Honda Civic เปิดตัวรุ่นใหม่หลายรุ่นย่อยใน 2020 เจนีวาฯ

เรื่อง : AREA 54

●   ฮอนด้านำรถขายดีอย่าง Honda Civic รุ่นปี 2020 หลายรุ่นย่อยไปจัดแสดงในงาน 2020 Geneva Motor Show หลักๆ มีการนำเสนอรุ่นย่อยใหม่สำหรับยุโรปโดยใช้ชื่อเกรดว่า Sport Line ซึ่งมีให้เลือกทั้งรุ่นพื้นฐานและรุ่น Type R เสริมด้วย Type R รุ่นปรับโฉม และรุ่นพิเศษ Type R Limited Edition ซึ่งปรับแต่งแบบเน้นความฮาร์ดคอร์ในระดับพร้อมวิ่งแทร็คเดย์

2020 Honda Civic Sport Line

●   2020 Honda Civic Sport Line : ออกแบบโดยอิงภาพลักษณ์มาจากฮอทแฮทช์ 5 ประตูอย่าง Type R ตัวรถใช้พื้นฐานของรุ่นท๊อปเกรด EX ตกแต่งด้วยแอโรแพคเกจใหม่รอบคัน, ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว และมีสีโปรโมทใหม่เป็นสีน้ำเงินเข้ม Obsidian Blue

●   ห้องโดยสารตกแต่งใหม่บางจุด พวงมาลัย, หัวเกียร์ เบาะหนัง และแผงประตู เดินด้ายแดง, ติดตั้งชุดแป้นเหยียบแบบอลูมิเนียม อุปกรณ์มาตรฐานมี DAB radio (วิทยุดิจิทัล), ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Android Auto หรือ Apple CarPlay และกล้องหลังสำหรับช่วยถอย แสดงผลผ่านจอทัชสกรีน ปิดท้ายด้วยชุดระบบความปลอดภัย Honda SENSING ชุดใหญ่แบบครบชุด

●   แน่นอนว่าเกรด Sport Line เป็นแค่การตกแต่งภาพลักษณ์เพิ่มเติมในแบบสปอร์ต ดังนั้นพละกำลังจึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตัวรถยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ CVT พร้อมแพดเดิลชิฟท์ กำลังสูงสุด 126 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 20.3 กก.-ม. ราคาจำหน่ายในสหราชอาณาจักร 25,510 ปอนด์ หรือประมาณ 1.05 ล้านบาทครับ

2020 Honda Civic Type R

●   2020 Honda Civic Type R : เวอร์ชั่นปรับโฉมของฮอทแฮทช์รุ่นสำคัญ ซึ่งผู้แปลเชื่อว่าแฟนๆ ในไทยอยากครอบครองกันทุกคน ตัวรถมากับกระจังหน้าใหม่ที่ช่วยในเรื่องการระบายอากาศ ช่องรับอากาศทรงตั้งล้อกับกรอบไฟตัดหมอก แม้จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักรอบๆ คัน แต่ฮอนด้าจะเพิ่มสีใหม่ให้เป็นสีฟ้า Boost Blue

●   ห้องโดยสารมีพวงมาลัยหุ้มหนังกลับ Alcantara, คันเกียร์ก้านสั้นแบบ Short throw shifter ออกแบบใหม่ และเพิ่มชุดระบบความปลอดภัย Honda SENSING (อันที่จริงแล้วฮอนด้าเริ่มติดตั้งชุดระบบ Honda SENSING เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อยในช่วงเปิดตัว Honda Civic Si ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในตลาดโลก)

●   ความแรงมีให้เต็มประสิทธิภาพตามที่หวังด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ จ่ายเชื้อเพลิงตรง ส่งกำลังไปหมุนล้อคู่หน้าด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อัตราทดชิด และมีลิมิเต็ด-สลิป ดิฟเฟอร์เรนเชียล ให้ใช้งาน กำลังสูงสุดผลิตได้ 310 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. ผู้ขับเลือกเร้าใจได้ด้วยระบบเสียงสังเคราะห์ Active Sound Control ระดับความกระหึ่มขึ้นอยู่กับการเลือกโหมดในการขับ

●   ช่วงล่างอัพเกรดใหม่ เริ่มที่การปรับปรุงคุณภาพของชุดแดมเปอร์ ซึ่งฮอนด้าระบุว่าจะช่วยให้ขับสบายขึ้น ขณะเดียวกันก็จะหนึบขึ้นด้วยชุดบุชใหม่ ปิดท้ายด้วยการปรับปรุงการตอบสนองของระบบกันสะเทือนหน้าและระบบบังคับเลี้ยวใหม่ให้ควบคุมง่ายขึ้น… ยุโรปจะเริ่มขายในช่วงปลายปี 2020 นี้ ราคาจำหน่ายยังไม่ระบุครับ

