการใช้งานทั่วไป สมรรถนะในด้านต่างๆ รวมทั้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
รูปลักษณ์ยุโรปผสมญี่ปุ่น
เทียน่า ใหม่ โดดเด่นด้วยตัวถังที่ดูใหญ่โตกว้างขวาง แต่มีความปราดเปรียวด้วยเส้นตัวถังด้านข้าง ที่ลากโค้งจากด้านหน้าจรดด้านหลัง โคมไฟหน้าขนาดใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพชร ใช้ระบบไฟซีนอนปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ เลนส์ไฟหน้าเคลือบสีฟ่าดูแปลกตา กระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ เป็นชิ้นเดียวกับฝากระโปรงหน้าขนาดใหญ่ มุมกันชนติดตั้งสปอตล์ดวงกลม คิ้วโครเมียมรอบคันออกแบบตามดาบซามูไรญี่ปุ่น
แนวเส้นหลังคาโค้งต่อเนื่องหน้าจรดหลัง ช่วงกลางแม้จะแบนราบเป็นเส้นตรง แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อที่เหนือศีรษะภายในห้องโดยสาร เน้นความหรูหราด้วยคิ้วโครเมียมล้อมกรอบกระจกข้าง เข้าชุดกับที่เปิดประตูโครเมียม เสากลางและขอบกระจกส่องข้างมาแปลกด้วยการใช้สีดำเงา Piano Black สวยงามแต่ต้องหมั่นเช็ดไม่ให้มีรอย
รุ่นที่นำมาทดลองขับเป็นรุ่นสูงสุด มีซันรูฟไฟฟ้ามาให้ สวิตช์ควบคุมอยู่แถวกระจกส่องหลังเป็นแบบ One-Touch มีแผ่นบังแดดแบบเลื่อนเปิด-ปิดด้วยมือ ล้อแม็กพร้อมฝาครอบดุมกลางแบบเต็ม ไม่เห็นรูน๊อต ขนาดล้อ 17 นิ้ว ยาง 215/55 R17 ส่วนล้ออะไหล่เป็นล้อเหล็ก
ด้านท้ายดูล้ำด้วยชุดไฟท้าย LED บนโคมทรงเฉียบติดตั้งเฉพาะบนตัวถัง และโอบไปถึงด้านข้าง ฝาประโปรงหลังมีช่องใส่ป้ายทะเบียน คาดคิ้วโครเมียมขนาดใหญ่ที่ด้านบนและล่าง กันชนมีคิ้วโครเมียมต่อเนื่องจากด้านข้าง แม้ท่อไอเสียของรุ่นนี้จะแยกออกซ้าย-ขวาสไตล์รถแรง แต่ก็ไม่ได้ออกแบบให้โชว์หรือเน้นความโดดเด่นแต่อย่างใด กลับซ่อนไว้หลังกันชนอย่างเรียบร้อย เห็นฝากระโปรงหลังสั้นๆ อย่างนี้ อาจคิดว่าห้องเก็บสัมภาระจะแคบ แต่เมื่อเปิดออกดูก็จะพบว่ากว้างขวางมาก โดยเฉพาะความลึกที่ให้มาแบบสะใจ ใส่ถุงกอล์ฟขนาด Full Size ได้ 3-4 ใบสบายๆ
มิติตัวถังมีความยาว 4,850 มิลลิเมตร กว้าง 1,795 มิลลิเมตร สูง 1,485 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,560/1,565 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้น 140 มิลลิเมตร น้ำหนักคันที่ทดสอบมีซันรูฟและท่านแอร์แบ็ก 1,531 กิโลกรัม |
|
 |
|
ภายในกว้างขวางครบครัน
ภายในของเทียน่า ใหม่ ได้รับการยกระดับคุณภาพของวัสดุที่ใช้ ชนิดที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของคอนโซลหน้า ลายไม้ และส่วนประกอบปลีกย่อย ให้ความรู้สึกที่ดีทั้งในทางสายตาและการสัมผัส แผงหน้าปัดด้านหน้าใช้สีอ่อนโทนเดียวกับเบาะและแผงประตู ส่วนแผงหน้าปัดด้านในที่อยู่ใกล้กระจกหน้า ใช้โทนสีเทาเพื่อลดแสงสะท้อน
แยกส่วนระหว่างคอนโซลด้านบนกับด้านล่าง ด้วยลายไม้สีเข้มคุณภาพดี ดูกลมกลืนกับโทนการตกแต่ง ไม่โดดแบบลายไม้พลาสติกที่ติดเพิ่มภายหลัง สีอ่อนของภายใน ถูกตัดด้วยสีดำบริเวณช่องแอร์ พื้นแผงหน้าปัด และชุดควบคุมวิทยุ และมีการแซมด้วยสีเงินเมทัลลิกตามจุดต่างๆ
