July 1, 2019
Motortrivia Team (10204 articles)

Honda พาร่วมลุ้น Chang Super GT Race 2019 พร้อมซัพพอร์ท เรซ Honda Racing

ประชาสัมพันธ์

●   บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำสื่อมวลชนร่วมชมและเชียร์ 8 ทีมแข่งขันที่ใช้รถยนต์ ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ ในคลาส จีที 500 และ จีที 300 ในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก ซูเปอร์ จีที เรซ 2019 ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทยเป็นสนามที่ 4 ภายใต้ชื่อการแข่งขัน ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2019 รวมทั้งการแข่งขัน ฮอนด้า เรซซิ่ง 2019 กิจกรรมซัพพอร์ตเรซ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 29-30 มิถุนายน 2562

●   นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้าในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2019 ซึ่งจัดขึ้นติดต่อเป็นปีที่ 6 ในประเทศไทย สำหรับปีนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตที่จะได้ร่วมชมและร่วมเชียร์ทีมที่ใช้รถยนต์ ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ ในการแข่งขันทั้งใน คลาส จีที 500 และจีที 300 รวมทั้งหมด 8 ทีม ให้สามารถคว้าชัยชนะ เช่นเดียวกับทีมมูเก็น ที่จบอันดับท็อปไฟว์ได้ในปีที่ผ่านมา”

●   “นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้สานต่อการแข่งขันซัพพอร์ต เรซ หรือ ฮอนด้า เรซซิ่ง 2019 ซึ่งได้รับการตอบรับจากทีมแข่งรถมืออาชีพจำนวน 30 คัน พร้อมด้วยกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต ทั้ง The Accord Turbo Performance Show กิจกรรมโชว์สมรรถนะของรถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ รุ่น TURBO EL โดยนักแข่งรถที่มีประสบการณ์ 3 ท่าน และ Honda Track Experience ที่จัดขึ้นเพื่อให้ลูกค้า ฮอนด้า ซีวิค เทอร์โบ จำนวน 30 คัน ได้สัมผัสประสบการณ์บนสนามการแข่งขันระดับโลกผ่านการขับขี่จริงในสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ รวมถึงการออกบูธจัดกิจกรรมและเกมส์ต่างๆ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า จะช่วยสร้างสีสันให้แก่การแข่งขัน ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2019 ในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี”

●   การแข่งขัน ซูเปอร์ จีที เรซ ในแต่ละฤดูกาลจะมีการแข่งขันทั้งหมด 8 สนาม โดยแบ่งเป็น 7 สนามในประเทศญี่ปุ่น และอีก 1 สนาม ในต่างประเทศ ซึ่งตั้งแต่ฤดูกาลการแข่งขันปี 2014 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ก็ได้เข้ามาเป็น 1 ใน 8 ของสนามที่ใช้ในการแข่งขันซูเปอร์ จีที โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 รุ่นตามกำลังแรงม้าของรถยนต์ที่เข้าแข่งขัน ได้แก่ คลาสจีที 500 และ คลาสจีที 300 โดยจะทำการแข่งขันพร้อมกันบนระยะทางรวมกว่า 300 กิโลเมตร

●   สำหรับปี 2019 ฮอนด้ามีทีมที่ใช้รถยนต์ ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 8 ทีม โดยแบ่งเป็น คลาสจีที 500 มีทีมที่ใช้รถยนต์ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ จีที (Honda NSX-GT) จำนวน 5 ทีม ได้แก่ ทีมคูนิมิตซึ ทีมอาทา ทีมมูเก็น ทีมเคฮิน เรียล เรซซิ่ง และทีมโมดูโล นากาจิม่า เรซซิ่ง และคลาส จีที 300 มีทีมที่ใช้รถยนต์ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ จีที3 (Honda NSX-GT3) จำนวน 3 ทีม ได้แก่ ทีมอัพการาจ ทีมโมดูโล ดราโก คอร์ส และทีมอาทา

