Porsche Taycan ชื่อจริงของสปอร์ตไฟฟ้าล้วนที่พัฒนาจาก Mission E

556views

Posted by : AREA 54

● ตามข่าวกันมาพักใหญ่ๆ ในที่สุดปอร์เช่ก็เปิดตัว (ชื่อ) สปอร์ตไฟฟ้าล้วนแบบแบตเตอรี่รุ่นจำหน่ายจริงว่า Porsche Taycan ออกมาแล้ว (ออกเสียงว่า ไท-คาน : tie-khan) ซึ่งคันจริงจะพัฒนาต่อยอดมาจากรถสปอร์ตต้นแบบ Porsche Mission E Concept ในปี 2015 นั่นเอง โดยชื่อ Taycan นั้นปอร์เช่ให้ข้อมูลว่ามันหมายถึง “ม้าหนุ่มที่เต็มไปด้วยความปราดเปรียว” หรือ lively young horse

● ด้านภาพลักษณ์ของ Taycan คงไม่มีอะไรให้เราแปลกใจนัก เนื่องปอร์เช่ระบุมาแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี 2016 ว่า งานออกแบบคันจริงจะไม่แตกต่างไปจากตัวต้นแบบ และชุดตัวเลขสมรรถนะก็จะไม่ต่างกันด้วย กล่าวได้ว่า Mission E Concept ที่เราเห็นกันในวันนี้ก็คือโปรโตไทป์ของ Taycan นั่นเอง

● ชุดระบบขับเคลื่อนจริงของ Taycan น่าจะประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ permanent magnet synchronous (PMSM : กระแสสลับ แม่เหล็กถาวร) 2 ตัว แยกติดตั้งที่เพลาหน้า-หลัง พัฒนาต่อเนื่องมาจากชุดที่ใช้งานในตัวแข่ง 919 hybrid ชุดแบตเตอรี่แพควางตามยาวใต้พื้นรถในแนวฐานล้อ (ยังไม่ระบุความจุ) ช่วยทำหน้าที่กระจายน้ำหนักหน้า-หลังในอีกทาง ระบบส่งกำลังเป็นแบบ 2 สปีด แยกใช้งานระหว่างในเมืองและไฮเวย์

● Taycan มีกำลังรวมทั้งระบบมากกว่า 600 แรงม้า (HP) ขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.5 วินาที และเร่งต่อเนื่องจนถึง 200 กม./ชม. ภายในเวลาที่ต่ำกว่า 12 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดเอาไว้ที่ประมาณ 250 กม./ชม.

● ระยะทางในการวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้งอยู่ประมาณ 500 กม. ตามมารฐาน NEDC (และแน่นอนว่าขึ้นอยู่กับวิธีการขับด้วย) โหมดฟาสท์ชาร์จจากชาร์จเจอร์กำลังไฟ 800 โวลท์ ปริมาณ 80% จากจำนวนเต็มของความจุแบตเตอรี่ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ต้องนับว่าเป็นจุดเด่นของปอร์เช่ เนื่องจากชุดชาร์จไฟของเทสล่าที่มีชื่อทางการค้าว่า Supercharger นั้นใช้ไฟเพียง 480 โวลท์… ทว่าเรายังไม่มีข้อมูลความจุแบตเตอรี่แพคของ Taycan ในเวลานี้

● ปอร์เช่ได้ใช้เงินลงทุนในแผนงานการผลิตระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสำหรับรองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตถึง 6,000 ล้านยูโร ตามแผนงานการพัฒนาภายในปี 2022 โดยเงินลงทุนส่วนหนึ่งราว 500 ล้านยูโรได้ถูกใช้ไปในการพัฒนา Taycan รวมถึงรุ่นอื่นในอนุกรมเดียวกัน (เช่น Mission E Cross Turismo) อีก 1,000 ล้านยูโรจะถูกใช้เป็นงบพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและไฮบริดในรถรุ่นปัจจุบัน จากนั้นอีก 700 ล้านยูโรจะเป็นงบสำหรับส่วนงานพัฒนารวมทั้งชุดระบบชาร์จไฟที่แผนก R&D ของปอร์เช่ Weissach Development Centre ปิดท้ายด้วยการลงงบสำหรับการปรับปรุงสายการผลิตในโรงงานเดิม

● ทั้งนี้ สายการผลิตของ Taycan ส่วนหนึ่งจะอยู่ในศูนย์บริการสีและตัวถังแห่งใหม่ภายในสำนักงานใหญ่ที่ Zuffenhausen โดยปอร์เช่ตั้งใจจะให้การเคลื่อนย้ายตัวถังที่ผ่านการพ่นสี และชิ้นส่วนของชุดระบบขับเคลื่อน ไปยังส่วนงานประกอบขั้นตอนสุดท้ายเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนโรงงานผลิตเครื่องยนต์เดิมในปัจจุบันก็จะมีการขยายสายการผลิตเพื่อให้รองรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วย ซึ่งแผนงานการผลิต Taycan นั้นสามารถสร้างงานเพิ่มขึ้นได้ถึง 1,200 ตำแหน่งทีเดียว ●