2017 Ford F-150 Raptor เครื่องยนต์ใหม่พร้อมเกียร์ 10 จังหวะ
Posted by : AREA 54
● ฟอร์ด อเมริกา เตรียมรุกตลาดปิกอัพครั้งใหม่ด้วย Ford F-150 Raptor เปิดตัวใน ดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ EcoBoost V6 ทวินเทอร์โบ 3,500 ซีซี ซึ่งยังไม่เผยรายละเอียดทางเทคนิค ระบุเพียงว่ามีแรงม้าและแรงบิดมากกว่าเครื่องยนต์ใน Raptor รุ่นปัจจุบัน แบบ V8-6,200 ซีซี ที่มีกำลังสูงสุด 411 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 59.89 กก.-ม. นอกเหนือจากการใช้เครื่องยนต์ความจุน้อยลง แต่สมรรถนะสูงขึ้นแล้ว Raptor รุ่นใหม่ยังใช้ตัวถังอะลูมิเนียม ที่ช่วยลดน้ำหนักลงได้ราว 227 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน
● ระบบส่งกำลังแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Torque-on-Demand พร้อมลิมิเต็ดสลิปที่ล้อหน้า ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการบุกตะลุยบนทางวิบาก พร้อม 6 โหมดการขับเคลื่อน ที่จะควบคุมในส่วนของเครื่องยนต์ การส่งกำลัง ระบบควบคุมการลื่นไถล ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพ AdvancrTrac ประกอบด้วย
– Normal Mode สำหรับขับใช้งานทั่วไป
– Street Mode ขับบนทางเรียบ โดยเน้นประสิทธิภาพการยึดเกาะที่สูงขึ้น
– Weather Mode เมื่อขับท่ามกลางฝน หิมะ หรือน้ำแข็ง
– Mud and Sand Mode เมื่อขับลุยโคลนหรือทราย
– Baja Mode สำหรับการขับในทะเลทรายด้วยความเร็วสูง
– Rock Mode สำหรับการปีนหินด้วยความเร็วต่ำ
● Raptor ใหม่ มีความกว้างมากกว่ารุ่นมาตรฐานของ F-150 ประมาณ 6 นิ้ว หรือ 152.4 มิลลิเมตร มีการปรับปรุงระบบกันสะเทือนใหม่ และเพิ่มระยะยืด-ยุบของช่วงล่าง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวทั้งบนทางเรียบและทางวิบาก ส่วนภายนอกมีการปรับปรุงใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มความกว้างโป่งล้อ และท่อไอเสียแบบแยกซ้าย-ขวาเป็นครั้งแรก ล้อแม็ก 17 นิ้วลายใหม่ พร้อมยาง BF Goodrich All-Terrain KO2 ออกแบบสำหรับการขับแบบออฟโรดโดยเฉพาะ ●
Update 1:
ฟอร์ดเผยตัวเลขสมรรถนะอย่างเป็นทางการ
● ในที่สุดฟอร์ดก็ยืนยันชุดตัวเลขสมรรถนะของ Raptor 2017 ออกมาอย่างเป็นทางการ นับจากการปล่อยภาพชุดแรกในช่วงต้นปีที่แล้ว (2015) โดยเครื่องยนต์เบนซิน V6 สูบตระกูล EcoBoost ความจุ 3.5 ลิตร ทวิน-เทอร์โบชาร์จบล็อคนี้ สามารถผลิตกำลังได้ถึง 450 แรงม้า (hp) เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าราว 39 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดมีให้ใช้ถึง 70.4 กก.-ม. เพิ่มขึ้น 10.4 กก.-ม. ในรอบเครื่องยนต์ที่น้อยกว่า
● แม้จะแรงขึ้น แต่เครื่องยนต์บล็อคนี้จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีขึ้นราว 23% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการดาวน์ไซส์ซิ่งเครื่องยนต์จาก V8 ในรุ่นก่อนหน้ามาเป็น V6 นั่นเอง โดยตัวเลขการใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 6.3 กม./ลิตร สำหรับการใช้งานในเมือง 7.6 กม./ลิตร สำหรับไฮเวย์ และ 6.8 กม./ลิตร แบบผสม
● อย่างไรก็ตาม… ราคาจำหน่ายยังคงไม่มีข้อมูลครับ ●