คอนโซลกลางติดตั้งจอแสดงผล ของระบบแอร์และเครื่องเสียง ถัดลงมาเป็นสวิตช์ควบคุมระบบแอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังแซมลายไม้ ฝั่งซ้ายมีสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง ขวามือควบคุมครูสคอนโทรล ชุดมาตรวัดวงกลมซ้อนกัน 3 ชุด ตรงกลางวัดความเร็ว มีจอแสดงข้อมูลอยู่ด้านล่าง สวิตช์ควบคุมสำหรับเข้าเมนูต่างๆ อยู่ด้านขวามือ
เทียน่า ใหม่ ใช้ระบบ Keyless Entry ไม่ต้องไขกุญแจ มาพร้อมปุ่มสตาร์ต ถัดลงมาเป็นช่องสำหรับเสียบรีโมตคอนโทรล ซึ่งจะไม่เสียบก็ได้ ต่ำลงไปอีกนิดเป็นแผงสวิตช์เปิด-ปิดฝาที่เติมน้ำมัน ฝากระโปรงท้าย ม่านไฟฟ้าด้านหลัง และระบบช่วยการทรงตัว VDC
เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม 2 หน่วยความจำ ส่วนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับได้ 4 ทิศทาง น่าเสียดายที่พวงมาลัยปรับได้แค่สูง-ต่ำ ที่เท้าแขนกลางเบาะหลังมีที่วางแก้วน้ำพร้อมฝาปิด และมีช่องเล็กๆ สำหรับเอื้อมมือไปหยิบของชิ้นเล็กๆ อย่างร่มได้
จากตัวรถที่มีขนาดใหญ่ แต่ยังไม่ใหญ่เกินไป ขับเองก็ได้และดูไม่เหมือนคนขับรถ หรือจะย้ายไปนั่งไขว่ห้าง อ่านหนังสือพิมพ์บนเบาะหลัง ก็ดูไม่ขัดสายตา
ก่อนขับเห็นขนาดตัวรถแล้ว คิดว่าคงเหนื่อยกับการกะระยะ แต่หลังจากปรับเบาะและพวงมาลัยให้อยู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง ก็พบว่าการบังคับควบคุม ทำได้ง่ายกว่าที่คิด ทัศนวิสัยรอบด้านถือว่าดี ตัวเบาะหนานุ่มนั่งสบาย เมื่อนั่งแล้วจะจมลงไปนิดๆ ช่วยเพิ่มความกระชับโดยยังไม่ถึงขั้นอึดอัด
ผู้เขียนสูง 170 เซ็นติเมตร ปรับเบาะผู้ขับพอดีแล้วลองย้ายไปนั่งเบาะหลังฝั่งเดียวกับผู้ขับ พบว่ามีพื้นที่วางขาเหลือเฟือ เบาะหลังดูเหมือนจะแข็งกว่านิดๆ อาจเพราะไม่ค่อยมีคนนั่ง ทรงเบาะเหมาะสำหรับนั่ง 2 คน แม้จะมีเข็มขัดนิรภัยตรงกลางมาให้ และไม่ต้องกลัวร้อนเพราะมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารมาให้ ติดตั้งบนที่เท้าแขนกลางเบาะหน้า
เสียงรบกวนจากภายนอก ทั้งจากลมปะทะเมื่อใช้ความเร็วสูง เสียงยางบดถนน และเสียงการทำงานของช่วงล่างเมื่อขับผ่านถนนขรุขระ มีเล็ดลอดเข้ามาน้อยมาก ส่วนเสียงและความสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ ในรอบต่ำ-ปานกลางก็เงียบและนิ่งสนิทดีสมกับเป็นวี6 แต่ถ้าลากรอบสูงจัดก็จะมีเสียงเครื่องยนต์ครางให้ได้ยินบ้าง อุปกรณ์มาตรฐานถือว่าครบถ้วนพอดีกับการใช้งานทั่วไป |
|
 |
|
ความเร็ว (กม./ชม.) |
เวลา (วินาที) |
ระยะทาง (เมตร) |
10 |
0.70 |
1.01 |
20 |
1.30 |
3.50 |
30 |
1.87 |
7.52 |
40 |
2.71 |
15.88 |
50 |
3.55 |
26.27 |
60 |
4.44 |
39.89 |
70 |
5.82 |
64.99 |
80 |
7.05 |
90.65 |
90 |
8.41 |
122.62 |
100 |
10.03 |
165.47 |
110 |
12.25 |
230.64 |
120 |
14.34 |
297.40 |
130 |
16.69 |
379.03 |
140 |
19.64 |
489.73 |
150 |
23.78 |
657.09 |
160 |
28.74 |
869.60 |
170 |
34.55 |
1136.50 |
180 |
46.46 |
1718.71 |
|
ระยะทาง (เมตร) |
เวลา (วินาที) |
ความเร็ว (กม./ชม.) |
0-100 |
07.5 |
83.1 |
0-200 |
11.2 |
106.1 |
0-402 |
17.3 |
132.4 |
0-1000 |
31.6 |
165.5 |
|
ความเร็วสูงสุด |
187.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
|
|
เครื่องยนต์ใหญ่กับเกียร์ CVT
