July 20, 2021
Motortrivia Team (10229 articles)

2021 MG5 เจนเนอเรชั่น 2 เปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทย

motortrivia

●   หลังนำคันจริงมาจัดแสดงให้สื่อมวลชนเก็บภาพ ในที่สุด เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี และเอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย ก็พร้อมเปิดราคาจำหน่าย MG5 รุ่นใหม่ล่าสุดเจนเนอเรชั่น 2 โดยเป็นการจัดงานแบบสตรีมมิ่งผ่าน แฟนเพจ เฟซบุ๊ค : MG Thailand เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของ COVID-19 และในพื้นที่ กทม. ก็เริ่มมีการล็อคดาวน์อย่างเป็นทางการด้วย

●   นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เป้าหมายของเอ็มจี คือการให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ที่ดีกว่าเดิมอยู่เสมอ ควบคู่กับการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยการแนะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่มีความโดดเด่นในด้าน เทคโนโลยี (Technology) ความทันสมัย (Fashion) และ ความคุ้มค่า (Value) สู่ตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่องครอบคลุมเกือบทุกเซกเมนต์”

●   “สำหรับการเปิดตัว All New MG5 ในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งชื่นชอบรถยนต์นั่งสไตล์สปอร์ต โดยรถรุ่นนี้มาพร้อมนิยาม “BEYOND” ที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ที่มีความ โดดเด่นและมีมุมมองที่เหนือระดับ รวมทั้งสะท้อนวิสัยทัศน์ของเอ็มจีที่ต้องการสร้างจุดขายที่เหนือชั้นกว่าให้กับรถยนต์ในกลุ่ม B-segment รวมไปถึงกลุ่ม Eco-Car ของไทยให้ก้าวข้ามกรอบเดิมๆ ซึ่งเรามั่นใจว่าด้วยความโดดเด่นของ All New MG5 และความพร้อมของการบริการหลังการขายด้วยศูนย์บริการมาตรฐานเอ็มจีกว่า 150 แห่ง ทั่วประเทศ จะทำให้รถยนต์รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยม สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างตรงจุดและมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นกว่าให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างแน่นอน”

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

●   MG5 ใหม่มากับภาพลักษณ์ที่ดูปราดเปรียวในแบบรถคูเป้ (Coupe-like) ใช้ Design Language ใหม่ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของแบรนด์ MG กระจังหน้าใหม่เป็นแบบ 3 มิติ Digital Burning Grille, ชุดไฟหน้า LED Projector พร้อมฟังก์ชั่นเปิด/ปิดอัตโนมัติ, ไฟท้าย LED แบบ Leopard Claw, ไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และ Sunroof

●   ห้องโดยสารมีอุปกรณ์มาตรฐานที่ดีขึ้นกว่าเดิม อาทิ มาตรวัดฟูลดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว, จอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว รองรับการแสดงผลรอบทิศทางแบบ 3 มิติ, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Android Auto และ Apple CarPlay, แผงคอนโซลตกแต่งแบบ 3D Diamond Design, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ, กระจกมองหลังแบบตัดแสง, เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัลพร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ชุดลำโพง 6 ตำแหน่ง, เบรคมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake และกุญแจรีโมท Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start

●   ระบบปฏิบัติการ i–SMART มากับมเทคโนโลยีใหม่ Digital Key ช่วยให้สามารถใช้งานรถผ่านกุญแจแบบดิจิทัลได้ด้วยการรับ/ส่งโค้ดจากแอพพลิเคชัน i-SMART ผู้ขับสามารถสั่งเปิด/ปิด และสตาร์ทรถ รวมถึงการส่งกุญแจดิจิทัลให้ผู้อื่นเพื่อใช้งานรถผ่านแอพพลิเคชั่น i-SMART ได้

●   ฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ของระบบปฏิบัติการ i–SMART ประกอบด้วย:

●   Smart Command : สั่งการด้วยคำสั่งเสียงภาษาไทย, ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านสมาร์ทโฟน, ค้นหาข้อมูลจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ (Point Of Interest) และวางแผนการเดินทางได้ด้วย Travel Plan บนสมาร์ทโฟน พร้อมแสดงผลผ่านจอกลางบนรถ, โทรออกหรือรับสายบนจอทัชสกรีน และสามารถติดต่อ MG Call Centre เพื่อสอบถามข้อมูล หรือขอรับ Point Of Interest ได้ผ่านปุ่มลัดบนพวงมาลัย

