10 สิ่งที่แฟน Formula One เตรียมตื่นเต้นได้เลยในปี 2019

Posted by : Fascinator.

●   ในทุกๆ ปี F1 มักจะสร้างคำถามใหม่ๆ ที่ต้องการคำตอบมากมายสำหรับแฟนๆ และในปีนี้มันจะมากกว่าปกติทุกครั้ง จากกฎที่มีการเปลี่ยนแปลง กริดสตาร์ทที่มีหน้าตาเปลี่ยนไป และน้องใหม่ที่เข้ามาเพิ่มสีสันให้กับวงการ และนี่คือ 10 สิ่งที่เราน่าจะคาดหวังได้เห็นความตื่นเต้นในปีนี้

10 : เลอแคลร์เตรียมท้าทายเวทเทลในเสื้อสีแดง

●   เราได้เห็นกันไปแล้วว่าฤดูกาลแรกของ ชาร์ล เลอแคลร์ ใน F1 กับเซาเบอร์นั้นน่าประทับใจเพียงใด แต่ในปีนี้จะยิ่งน่าจับตายิ่งกว่า เพราะเขาเป็นเพียงนักขับคนที่ 2 ในโครงการนักแข่งเยาวชนของเฟอร์รารี ที่เดินทางมาถึงฝั่งฝันในการเป็นนักขับตัวจริงให้ต้นสังกัด นักแข่งชาวโมนาโคจะต้องรับความกดดันในการทำงานให้กับทีมใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีมที่ถูกจับตามองอย่างมากอย่างเฟอร์รารี รวมทั้งความคาดหวังอันมหาศาลจากแฟนๆ และเขาจะต้องพบเจอกับเพื่อนร่วมทีมสายแข็งดีกรีแชมป์โลก 4 สมัย

●   แน่นอนว่าทั้งหมดเหล่านี้ เลอแคลร์ต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเองและไม่ต้องการมาเป็นมือสองของใคร เขาจะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร? เขาจะทำได้ดีแค่ไหนในการท้าทาย เซบาสเตียน เวทเทล ? เป็นเรื่องที่น่าติดตามชมทีเดียว

09 : การเสี่ยงโชคของเรดบูลล์ในการจับคู่ฮอนด้า

●   ถ้าคุณเสนอไอเดียให้เรดบูลล์ใช้เครื่องยนต์ฮอนด้าหลังจบฤดูกาล 2015 ปีซึ่งค่ายจากญี่ปุ่นจับคู่กับแม็คลาเรนร่วมกันเก็บแต้มได้ 27 แต้ม เทียบกับเมอร์เซเดสที่ได้ 703 แต้ม คุณคงขำไม่หยุดทั้งวันเป็นแน่

●   แต่หลังจากที่เรดบูลล์ต้องพบเจอกับปัญหาความไม่เสถียรของเครื่องยนต์และพละกำลังที่ด้อยกว่าคู่แข่งของเรโนลต์อย่างไม่หยุดหย่อน พวกเขาได้ตัดสินใจลองคบหากับฮอนด้าดูในปี 2019 ซึ่งฮอนด้านั้นได้ถูกทดสอบอยู่ท้ายรถของโทโรรอสโซ ทีมน้องของเรดบูลล์ มา 1 ปีเต็ม ผลงานนั้นถือว่าฮอนด้าทำได้ดีกว่าสมัยที่อยู่กับแม็คลาเรน พวกเขาปรับปรุงความเสถียรของเครื่องยนต์ขึ้นมา และมีส่วนช่วยให้ ปิแอร์ แกสลีย์ คว้าอันดับ 4 ที่บาห์เรน ทีนี้เรามาดูกันว่าคู่หู เรดบูลล์-ฮอนด้า จะบินได้สูงขนาดไหน? กับการย่างเข้าสู่ปีที่ 5 ของการพัฒนาเครื่องยนต์ และต้องมาจับคู่กับทีมที่เรียกได้ว่าสร้างชาสซีส์ที่ดีที่สุดในปี 2018

08 : การต่อสู้กันอย่างเข้มข้นของทีมชั้นกลาง

●   เราได้เห็นกันไปแล้วถึงความเข้นข้นในการต่อสู้กันของทีมชั้นกลางในปีที่แล้ว เรโนลต์, ฮาส, ฟอร์ซอินเดีย, แม็คลาเรน, โทโรรอสโซ หรือแม้กระทั่ง เซาเบอร์ ซึ่งรั้งท้ายใน 3 ฤดูกาลล่าสุด ต่างมีโอกาสในการลุ้นอันดับ 7 ทั้งการควอลิฟายและการแข่งขันกันทั้งนั้น และในปีนี้การแข่งขันก็น่าจะเข้มข้นขึ้นไปอีก เรโนลต์และฮาสต่างทำผลงานได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ทั้งคู่เข้าร่วมการแข่งขันในปี 2016 ด้วยอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ หลังจบฤดูกาล แต่ทั้งคู่ต่างก็ทำความผิดพลาดที่พวกเขาจำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงในปี 2019