●   พร้อมกันนี้ ฮอนด้ายังเอาใจแฟนๆ ชาวมอเตอร์สปอร์ตด้วยการจัดการแข่งขันซัพพอร์ตเรซ ฮอนด้า เรซซิ่ง 2019 โดยมีรถยนต์ฮอนด้าเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 30 คัน แบ่งเป็น 2 รุ่น ได้แก่:

●   1) Honda Pro Car Modify : การแข่งขันที่เปิดโอกาสให้สามารถปรับแต่งรถยนต์ฮอนด้าเครื่องยนต์ขนาดความจุ 1,500 ซีซี โดยมีรถเข้าแข่งขันจำนวน 15 คัน

●   2) Honda Pro Car (Production) : การแข่งขันที่ไม่สามารถปรับแต่งรถยนต์ฮอนด้าเครื่องยนต์ขนาดความจุ 1,500 ซีซี โดยมีรถเข้าแข่งขันจำนวน 15 คัน

●   นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Honda Track Experience 2019 กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าเจ้าของรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค เทอร์โบ จำนวน 30 ท่าน ได้สัมผัสประสบการณ์บนสนามการแข่งขันระดับโลกผ่านการขับขี่จริงในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่น เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยก่อนเริ่มกิจกรรม ฮอนด้าได้พาผู้ร่วมกิจกรรมเข้ารับการอบรมหลักสูตรพื้นฐานการขับขี่ในสนามแข่งทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ โดยทีมครูฝึกที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การแข่งขันระดับประเทศ เพื่อเสริมสร้างทักษะและความปลอดภัยในการขับขี่ก่อนการขับขี่บนสนามจริง ภายใต้ชื่อกิจกรรม Honda Driving Clinic ที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์

●   และอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ที่ฮอนด้าตั้งใจจัดขึ้นเพื่อแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต นั่นคือ กิจกรรม The Accord Turbo Performance Show เพื่อโชว์สมรรถนะการขับขี่ของ รถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่น TURBO EL ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 5,500 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 16.4 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งดีกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรในรุ่นเดิม จากนักแข่งรถมากประสบการณ์ 3 ท่าน นอกจากนี้ บริเวณลานกิจกรรมด้านนอก ฮอนด้ายังได้ร่วมออกบูธจัดกิจกรรมและเกมส์ต่างๆ รวมถึงร้านขายของที่ระลึก เพื่อให้แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตได้ร่วมสนุกและลุ้นของรางวัลตลอดทั้ง 2 วัน

●   การถ่ายทอดสด ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2019 มีขึ้นผ่านช่อง 24 (True4U) โดยการแข่งขันในรอบคัดเลือก (Knock Out Qualifying) มีการถ่ายทอดสดในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2562 และรอบชิงชนะเลิศ (Final) ถ่ายทอดสดในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา

เกี่ยวกับการแข่งขัน ซูเปอร์ จีที (Super GT)

●   การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับแนวหน้าของประเทศญี่ปุ่นเริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2536 โดยใช้ชื่อว่า Japanese Grand Touring Car Championship หรือ JGTC ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อจาก JGTC เป็น Super GT เพื่อเพิ่มความเป็นสากล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548

●   ในแต่ละฤดูกาลจะมีการแข่งขันทั้งหมด 8 สนาม โดยแบ่งเป็น 7 สนามในประเทศญี่ปุ่น และอีก 1 สนามที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ซึ่งตั้งแต่ฤดูกาลการแข่งขันปี 2014 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ก็ได้เข้ามาเป็น 1 ใน 8 ของสนามที่ใช้ในการแข่งขันซูเปอร์ จีที แทนสนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย

●   สนามสุดท้ายที่ใช้ในการแข่งขันซูเปอร์ จีที ในทุกปี จะถูกกำหนดให้เป็น สนามทวินริง โมเตกิ (Twin Ring Motegi) ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดโทชิกิ ประเทศญี่ปุ่น

●   การแข่งขันซูเปอร์ จีที เรซ 2019 ระหว่างวันที่ 29 – 30 มิถุนายน 2562 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ นับเป็นสนามที่ 4 ในฤดูกาลการแข่งขันปี 2019 และนับเป็นปีที่ 6 ของการแข่งขัน ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ

