Mazda ประเทศไทย ตั้งเป้าหมายการจำหน่าย 6 หมื่นคันในปี 2563

motortrivia

●   มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย รายงานผลการดำเนินธุรกิจประจำปี 2562 ยอดรวมเกือบ 6 หมื่นคัน โดย Mazda2 มียอดสูงสุด 2 ปีติดต่อกัน

●   ปี 2563 มาสด้ามั่นใจว่าตลาดรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัว เบื้องต้นเตรียเน้นการบริหารงานแบบครบวงจร พร้อมรับมือกับสถานการณ์ ด้านรถใหม่จะมีการเปิดตัวรถยนต์นั่ง, SUV, ครอสโอเวอร์ และปิคอัพ พร้อมตั้งเป้าหมายการจำหน่ายรถเอาไว้ที่ 60,000 คันหรือมากกว่า คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 6%

●   นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในปี 2562 นั้น ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่ายอดรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปี 2561 (ยอดรวม 1.04 ล้านคัน) แม้จะมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกเข้ามากระทบ แต่ท้ายที่สุดตัวเลขรวมก็ทะลุ 1 ล้านคันโดยประมาณการ ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

●   มาสด้าสามารถสร้างยอดขายได้ 58,129 คัน ลดลงประมาณ -17.5% ส่วนแบ่งการตลาด 5.8% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 46,704 คัน, รถอเนกประสงค์ 5,736 คัน, รถปิกอัพ 5,664 คัน และรถสปอร์ต (MX-5) 25 คัน

คาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2563

●   นายชาญชัย กล่าวว่า “ตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมามีการแข่งขันที่สูงมาก แม้ว่ามาสด้าจะส่งรถยนต์รุ่นใหม่ลงสู้ศึกในตลาดถึง 6 รุ่น ซึ่งทั้งหมดอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี แต่กลับทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ สาเหตุสำคัญเกิดจากความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อตัวโปรดักซ์ทุกรุ่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ครอบคลุมในทุกพื้นที่ การสื่อสารแบรนด์สู่ความเป็นพรีเมียมที่ลูกค้าสัมผัสได้จริง ตลอดจนการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายรวมทะลุถึง 58,129 คัน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 5.8%”

●   “ภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2562 ขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 2.5% โดยรวมต้องบอกว่า ‘ดีขึ้น’ แต่ยังต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น ปัจจัยสำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งแม้ว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ผลสำเร็จไปได้ด้วยดี แต่ก็ใช้ระยะเวลานานกว่าที่จะจัดการแต่งตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้โครงการสำคัญๆ ชะลอออกไป ไม่สามารถเดินต่อได้ จึงไม่มีกลไกมาช่วยส่งเสริม”

●   “เศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 2.8 – 3.0% ค่าเงินและเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ หากค่าเงินบาทเฉลี่ยที่ 30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในปีนี้จะกระทบสินค้าเกษตร รถยนต์ และท่องเที่ยว การผลิตอาจลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ด้านการท่องเที่ยว ปัญหานักท่องเที่ยวที่ลดลงจะกลับมาคึกคักมากขึ้น เพราะประเทศไทยยังถือเป็นประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหลัก จากจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อาเซียน รวมทั้งจากไทยเที่ยวไทย ประเด็นทางเศรษฐกิจไทย ปี 2563 จำเป็นต้องได้รับแรงหนุนจากภาครัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อาทิ รัฐต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินและการคลัง การลงทุนโครงการของภาครัฐคือแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง อาทิ ท่าอากาศยาน ทางหลวงพิเศษ รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าในเมือง”

●   “ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คือ สถานการณ์ทางการเมืองของไทย และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องสงครามการค้าระหว่างประเทศ อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงอาจส่งผลมาถึงเศรษฐกิจไทย ส่วนปัญหาภัยแล้งอาจกระทบภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมในห่วงโซ่ แต่จะส่งผลให้ราคาพืชผลทางการเกษตรทุกชนิดมีแนวโน้มดีขึ้น”