●   ในปีนี้เรซซิ่งพอยต์ หรือฟอร์ซอินเดียที่คืนชีพมาใหม่ภายใต้การอัดฉีดของ ลอว์เรนซ์ สโตรล จะไม่พบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินเช่นในปีที่ผ่านมาซึ่งทำให้พวกเขาอัพเกรดรถได้น้อยกว่าที่วางแผน เซาเบอร์ก็จะได้นักขับประสบการณ์สูงอย่าง คิมี ไรค์โคเนน และนักขับดาวรุ่งสายเลือดใหม่อย่าง อันโตนิโอ โจวินาซซี ที่พร้อมจะอัพเกรดผลงานของทีม อีกทั้งเซาเบอร์ได้หมายมั่นปั้นมือกับปี 2019 ด้วยการโฟกัสแหล่งทรัพยากรของทีมไปกับการพัฒนารถปีนี้แต่เนิ่นๆ โทโรรอสโซจะใช้พื้นฐานการออกแบบรถเช่นเดียวกับเรดบูลล์ ที่ว่ากันว่ามีชาสซีส์ที่ดีที่สุดในปี 2018 และจะพยายามใช้ชิ้นส่วนร่วมกับเรดบูลล์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่กฎจะอำนวย สไตล์เดียวกับเฟอร์รารี-ฮาส แม้กระทั่งวิลเลียมส์ก็ดูจะหันหัวเรือกลับเข้าฝั่งและไม่ยอมจมปลักอยู่กับอันดับสุดท้ายเช่นกัน

07 : การกลับมาของแชมป์เปี้ยนที่สาบสูญ

●   ในวันแข่งขันของออสเตรเลียนกรังด์ปรีซ์ 2019 จะเป็นเวลา 3,045 วัน นับจากวันสุดท้ายที่ โรเบิร์ต คูบิคซ่า ลงแข่งให้กับเรโนลต์สนามสุดท้ายในปี 2010 พอดี เราทุกคนรู้ดีถึงสาเหตุที่ทำให้นักแข่งชาวโปแลนด์ต้องห่างหายไปจากกริด F1 เสียนาน และนั่นไม่ใช่เพราะเขาด้อยความสามารถแต่อย่างใด กับการที่คู่แข่งในสมัยขับคาร์ทอย่าง ลูวอิส แฮมิลตัน กล่าวว่า “เขาคือหนึ่งในนักแข่งที่มีความสามารถมากที่สุดที่ผมมีความปิติยินดีที่ได้แข่งขันด้วย” นั่นน่าจะการันตีถึงความสามารถของคูบิคซ่าได้เป็นอย่างดี และเราทุกคนต่างหวังที่จะได้เห็นโรเบิร์ต คูบิคซ่า คนเก่า จับมือกับแชมป์โลก F2 คนล่าสุด จอร์จ รัสเซล ในการพาวิลเลียมส์กลับขึ้นมาลุ้นอันดับในกลุ่มกลางตารางอีกครั้ง

06 : หน้าเดิม เพิ่มเติมคือสีเสื้อใหม่

●   ในปี 2019 จะมีเพียงเมอร์เซเดสและฮาสเท่านั้นที่ยังคงนักแข่งชุดเดิมจากปีที่ผ่านมา ในขณะที่นักแข่งคนอื่นนั้นจัดโปรย้ายค่ายเบอร์เดิมเสียเป็นส่วนใหญ่ คุณมองเห็นความตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นใช่ไหม? แดเนียล ริคคิอาร์โด กับเสื้อสีเหลืองใหม่ของเรโนลต์, คาร์ลอส ซายน์ กับเสื้อสีส้มใหม่ของแม็คลาเรน, คิมี ไรค์โคเนน ในชุดสีขาวของเซาเบอร์, ปิแอร์ แกสลีย์ จะผงาดได้ขนาดไหน? ในชุดกระทิง การกลับมาของ ดานีล คฟยาต ในโทโรรอสโซ เขาจะรุ่งหรือร่วง? แลนซ์ สโตรล จะทำให้พ่อของเขาภูมิใจในเรซซิ่งพอยต์ได้หรือไม่? และท้ายที่สุด ชาร์ล เลอแคลร์ จะช่วยตามหาแชมป์โลกที่หายไปนานของเฟอร์รารีได้หรือไม่?