2020 Honda Civic Type R Sport Line

●   2020 Honda Civic Type R Sport Line : นับเป็นเกรดรุ่นย่อยใหม่สำหรับยุโรป โดยมีความแตกต่างจาก Type R รุ่นพื้นฐานเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนปีกหลังเป็นทรงแนบ, เปลี่ยนล้อ 19 นิ้วให้มีความเฉพาะตัวด้วยสีเข้ม จับคู่ยาง MICHELIN Pilot Sport 4S ฮอนด้าระบุว่าจะช่วยให้นุ่มนวลกว่า ลดเสียง ความกระด้าง และซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า

●   ห้องโดยสารมีเบาะทรงบัคเก็ท ตกแต่งด้วยการเดินด้ายแดง, พวงมาลัยหุ้ม Alcantara เดินด้ายแดง และมีหัวเกียร์ใหม่ทรงหยดน้ำช่วยเพิ่มความสด

●   ของเล่นสำหรับนักขับมีฟังก์ชั่น Honda LogR อาศัยการทำงานของเซนเซอร์และออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ ช่วยระบุค่าและเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ในการขับแบบแทร็ค สั่งงานและบันทึกข้อมูลได้ผ่านแอพฯ บนสมาร์ทโฟน โดยระบบจะแสดงผลแบบอัตโนมัติผ่านจอกลางเมื่อรถเคลื่อนที่ และจะแสดงผลบนสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่องเมื่อผู้ขับปลดการเชื่อมต่อกับระบบอินโฟฯ

●   ราคาจำหน่ายยังไม่ระบุเช่นกันครับ

2021 Honda Civic Type R Limited Edition

●   2021 Honda Civic Type R Limited Edition : รุ่นพิเศษปิดท้ายในไลน์อัพนี้ เป็นรุ่นเดียวที่มีการระบุรุ่นปีเป็น MY2021 แม้ชื่อรุ่น “Limited Edition” จะดูเรียบง่าย แต่ฮอนด้าระบุว่านี่คือ Type R เวอร์ชั่น Track Edition ที่พร้อมใช้งานในการวิ่งแทร็คเดย์เป็นหลัก จำกัดจำนวนการผลิตเพียง 600 คันในสหรัฐฯ และ 100 คันเท่านั้นในยุโรป ทุกคันมีแผ่นเพลทนัมเบอร์ระบุหมายเลขการผลิต

●   ตัวรถมากับสีเหลืองใหม่ Phoenix Yellow เล่นโทนสีแบบสปอร์ตด้วยหลังคาดำ ตัวตราสัญลักษณ์เป็นแบบพิเศษสี Dark Chrome เมื่อเทียบกับ Type R รุ่นพื้นฐาน เวอร์ชั่นอเมริกันจะมีน้ำหนักลดลง 20.9 กก. ใช้ล้อ BBS ช่วยลดภาระน้ำหนักใต้ระบบช่วงล่าง (Unsprung weight) และเอาอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่จำเป็นสำหรับการวิ่งแทร็คออกไป เช่น วัสดุซับเสียง หรือที่ปัดน้ำฝนหลัง เป็นต้น

●   ส่วนเวอร์ชั่นยุโรปจะมีน้ำหนักที่เบากว่าถึง 47 กก. จากการถอดชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ และระบบปรับอากาศออกไปด้วย

●   ทั้งคู่จะมากับแชสซีส์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่, แดมเปอร์ทั้งชุดปรับปรุงใหม่, ระบบบังคับเลี้ยวจูนใหม่ เครื่องยนต์และเกียร์ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตัวรถยังใช้พละกำลังจากเครื่อง 4 สูบ 2.0 เทอร์โบชาร์จ ทว่าตัวเลขของเวอร์ชั่นยุโรปจะอยู่ที่ 320 แรงม้า (PS) ส่วนแรงบิด 40.7 กก.-ม. เท่ากับรุ่นพื้นฐาน

●   ทั้ง 2 เวอร์ชั่นจะเริ่มจำหน่ายในเวลาใกล้เคียงกัน คือภายในช่วงเดือนมิถุนายน 2020 เป็นต้นไป ราคาจำหน่ายยังไม่ระบุในเวลานี้ทั้งคู่ครับ  ●

2020-2021 Honda Civic Sport Line and New Type R Series