PTG ลงทุนเพิ่ม 5 พันล้าน ตั้งเป้าเติบโต 15-20% ในปี 2563

ประชาสัมพันธ์

●   พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ระบุปี 2562 ประสบความสำเร็จ ยอดขายเป็นอันดับ 2 ของประเทศ พร้อมวางแผนลงทุนในปี 2563 อีก 5,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจ, ตั้งเป้ายอดขายในธุรกิจน้ำมันเติบโตขึ้น 15 – 20%, เพิ่มสถานีบริการน้ำมันเป็น 2,200 แห่ง, เพิ่มธุรกิจ LPG ภาคครัวเรือน, เพิ่มสิทธิพิเศษให้ผู้ถือบัตร PT Max card ระดับ Prestige, ขยายฐานสมาชิกเพิ่มเป็น 15 ล้านสมาชิก, เดินหน้าโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ และพร้อมจำหน่ายน้ำมัน B10 ในสถานีบริการ

●   นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2562 นับเป็นปีที่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในปี 2563 ที่กำลังก้าวสู่ปีที่ 33 นี้ จะเป็นปีที่มีความท้าทายทางเศรษฐกิจ

●   “ปี 2562 เป็นปีที่เรารู้สึกภูมิใจในความสำเร็จหลายด้าน อัตราการเติบโตธุรกิจน้ำมันที่ขยายตัว 19.4% โดยมาจากรถเชิงพาณิชย์เป็นหลัก เราพยายามขยับเข้ามาในพื้นที่ตัวเมืองมากขึ้น เพื่อที่จะจับกลุ่มลูกค้ารถยนต์ส่วนบุคคล จำนวนสถานีบริการน้ำมันและแก๊สของเรามีอยู่กว่า 2,000 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึง 7.6% จำนวนบัตรสมาชิก PT Max Card ครบ 12.6 ล้านสมาชิก กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเติบโตขึ้น 50.2% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 150.6% จากปีที่แล้ว ด้วยอัตรากำไรที่สูงขึ้น รวมถึงการนโยบายรัดกุมเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างเป็นระบบ”

2563 ใช้งบลงทุน 5,000 ล้านบาท

●   แผนการดำเนินงานในปี 2563 จะใช้งบลงทุนราว 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจหลัก (Core Business) 4,000 ล้านบาท, กลุ่มธุรกิจ Non-oil 500 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจใหม่ 500 ล้านบาท เป้าหมายคือยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้น 15 – 20% และเพิ่มจำนวนสถานีบริการเป็น 2,200 แห่ง

●   การขยายฐานสมาชิกผู้ถือบัตร PT Max Card จากการสำรวจสถิติ PTG พบว่า 72% ของสมาชิกนำบัตรมาใช้ที่สถานีเป็นประจำ จึงเตรียมยกระดับสิทธิพิเศษด้วยการออกบัตร PT Max Card ระดับ Prestige ซึ่งนับเป็นรายแรกในกลุ่มธุรกิจ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการร่วมมือกับ Otteri Wash & Dry และกลุ่มบริษัทฟาร์มโชคชัย เพื่อเสนอสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ให้กับผู้ถือบัตร PT Max Card

พร้อมจำหน่าย B10

●   PTG พร้อมจำหน่าย B10 แล้ว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ตามนโยบายของภาครัฐ ส่วนการขยายตัวของ B20 นายพิทักษ์ ระบุว่าเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่รอบคอบ ซึ่งเบื้องต้นมีการมุ่งเน้นไปยังจุดจำหน่ายที่มีศักยภาพเป็นหลัก ทำให้ปี 2562 ที่ผ่านมา PTG มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 32.1%

โครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ 100% ในปีนี้

●   โครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ จะมีการเดินหน้าเต็ม 100% ภายในปี 2563 นี้ โดยมีกำลังการผลิตไบโอดีเซล (B100) ในปริมาณ 500,000 ลิตรต่อวัน, น้ำมันปาล์มเพื่อบริโภค (โอเลอีน) 200,000 ลิตรต่อวัน

●   จากนโยบายภาครัฐ การเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ในน้ำมันดีเซล 10% หรือ B10 จากเดิม B7 ทำให้ความต้องการน้ำมันไบโอดีเซลขยายตัวขึ้น ส่งผลบวกต่อธุรกิจ โดยปัจจุบันโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มที่

LPG วางแผนขึ้นอันดับ 1

●   ธุรกิจก๊าซ LPG มีการตั้งหมายสูงสุด โดยจะผลักดันให้สถานีก๊าซ Auto LPG ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยภายในปี 2563 ให้ได้ นอกจากนี้ PTG ยังเตรียมขยายธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ไปยังภาคครัวเรือนด้วย เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันมีการจำหน่าย LPG ผ่านสถานีบริการในภาคขนส่งเท่านั้น โดย PTG คาดว่ายอดขายในส่วนของ LPG น่าจะเติบโตได้ 30 – 40% เมื่อเทียบจากจากปี 2562

●   นายพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “หัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ PTG คือ มุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจของกลุ่มบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี และคู่ค้าพันธมิตรตลอดห่วงโซ่อุปทานในระยะยาว สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้มีส่วนได้เสียทั้งทางตรงและทางอ้อม มีการแบ่งปันคุณค่า (Shared Value) ต่อสังคมในรูปแบบต่างๆ ร่วมกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการดำเนินกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่ทำต่อเนื่องมาทุกปี อาทิ จัดงานวิ่งการกุศล การลงพื้นที่สร้างฝายที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลาน การบริจาคทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนแก่โรงเรียนต่างๆ จัดทำคลินิกฟุตบอลสอนการเล่นฟุตบอลเพื่อให้เยาวชนนำมาต่อยอดและเสริมสร้างสุขภาพหันมาเล่นกีฬา การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม การจัดกิจกรรมสร้างสุขแก่ชุมชน เช่น หน่วยตรวจทันตกรรมเคลื่อนที่ จัดนิทรรศการความรู้เรื่อง ทรัพยากรทางทะเล ขยะทางทะเล และงานจัดแสดงสินค้า OTOP เป็นต้น โดยมุ่งเน้นการสร้างค่านิยมองค์กรให้พนักงานพีทีทุกคนมีส่วนร่วมคืนประโยชน์สู่สังคมไทย”

●   “ในปีที่ผ่านมา PTG ยังได้รับรางวัลอันสะท้อนถึงมาตรฐานและหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ อาทิ รางวัล ASEAN Business Awards (ABA) 2019 ที่มอบให้กับบริษัทที่มีบทบาทในการสร้างความเจริญเติบโตในภาคเศรษฐกิจของอาเซียน มีศักยภาพในการแข่งขันในระดับสากล และยังได้รับคัดเลือกให้อยู่ในหุ้นยั่งยืนเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยประเมินจากความยั่งยืนด้าน Environmental, Social และ Governance นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลนักลงทุนสัมพันธ์ดีเด่น ภายใต้พันธกิจหลักของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลโปร่งใส เท่าเทียมตามหลักธรรมาภิบาล และอีกหลายรางวัล ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นการก้าวสู่รางวัลบนเวทีระดับโลกในอนาคต”

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ PT Call Center โทร. 1614 ทุกวัน 8.00 – 20.00 น. หรือแฟนเพจ facebook.com/ptstation ●