●   แค่คิดก็น่าติดตามแล้วสำหรับสนามแรกในปี 2019

05 : เหล่าน้องใหม่มากความสามารถที่เข้าร่วมกริด

●   ไม่เพียงแต่นักแข่งเดิมที่มีการย้ายทีมกันอย่างมากมาย แต่นักแข่งใหม่ที่เตรียมเข้ากริดในปี 2019 ก็ทำให้การแข่งขันน่าจับตาดูเช่นกัน ซึ่งเรามีน้องใหม่แกะกล่องเข้ามาถึง 3 คน ในปีนี้ จอร์จ รัสเซล, แลนโด้ นอร์ริส และ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน ทั้ง 3 คนนี้ แข่งขันด้วยกันมาใน F2 ปีที่ผ่านมา และจบฤดูกาลในอันดับ 1, 2 และ 3 ตามลำดับ เรียกได้ว่าดีกรีก็ไม่ธรรมดากันเลยทีเดียว นอกจากนั้น อันโตนิโอ โจวินาซซี รองแชมป์โลก GP2 2016 จะได้ลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลกับเซาเบอร์เป็นครั้งแรก หลังจากที่เจ้าตัวเคยลงเป็นตัวแทนให้กับ ปาสคาล เวห์ไลน์ ช่วงต้นปี 2017

04 : หลักกิโลที่ 1,000 ของการแข่งขัน

●   ไชนีสกรังด์ปรีซ์ 2019 จะเป็นรายการที่ 1,000 ของการแข่งขันฟอร์มูล่าวันชิงแชมป์โลก ซึ่งได้เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกที่บริติชกรังด์ปรีซ์ 1950 คุณลองมองย้อนกลับไปดูสิ ในสนามแรก จูเซปเป้ ฟาริน่า คว้าชัยด้วยรถ อัลฟ่า โรมิโอ 158 กำลัง 200 แรงม้า ในขณะที่สนามล่าสุด ลูวอิส แฮมิลตัน คว้าชัยในรถเมอร์เซเดสที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดเกือบ 1,000 แรงม้า เรามากันไกลมากเลยทีเดียว

03 : ชื่อที่คุ้นเคยเดบิวต์ใน F2

●   ไม่เพียงแต่ F1 เท่านั้นที่น่าสนใจ F2 รายการที่ฟีตนักแข่งเก่งๆ มากมายขึ้นสู่ F1 ก็ได้มีรายชื่อนักแข่งที่น่าสนใจในปีนี้ และมันเป็นชื่อที่เราคุ้นเคยและอยากให้มาสู่ F1 ในเร็ววัน มิค ลูกชายของ มิคาเอล ชูมัคเกอร์ วัย 19 ปี ได้เข้าสู่วงการ F2 ในปีนี้กับเพรม่า หลังจากที่เขากดชัยชนะไป 8 ครั้ง ซึ่งรวมถึง 5 ครั้งรวด จนนำไปสู่แชมป์ F3 ยูโร 2018 ในที่สุด

●   เราแนะนำให้คุณจับตามองเด็กคนนี้เอาไว้ เพราะพัฒนาการของเขานั้นน่าสนใจทีเดียว และเขาจะสามารถสวมรองเท้าของพ่อก้าวไปได้ไกลเหมือนกับที่พ่อของเขาทำไว้หรือไม่? นอกจากนั้นอีกหนึ่งชื่อที่เราคุ้นหู จูเลียโน อเลซี่ ลูกชายของ ฌอง อเลซี่ อีกหนึ่งคู่แข่งของมิคาเอล ชูมัคเกอร์ ก็ได้เดบิวต์ใน F2 ปีนี้เช่นกัน

02 : กฎใหม่ที่จะช่วยให้การแข่งขันบี้กันมากขึ้น

●   2019 จะเป็นปีแรกที่ชุดกฎใหม่ทยอยลงสนามก่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2021 โดยเป้าหมายคือทำให้การแข่งขันนั้นมีความสูสีมากยิ่งขึ้น เหล่าบรรดาผู้เกี่ยวข้องได้ออกกฎให้ปีกหน้ามีความซับซ้อนที่น้อยลงและขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อลดอากาศปั่นป่วน ซึ่งจะยังผลให้รถแข่งคันหลังสามารถไล่ตามรถแข่งคันหน้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นปีกหลังที่มี DRS ใหญ่ขึ้นจะช่วยให้ผลของการใช้งานเพิ่มโอกาสในการแซงให้มากขึ้นอีกด้วย

01 : ขอเฟอร์รารีไล่กวดเมอร์เซเดสอีกหน่อยได้ไหม?

●   นับเป็นเวลา 5 ปี แล้วที่เมอร์เซเดสยังคงยืนหยัดครองบัลลังก์อย่างยิ่งใหญ่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลาในปีที่ผ่านมาที่เฟอร์รารีไล่เขย่าขาบัลลังก์ของเมอร์เซเดสนั้น แฟนๆ สนุกและตื่นเต้นกันมากเพียงใด ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายฤดูกาลเฟอร์รารีจะสร้างความผิดพลาดของตัวเองไปมากและทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะได้เพียงครั้งเดียวใน 8 สนามสุดท้าย แต่ในปีนี้เฟอร์รารีกลับมาเซตศูนย์อีกครั้งและยังคงตั้งเป้าตามหาแชมป์โลกที่ร้างรามาตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งเราก็หวังว่าพวกเขาจะไล่บี้เมอร์เซเดส สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ อีกครั้ง   ●

ที่มา :
•   www.formula1.com.