●   การแข่งขันซูเปอร์ จีที แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ จีที 500 และจีที 300 โดยตัวเลขนี้หมายถึงกำลังแรงม้าสูงสุดในแต่ละรุ่น ซึ่งทั้งสองรุ่นจะทำการแข่งไปพร้อมกัน และแต่ละเรซจะมีระยะทางรวมทั้งหมดประมาณ 300 กิโลเมตร ใช้เวลาแข่งขันประมาณ 2 ชั่วโมง

●   การแข่งขันในรุ่นจีที 500 ประกอบไปด้วย รถยนต์จาก 3 ค่ายรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่น ได้แก่ ฮอนด้า, นิสสัน และโตโยต้า

●   การแข่งขันในรุ่นจีที 300 ประกอบไปด้วยรถยนต์จากค่ายรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่น ได้แก่ โตโยต้า, นิสสัน, ซูบารุ และฮอนด้า และแบรนด์ยุโรป ได้แก่ ปอร์เช่, เมอร์เซเดส-เบนซ์, ออดี้, โลตัส, ลัมโบร์กีนี, ฟอร์ด, แมคลาเรน, แอสตัน มาร์ติน และเล็กซัส

●   ไฟ LED ที่ติดอยู่หน้ากระจกรถ สีแดงและสีน้ำเงิน มีไว้เพื่อบอกผู้ชมว่า นักแข่งคนไหนที่กำลังขับอยู่ จากกติกาการแข่งขัน ที่กำหนดไว้ว่า ในการแข่งขัน 1 เรซ จะต้องมีนักแข่งอย่างน้อย 2 คน โดยไฟ LED สีแดง หมายถึง นักแข่งหมายเลข 1 กำลังขับอยู่ ส่วนสีน้ำเงินหมายถึงนักแข่งหมายเลข 2 กำลังขับอยู่

●   จุดสังเกตในการแยกความแตกต่างระหว่างรุ่นจีที 500 และรุ่นจีที 300 เมื่ออยู่ในสนามการแข่งขัน ได้แก่:

– ไฟหน้า รถแข่ง รุ่นจีที 500 ไฟหน้าจะเป็นสีขาว แต่รุ่นจีที 300 ไฟหน้าจะเป็นสีเหลือง
– สติกเกอร์ที่ติดกับตัวรถ รุ่นจีที 500 จะมีพื้นหลังสีขาวและตัวเลขสีดำ แต่รุ่นจีที 300 จะมีพื้นหลังสีเหลืองและตัวเลขสีดำ
– สติกเกอร์คาดกระจกหน้ารถ รุ่นจีที 500 เป็นแถบสีขาว แต่รุ่นจีที 300 เป็นแถบสีเหลือง
– กราฟฟิคในการถ่ายทอดสด รุ่นจีที 500 จะเป็นพื้นสีขาว ตัวเลขสีดำ และมีไฟหน้าสีขาว แต่รุ่นจีที 300 จะเป็นพื้นสีเหลือง ตัวเลขสีดำ และมีไฟหน้าสีเหลือง

ทีมที่ใช้รถยนต์ฮอนด้าในการแข่งขันคลาสจีที 500

หมายเลข ทีม ขับโดย เครื่องยนต์
1 ทีม คูนิมิตซึ TEAM KUNIMITSU นาโอกิ ยามาโมโตะ Naoki Yamamoto เจนสัน บัตตัน Jenson Button เรย์บริค เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที RAYBRIG NSX-GT
8 ทีม อาทา TEAM ARTA   โทโมกิ โนจิริ Tomoki Nojiri ทาคูยะ อิซาวะ Takuya Izawa อาทา เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที ARTA NSX-GT
16 ทีม มูเก็น TEAM MUGEN ฮิเดกิ มูโตะฮ์ Hideki Mutoh ไดซูเกะ นากาจิมะ Daisuke Nakajima โมตุล มูเก็น เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที MOTUL MUGEN NSX-GT
17 ทีม เคฮิน เรียล เรซซิ่ง KEIHIN REAL RACING โคอุดาอิ ซึกาโกชิ Koudai Tsukakoshi แบร์ทร็อง บากูแอ็ต Bertrand Baguette เคฮิน เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที KEIHIN NSX-GT
64 ทีม โมดูโล นากาจิม่า
เรซซิ่ง Modulo Nakajima Racing
นาเรน คาร์ธิเคียน Narain Karthikeyan ทาดะสุเกะ มากิโนะ  Tadasuke Makino โมดูโล เอปสัน เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที Modulo  Epson NSX-GT

