Google เผยผลสำรวจคนไทยใช้สมาร์ทโฟนช่วยตัดสินใจเลือกรถ
ภาพ : จันทนา เจริญทวี
● กูเกิล ประเทศไทย และบริษัทวิจัยการตลาด TNS แถลงข่าวเผยผลวิจัยล่าสุด “แรงขับเพื่อการตัดสินใจ : The Drive to Decide” ปัจจุบันสมาร์ทโฟนคือหนึ่งในอุปกรณ์หลักที่ช่วยให้ผู้คนตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ เนื่องจากการตัดสินใจเลือกรถนับเป็นเรื่องใหญ่ หลายคนใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อเสาะหาข้อมูล และการผลการวิจัย 59% ของผู้ที่กำลังมองหารถยนต์คันใหม่ไว้ใช้งาน จะใช้เวลาพิจารณาข้อมูลอย่างต่ำ 2 เดือน
● ทั้งนี้ กูเกิลและ TNS ได้ประเมินข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 600 คนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ต้องการซื้อรถใหม่ โดยระบุว่าสมาร์ทโฟนมีส่วนในการตัดสินใจในการเลือกซื้อรถใหม่หรือไม่
จากซ้าย : คุณสายใย สระกวี หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและมวลชนสัมพันธ์ Google ประเทศไทย และคุณแจ๊คกี้ หวาง หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรม Google ประเทศไทย
● กูเกิลให้ข้อมูลว่า ในปี 2559 สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อข้อมูลเกี่ยวกับรถ และการซื้อรถที่หลากหลายของคนไทย โดยผู้ที่ต้องการหาข้อมูลรถมีอุปกรณ์ที่ใช้งานเกี่ยวเนื่องเฉลี่ย 3.2 อุปกรณ์ (ยกตัวอย่าง แท็บเลท, แลปท๊อป, เดสค์ทอป สมาร์ทโฟน หรือทีวี) และ 97% เลือกใช้ สมาร์ทโฟน เป็นอุปกรณ์หลัก
● ในจำนวน 97% นั้น ผู้คนต่างเลือกใช้สมาร์ทโฟนในทุกขั้นตอนของการซื้อรถ นับตั้งแต่ขั้นตอนการเริ่มค้นหาข้อมูล ซึ่งนับเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด 32% ให้ข้อมูลว่าพวกเขาใช้ Google Search เพื่อรวบรวมข้อมูลแบรนด์และรุ่นรถที่สนใจ นอกจากนี้ 22% ของผู้ซื้อรถชาวไทยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พวกเขาค้นหาข้อมูลรถในระหว่างที่เปิด TV เอาไว้ด้วย
ข้อมูลที่น่าสนใจจากผลวิจัย
– รถที่ดีที่สุด : 99% ของคำถามที่สำคัญที่สุดคือ “รถคันไหนดีที่สุด” 60% ใช้สมาร์ทโฟนค้นหาคำตอบ
– ต้องเห็นรถทันที : 91% ระบุว่าวีดิโอช่วยโน้มน้าวการตัดสินใจ 31% มั่นใจว่าจะเลือกรถรุ่นนั้นๆ หลังจากดูวีดิโอโดยไม่ต้องลองขับ
– ดีลที่ดีที่สุด : 86% เช็คจากหลายแหล่งข่าวว่าดีลใดดีที่สุด 92% ให้ข้อมูลว่าพวกเขาตั้งใจมองหาโปรโมชั่นอย่างจริงจัง
– ค้นหาโชว์รูม : 46% ใช้สมาร์ทโฟนตัดสินใจว่าจะไปซื้อรถที่ไหน ดังนั้นสมาร์ทโฟนจึงนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่พาลูกค้าไปจนถึงโชว์รูม
● กูเกิลให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผลจากงานวิจัยชิ้นนี้บ่งบอกว่า ในอนาคตแนวโน้มนี้จะสูงขึ้นแน่นอน สมาร์ทโฟนที่เชื่อมโลกออนไลน์กลายเป็นหัวใจสำคัญของคนไทยในการซื้อรถยนต์ (รวมถึงการช๊อปปิ้งแบบออนไลน์อื่นๆ ด้วย) เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ต้องการความสะดวก และลดความยุ่งยากให้น้อยที่สุดในขณะชอปปิ้ง ที่สำคัญ 79% ระบุว่าหากมีการสั่งซื้อรถยนต์แบบออนไลน์ พวกเขาจะพิจารณาสั่งซื้อหามีตัวเลือกนั้นให้ใช้งาน
● ดังนั้น แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์และตัวแทนจำหน่าย จึงต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับผู้บริโภคที่ทำการบ้านมาอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ผ่านแพลทฟอร์มที่แสดงผลได้ดีบนสมาร์ทโฟน ●