●   Smart Connect : สามารถเล่นเพลงได้ทั้งแบบออนไลน์ หรือสตรีมมิ่ง, ค้นหาร้านอาหาร ที่พัก หรือสถานที่ท่องเที่ยวบนเนวิเกเตอร์, รายงานสภาพการจราจรแบบ Real Time, เรียกดูข้อมูลหรือข่าวสารแบบปัจจุบัน รวมถึงข้อมูลพยากรณ์สภาพอากาศ และรองรับการอัพเกรดชุดระบบต่างๆ แบบ FOTA (Firmware Over-The-Air)

●   Smart Check : รองรับการตรวจสอบสถานะของประตูรถ, ตรวจสอบตำแหน่งของรถ พร้อมบอกเส้นทางไปยังรถผ่านฟังก์ชั่น Find My Car โดยกำหนดให้รถเปิดไฟหน้า / ไฟท้าย หรือใช้เสียงแตรผ่านการตั้งค่า

●   นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบความผิดปกติของรถ และแจ้งสถานะการทำงาน เช่น เครื่องยนต์ / ลมยาง หรือถุงลมนิรภัย, ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ / นัดหมาย และบันทึกข้อมูลการดูแลรักษารถตามระยะ, ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ และสามารถกำหนดขอบเขตการใช้รถได้ตั้งแต่ 500 ม. จนถึง 10 กม. โดยระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถเข้า / ออกในขอบเขตที่กำหนดไว้

●   ตัวรถใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซินรหัส 15S4C แบบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT 8 จังหวะ กำลังสูงสุด 114 แรงม้า (HP) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 15.2 กก.-ม. ที่ 4,500 รอบ/นาที

●   ชุดระบบความปลอดภัยมีโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF หรือ Full Space Frame ชุดระบบความปลอดภัยประกอบด้วย ระบบ Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบ Lane Change Assist ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน, ระบบ Blind Spot Detection ช่วยเตือนมุมอับสายตา, ระบบ Electronic Differential System ควบคุมการเบรคในขณะเข้าโค้ง, ระบบ Rear Cross Traffic Alert ช่วยเตือนขณะถอยหลัง, ระบบ Rear Collision Warning ช่วยเตือนการชนด้านหลัง

●   เสริมด้วยระบบ Traction Control System ป้องกันล้อหมุนฟรี พร้อมควบคุมการลื่นไถล, ระบบ Hill Start Assist System ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบ Auto Vehicle Hold ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบแป้นเบรคค้าง, ระบบเบรค ABS ป้องกันล้อล็อค, ระบบกระจายแรงเบรค EBD, ระบบเสริมแรงเบรคแบบอิเลคทรอนิคส์ EBA และระบบ Emergency Stop Signal สัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรคในขณะฉุกเฉิน ปิดท้ายด้วยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, เข็มขัดนิรภัยแบบรั้งกลับพร้อมฟังก์ชั่นผ่อนแรงอัตโนมัติ, กุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบ Speed Sensing Door Lock ล็อคประตูอัตโนมัติ

●   การจำหน่ายจะแยกเป็น 3 เกรดรุ่นย่อย ประกอบด้วยเกรด C, D และ X สีตัวถังเลือกได้ 6 สีระหว่าง เหลือง Nuclear Yellow, ขาว Arctic White, ดำ Black Knight, เงิน Silver Metallic, แดง Scarlet Red หรือเทา Metal Ash Grey

  • MG5 C : ราคา 559,000 บาท
  • MG5 D : ราคา 599,000 บาท
  • MG5 X : ราคา 689,000 บาท

●   All-New MG5 ใหม่พร้อมส่งมอบตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2564 นี้เป็นต้นไป ทุกคันมาพร้อมบริการหลังการขายครบวงจร Passion Service รับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร, บริการเช็คระยะและตรวจสอบสภาพรถ นอกสถานที่ Mobile Services, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance, บริการศูนยลูกค้าสัมพันธ์ MG Call Centre ตลอด 24 ชั่วโมง และบริการรถสำรองใช้ระหว่างรอซ่อม

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ www.mgcars.com/th, เฟซบุ๊ค แฟนเพจ facebook.com/MGcarsThailand หรือศูนย์บริการลูกค้า 24 ชม. โทร. 1267    ●

Preview : 2021 MG5 : Official Images