จะสังเกตได้ว่า รถยนต์ในคลาสนี้ นอกจากจะแข่งกันในเรื่องมิติตัวถังที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เครื่องยนต์ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีการขยับขึ้นเรื่องๆ จากเดิม 2,000 ซีซี ไล่ขึ้นมาเป็น 2,300...2,400 และล่าสุด 2,500 ซีซี วี6 ในเทียน่า ใหม่
เครื่องยนต์รุ่นนี้มีรหัส VQ25DE แบบเบนซิน วี6 สูบ DOHC 24 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CVTC และ NICS หรือ Nissan Induction Control System ช่วยให้อากาศเข้าเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม หัวฉีดรุ่นใหม่ มีรูจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง 12 รู ผิวภายในเครื่องยนต์เคลือบลดความฝืด มีความจุ 2,496 ซีซี กำลังสูงสุด 182 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 23.2 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบต่อนาที
ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วย เกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT อัตราทดเกียร์แปรผันต่อเนื่องด้วยการเปลี่ยนขนาดพูเลย์ 2 ชุดซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยสายพานโลหะ ไม่ได้ใช้ฟันเฟืองเกียร์ มีอัตราทดระหว่าง 2.349 - 0.394
เห็นเครื่องยนต์ใหญ่แรงม้าเยอะขนาดนี้ หลายคนอาจกังวลเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง แต่จากการทดลองขับใช้งานทั่วไปในเมือง ขับไปถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอด้วยความเร็วปกติ ไม่ได้ปั้นตัวเลข มีการกดคันเร่งเพื่อแซงตามจังหวะ สามารถทำได้เฉลี่ยรวมกันประมาณ 10-11 กิโลเมตรต่อลิตร
เมื่อมีโอกาสก็ลองขับขึ้นทางด่วน หลังจ่ายเงินก็ชิดขอบทางเพื่อเซ็ตศูนย์ ทั้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ระยะทาง และความเร็วเฉลี่ย ขับด้วยความเร็วนิ่งๆ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นลงทางด่วนแล้วจอดบันทึกข้อมูล หลังจากขับไป 15.8 กิโลเมตร ความเร็วเฉลี่ย 74.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 12.9 กิโลเมตรต่อลิตร ถ้าขับยาวกว่านี้น่าจะเห็น 13 กว่าๆ กิโลเมตรต่อลิตร
แสดงว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้ มีศักยภาพที่จะทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองสูงๆ ได้ ส่วนจะได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน และวิธีการขับของแต่ละคน อย่างน้อยก็ช่วยประหยัดในเบื้องต้นด้วยการใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 และแก๊สโซฮอล์ อี20 ได้ ถังน้ำมันจุ 70 ลิตร เติมเต็มถังไม่ถึง 1,500 บาท คนใช้รถระดับนี้คงพอยิ้มออก
จากอัตราสิ้นเปลืองที่ทุกคนอยากได้ตัวเลขมากๆ ก็มาถึงส่วนที่เชื่อว่าทุกคนอยากได้ตัวเลขน้อยๆ นั่นคือ อัตราเร่ง ซึ่งม้าทั้ง 182 ตัวกับเกียร์ CVT ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทีมงานใช้เครื่องมือทดสอบที่เชื่อมต่อกับดาวเทียม ได้ตัวเลขตามตารางด้านล่าง
อัตราเร่ง
- ความเร็ว 00-60 กม./ชม. • เวลา 05.1 วินาที
- ความเร็ว 00-100กม./ชม. • เวลา 10.3 วินาที
- ความเร็ว 40-140กม./ชม. • เวลา 15.0 วินาที
- ความเร็ว 80-140กม./ชม. • เวลา 10.8 วินาที
ระยะทางและอัตราเร่ง
- ระยะทาง 0-100 เมตร • เวลา 07.8 วินาที • ความเร็ว 83.0 กม./ชม.