ทีมที่ใช้รถยนต์ฮอนด้าในการแข่งขันคลาสจีที 300

หมายเลข ทีม ขับโดย เครื่องยนต์
18 ทีม อัพการาจ TEAM UPGARAGE ทะกะชิ โคบายาชิ  Takashi Kobayashi โคสุเกะ มะสึอุระ  Kosuke Matsuura อัพการาจ เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที 3 UPGARAGE NSX GT3
34 ทีม โมดูโล ดราโก คอร์ส TEAM Modulo Drago CORSE ริโอ มิชิงามิ Ryo Michigami ฮิโรกิ โอซึ Hiroki Otsu โมดูโล เคนวูด เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที 3 Modulo KENWOOD NSX GT3
55 ทีม อาทา TEAM ARTA ชินอิจิ ทาคากิ Shinichi Takagi นิเรอิ ฟุกุซูมิ Nirei Fukuzumi อาทา เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที 3 ARTA NSX GT3

ตารางสรุปอันดับทีมฮอนด้าทั้งในคลาสจีที 500 และ จีที 300

Team Ranking GT500
PO NO Team Rd1 Rd2 Rd3 Total Behind WH*
9 1 ทีม คูนิมิตซึ TEAM KUNIMITSU 2 14 2 18 -17.5 22
3 8 ทีม อาทา TEAM ARTA 13 4 11 28 -7.5 40
14 16 ทีม มูเก็น TEAM MUGEN 5 2 2 9 -26.5 4
13 17 ทีม เคฮิน เรียล เรซซิ่ง KEIHIN REAL RACING 3 9   12 -23.5 12
15 64 ทีม โมดูโล นากาจิม่า เรซซิ่ง Modulo Nakajima Racing 3.5 3 2 8.5 -27 3

*WH ย่อมาจาก Weight Handicaps คือ ระบบน้ำหนักถ่วง ซึ่งรถแข่งที่ทำผลงานได้ดีจะถูกบวกน้ำหนักเพิ่มขึ้นในทุกสนาม ทำให้รถสามารถถวิ่งได้ช้าลงและมีระยะเบรกที่ยาวขึ้น ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสให้รถแข่งคันอื่นๆ สามารถเร่งแซงและทำคะแนนตีตื้นได้ อีกทั้งทำให้ผู้ชมได้ร่วมลุ้นกับการแข่งขันในทุกสนาม โดยจะมีสติกเกอร์รูปตุ้มน้ำหนักพร้อมตัวเลขบอกน้ำหนักติดอยู่ข้างรถ เพื่อบอกว่ารถคันนี้ถูกถ่วงน้ำหนักที่เท่าไร โดยน้ำหนักถ่วงสูงสุดคือ 100 กิโลกรัม ทั้งนี้ การแข่งขันสนามสุดท้าย น้ำหนักถ่วงทั้งหมดจะถูกเอาออก เพื่อให้รถแข่งได้แสดงสมรรถนะอย่างเต็มที่และขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสนาน

Team Ranking GT300
PO NO Team Rd 1 Rd 2 Rd 3 Total Behind WH*
15 18 ทีม อัพการาจ TEAM UPGARAGE 3 3 3 9 -28  
13 34 ทีม โมดูโล ดราโก คอร์ส TEAM Modulo Drago CORSE 4 1 7 12 -25 10
2 55 ทีม อาทา TEAM ARTA 10.5 18 8 36.5 -0.5 57

Chang Super GT Race 2019 and Honda Racing 2019

Chang Super GT Race 2019 and Honda Racing 2019