Hyundai พัฒนาระบบแอร์รถใหม่ เพื่อความสะอาดสูงสุด

เรื่อง : AREA 54

●  ฮุนได มอเตอร์ ประกาศกำลังพัฒนาระบบปรับอากาศในรถยนต์แบบใหม่ เพื่อให้คุณภาพอากาศในรถยนต์ให้มีความสะอาดสูงสุด เบื้องต้นจะเริ่มใช้งานเฉพาะรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปรับโฉมในเกาหลีใต้ก่อนเป็นที่แรก ทั้งแบรนด์ฮุนได, เกีย และเจเนซิส ก่อนจะกระจายไปยังตลาดหลักที่มีการจำหน่ายทั่วโลก

●  ชุดระบบปรับอากาศใหม่ของฮุนไดใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ทำงานร่วมกัน 3 ระบบ ประกอบด้วย (1) ระบบ After-Blow, (2) ระบบ Multi-Air Mode และ (3) ระบบ Fine Dust Indicator โดยจะมีหน้าที่การทำงานที่แตกต่างกัน ได้แก่:

After-Blow

●  1. After-Blow : เป็นชุดระบบที่รับหน้าที่ทำให้คอล์ยเย็น หรือ Evaporator และส่วนรับน้ำทิ้ง รวมถึงช่องทางในระบบมีความแห้งสนิทก่อนการใช้งาน และลดการเจริญเติบโตของเชื้อราในระบบแอร์

●  ตัวระบบ After-Blow จะทำงานหลังจากผู้ขับดับเครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยการปล่อยให้ระบบแห้งเองตามธรรมชาติ 30 นาที จากนั้นเซ็นเซอร์พิเศษจะทำการเช็คระดับกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ หากต่ำกว่า 70% ระบบจะตัดการทำงานตรงนี้… แต่หากตรวจพบว่ามีกระแสไฟฟ้าเพียงพอ ระบบจะเรียกการทำงานของโบลวเวอร์ให้เป่าลมไล่ความชื้นในระบบที่เกี่ยวเนื่องเป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าระบบทั้งหมดแห้งสนิท เพื่อลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา

Multi-Air Mode

●  2. Multi-Air Mode : เป็นการออกแบบชิ้นส่วนใหม่ เพิ่มช่องทางจ่ายลมเย็น/ร้อน (ในกรณีที่ใช้ฮีทเตอร์) ที่แผงคอนโซลหน้าแบบรูรังผึ้ง ทั้งฝั่งผู้ขับและผู้โดยสาร เพื่อช่วยเสริมลมเย็น/ร้อนจากช่องแอร์ปกติ ทำให้ผู้ขับและผู้โดยสารสัมผัสกระแสลมแผ่วๆ ได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น

Fine Dust Indicator

●  3. Fine Dust Indicator : เพิ่มเซนเซอร์ตรวจวัดระดับฝุ่นละอองในห้องโดยสาร พร้อมแสดงค่าตัวเลขที่ตรวจวัดได้บนหน้าจอแสดงผลระบบปรับอากาศ และยังมีสีไฟแสดงผลเป็นตัวระบุค่าความปลอดภัยด้วย แบ่งเป็น Good (ฟ้า), Moderate (เขียว), Bad (ส้ม) และ Very Bad (แดง)

●  การวัดค่าจะยึดเอามาตรฐานของฝุ่นละเอียด หรือ Fine Particle ที่มีอนุภาคเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (หรือที่เรารู้จักกันในชื่อฝุ่น PM2.5 ) ของ MOE เป็นตัววัด (Ministry of Environment) หากระบบตรวจพบว่าค่าของฝุ่นละอองสูงกว่ามาตรฐาน ระบบฟอกอากาศจะถูกเรียกขึ้นมาทำงานโดยอัตโนมัติ หากตัวเลขของค่าฝุ่นละอองไม่ลดลง หมายความว่าเจ้าของรถต้องทำการเปลี่ยนฟิลเตอร์เอง และถึงเวลาทำความสะอาดเบาะและพรมในรถเพิ่มเติม

●  อย่างไรก็ตาม ฮุนไดยังไม่ระบุกรอบเวลาในการนำเทคโนโลยีนี้ไปติดตั้งในรถยนต์อย่างเป็นทางการครับ   ●