●   “ตลาดรถยนต์ไทยในปี 2562 ยอดขายรวมทะลุ 1 ล้านคัน และที่สำคัญ Mazda2 ครองแชมป์เบอร์หนึ่ง และตลาดรวมรถยนต์เก๋งมาสด้าครองอันดับ 3 อย่างถาวรเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งทำให้มาสด้ามียอดสะสมถึง 2.6 แสนคัน ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปีเท่านั้น ย้อนกลับไปดูตัวเลขการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดหลายปี มาสด้า ประเทศไทย จึงกลายเป็นตลาดหลักสำคัญของมาสด้าทั่วโลก โดยเฉพาะช่วง 6 ปี ที่ผ่านมา จะเห็นว่ามาสด้า ประเทศไทย ยังคงเป็นตลาดหลักสำคัญของมาสด้าทั่วโลก”

แนวทางการดำเนินงานในปี 2563

●   ปี 2563 นี้ มาสด้าจะยังคงสื่อสารผ่านวิสัยทัศน์ Sustainable zoom-zoom 2030 คือ ‘การแก้ปัญหาที่ต้องเผชิญ เพื่อให้โลกยังคงสวยงาม เพื่อผู้คน และสังคมให้น่าอยู่ตลอดไป’ และเน้นเรื่องความสนุกในการขับ หรือ Joy of Driving ซึ่งเป็นพื้นฐานของแบรนด์มาสด้า

●   ในปีนี้ Mazda Motor Corporation จะครบรอบ 100 ปี ในวันที่ 30 มกราคม มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จึงเตรียมจัดกิจกรรมไปพร้อมกันกับมาสด้าทั่วโลกตลอดทั้งปี 2020 ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวรถใหม่ทั้งในกลุ่ม รถยนต์นั่ง, SUV, ครอสโอเวอร์ และปิคอัพ ที่รองรับทุกกลุ่มเป้าหมาย

●   สำหรับนโยบายเกี่ยวกับดีลเลอร์ การปรับปรุงโชว์รูมทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ภายในปีงบประมาณ 2562 นี้ โดยกิจกรรมส่งเสริมการขายจะถูกยึดถือเป็นนโยบายหลักเพื่อให้ดีลเลอร์ทั่วประเทศดำเนินการ ทุกคนต้องออกไปเจอลูกค้าด้วยตัวเอง เน้นสร้างทีมงานให้แข็งแกร่ง และดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด

การบริการคือสิ่งสำคัญ

●   นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมา ถือว่ามาสด้าประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะรถทุกรุ่นที่นำเข้าสู่ตลาดประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ถึงแม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกมาสด้าจะไม่มีรถใหม่ลงตลาด และยังเป็นช่วงที่เราต้องบริหารจัดการกระบวนการผลิตและการจำหน่ายรถทุกรุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่ยากลำบาก”

●   “ส่วนครึ่งปีหลัง การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งยอดขายกำลังหลั่งไหลเข้ามา แต่ไม่สามารถทันในปีปฏิทินของปีนี้ เราคาดว่าในปีงบประมาณหรือ Fiscal Year ยอดขายจะใกล้เคียงตามที่ตั้งเป้าไว้ การทำการตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เกิดการสื่อสารทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น”

●   “นอกจากการขายที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้แล้ว สิ่งสำคัญคือการดูแลหลังบ้าน เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการด้านการบริการลูกค้า และการเอาใจใส่ตลอดระยะเวลาที่ลูกค้าครอบครองรถมาสด้า”

●   “ด้านอะไหล่และการขนส่ง เราได้ทำการปรับปรุงทั้งคุณภาพและราคาจนสามารถใกล้เคียงกับตลาด หรือบางชิ้นส่วนมีราคาที่ต่ำกว่าตลาด ด้านการจัดส่งอะไหล่ไปยังศูนย์บริการจะมีบริการจัดส่ง 2 รอบต่อวัน สำหรับเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัด 1 รอบต่อวัน”

ยอดจำหน่ายประจำปี 2562 (มกราคม – ธันวาคม : เปรียบเทียบกับปี 2561)

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มาสด้า ประเทศไทย เชิญได้ที่ www.mazda.co.th ●