- ระยะทาง 0-200 เมตร • เวลา 11.6 วินาที • ความเร็ว 107.8 กม./ชม.
- ระยะทาง 0-400 เมตร • เวลา 17.4 วินาที • ความเร็ว 135.7 กม./ชม.
- ระยะทาง 0-1000 เมตร • เวลา 31.0 วินาที • ความเร็ว 175.2 กม./ชม. |
|
 |
|
ทีมงานมอเตอร์ทริเวีย ทดสอบโดยปิดระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เปิดแอร์ตามปกติ เข้าเกียร์ D เท้าขวาเหยียบเบรก เมื่อถนนว่าง ก็ยกเท้าขวาจากเบรกมากดคันเร่งมิดแช่ไว้จนกระทั่งระยะทางเกิน 1 กิโลเมตร เพื่อให้ได้ตัวเลขครบถ้วนตามต้องการ ช่วงที่ยกเท้าขวาจากเบรกมากดคันเร่ง ได้ยินเสียงล้อฟรีแค่สั้นๆ จากนั้นรถก็พุ่งออกไป
ช่วงแรกที่กดคันเร่ง รอบเครื่องยนต์ประมาณ 1,000-3,000 รอบต่อนาที รอบจะไต่ขึ้นด้วยความเร็วปกติ แต่เมื่อถึง 4,000 รอบต่อนาที รอบจะตวัดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปชลอแถวๆ 6,000 รอบต่อนาที แล้วจึงค่อยๆ ไต่ไปหยุดนิ่งที่ 6,250 รอบต่อนาที ส่วนขีดแดงหรือ Red Line อยู่ที่ 6,500 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 209.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่หลังจาก 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ต้องลากยาวนิด ซึ่งก็คงไม่เป็นไรเพราะแทบจะไม่ได้ใช้
สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเกียร์ CVT อาจรู้สึกว่ารถไม่ค่อยวิ่ง หรือถึงขั้นคิดว่าเกียร์พัง เพราะเกียร์ไม่ยอมเปลี่ยนซักที ความจริงแล้ว เกียร์มีการเปลี่ยนอัตราทดอย่างต่อเนื่อง สังเกตจากความเร็วที่กวาดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงแต่รอบเครื่องยนต์ไม่ตก ทำให้รถพุ่งอย่างต่อเนื่องไม่มีอาการสะดุด
ถ้ายังแรงไม่พอก็มีปุ่ม Sport ให้กดบนหัวเกียร์ เกียร์จะรักษารอบไว้ให้ แม้ถอนคันเร่งเล็กน้อยรอบก็ยังไม่ตก เมื่อกดตันเร่งซ้ำ รถก็จะพุ่งต่อทันที โดยโหมด Sport จะทำงานเฉพาะในเกียร์ D เท่านั้น แลเมื่อเลื่อนเกียร์ไปตำแหน่งอื่นก็จะเป็นการยกเลิกโหมด Sport
ช่วงล่างนุ่มนวลหนักแน่น
เทียน่า ใหม่ ใช้ระบบกันสะเทือนอิสระพร้อมเหล็กกันโคลงทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังมัลติลิงก์ ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ด้านหน้ามีครีบระบายความร้อน พร้อมเอบีเอส อีบีดี และบีเอ พวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์แปรผันตามความเร็ว ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
การขับใช้งานทั่วไปมีความนิ่งและนุ่มนวลดี การดูดซับแรงสั่นสะเทือนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เสียงการทำงานของช่วงล่างก็หนักแน่นใกล้เคียงรถยนต์ยุโรป ฐานล้อที่ยาวจึงมีความราบเรียบไม่กระโดกกระเดก ขับทางไกลความเร็วปกติให้ความรู้สึกผ่อนคลาย การกดคันเร่งหนักๆ ขณะออกตัว ก็ไม่มีอาการ Torque Steer หรือพวงมาลัยถูกดึงไปด้านใดด้านหนึ่ง
เมื่อขับแช่ที่ความเร็วสูง 170-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทีมงานก็รู้สึกแปลกใจ เพราะคิดว่ารถระดับนี้น่าจะเน้นความนุ่มนวลเอาใจผู้ใหญ่เป็นหลัก เมื่อใช้ความเร็วสูงจัด น่าจะมีอาการยวบยาบให้สัมผัสได้มากหน่อย แต่สำหรับเทียน่า ใหม่ ตัวรถยังคงนิ่งแม้ลากไปถึง 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นิสสัน เทียน่า ใหม่ 250 XV เกียร์อัตโนมัติ CVT มีซันรูฟ ราคา 1,549,000 บาท มาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร •
• ขอบคุณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เอื้อเฟื้อรถทดสอบ • |
|
|
|
|