November 22, 2022
Motortrivia Team (10197 articles)

Lexus IS 300h Premium แรงและประหยัด ช่วงล่างนุ่มนวล

motortrivia – ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

●   การแข่งขัน โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต สนาม 4 สนามสมโภชน์เชียงใหม่ 700 ปี ระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ทีมงานมอเตอร์ทริเวียได้บินไปร่วมชมการแข่งขันอย่างใกล้ชิดติดขอบสนาม ส่วนขากลับขับเลกซัสหลากรุ่นทั้งซีดานและเอสยูวีจากเชียงใหม่ มาที่ TDEX บางนา ระยะทางกว่า 570 กิโลเมตร ทีมงานโตโยต้าจัดให้ขับสปอร์ตซีดาน IS 300h ผลัดกันขับ 3 คนตามความสมัครใจ

ภายนอกโฉบเฉี่ยวเส้นสายเฉียบคม

●   IS 300h ถ่ายทอดแนวทางการออกแบบของเลกซัสไว้อย่างเต็มเปี่ยม โดยเฉพาะทรงของกระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ พื้นผิวและเหลี่ยมสันบนตัวรถ ออกแบบให้เกิดแสงและเงาสะท้อนดึงดูดสายตา ไฟหน้า LED แบบ 3-eye มีโคมโปรเจคเตอร์สำหรับไฟสูงและไฟต่ำ บรรจุอยู่ในโคมทรงเพรียวเชื่อมต่อกับเส้นสายของกระจังหน้า พร้อมไฟ DRL ทรงเฉี่ยว มาพร้อม ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ ระบบปรับระดับไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบทำความสะอาดไฟหน้าด้วยหัวฉีดน้ำ ไฟท้าย LED ทรงตัว L เอกลักษณ์ของเลกซัส ออกแบบให้คาดยาวต่อเนื่องซ้ายจรดขวา ทำให้ตัวรถดูกว้างและมั่นคง รุ่นย่อย Premium ให้ล้อแม็ก 8.5×19 นิ้ว ออฟเซต +45 ยางขนาด 235/40 R19

●   นอกจากความสวยงามแล้ว ตัวถังของ IS ยังถูกออกแบบให้ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า และทำให้ห้องโดยสารเงียบ รวมทั้งเพิ่มสมรรถนะในการขับแบบสปอร์ต ลดเสียงลมหมุนวนด้วยการออกแบบยางรีดน้ำขอบประตู รวมเป็นชิ้นเดียวกับประตูรถ สเกิร์ตข้าง ครีบบริเวณไฟท้าย และครีบใต้ท้องรถ ออกแบบให้ควบคุมทิศทางการไหลของลม

●   มิติตัวรถมีความยาว 4,710 มิลิเมตร กว้าง 1,840 มิลลิเมตร สูง 1,435 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,580/1,605 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 1,735 กิโลกรัม

สปอร์ตเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์

●   ห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย แผงคอนโซลมีการแบ่งสัดส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานที่ชัดเจน สวิตข์ควบคุมระบบต่างๆ จัดวางเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว พวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้านหุ้มหนัง มัลติฟังก์ชั่น ปรับได้ 4 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า พร้อม Paddle Shift มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron TFT 4.2 นิ้ว คอนโซลกลางติดตั้งจอสัมผัส EMV ขนาด 10.3 นิ้ว จัดวางตามหลักสรีรศาสตร์ หันเข้าหาผู้ขับ และลดความหนาของหน้าจอเพื่อลดการรบกวนผู้ขับ ใช้แสดงภาพกล้องมองหลังไปในตัว มาพร้อม Remote Touch Interface หรือรีโมทควบคุมแบบสัมผัส สั่งงานง่ายคล้ายการใช้สมาร์ทโฟนที่คุ้นเคย โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน

●   ภายในตกแต่งหรูหราด้วยหนังแท้ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับอากาศ ฝั่งผู้ขับมีระบบรองรับแผ่นหลัง ระบบปรับอากาศแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ ช่องเก็บของคอนโซลกลางหุ้มหนัง พร้อม USB 2 ช่อง พนักพิงเบาะหลังแยกพับ 60:40 มีม่านบังแดดไฟฟ้าที่กระจกหลัง ขับกล่อมด้วยระบบเครื่องเสียงเลกซัสพรีเมียม 10 ลําโพง รองรับระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth และระบบแผนที่นําทาง

●   ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม ทั้งระบบป้องกันก่อนการชน ระบบเตือนมุมอับสายตา ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทางพร้อมเตือนด้วยการสั่นที่พวงมาลัยเมื่อออกนอกเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว มาพร้อมแอร์แบ็กคู่หน้า ด้านข้างหน้าและหลัง ม่านนิรภัย และแอร์แบ็กหัวเข่าผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้า

●   ตลอดการเดินทางนอกจากเป็นผู้ขับแล้ว ก็ตีตั๋วนั่งหน้าตลอดเพื่อลดความเสี่ยงของอาการเมารถ จึงไม่ได้ลองนั่งเบาะหลังเลย แต่เท่าที่สังเกตดูพบว่ามีพื้นที่วางขาพอสมควร เนื่องจากฐานล้อที่ยาวถึง 2,800 มิลลิเมตร แต่จะถูกเบียดบังด้วยซุ้มอุโมงค์เพลาขับล้อหลังไปพอสมควร ส่วนพื้นที่เหนือศีรษะก็มีไม่มากนัก ด้วยตัวรถที่เป็นทรงหลังคาลาดต่ำ แต่ถ้าส่วนสูงผู้โดยสารด้านหลังไม่เกิน 170 เซนติเมตรก็น่าจะนั่งได้สบาย

●   ส่วนตำแหน่งผู้ขับก็ถือว่าค่อนข้างสบาย รองรับสรีระที่หลากหลาย ผู้ขับส่วนสูงกะทัดรัด 150 เซนติเมตร ก็ยังปรับเบาะและพวงมาลัยให้อยู่ในท่านั่งที่ถูกต้องและสะดวกสบายได้ง่าย ทัศนวิสัยรอบคันอยู่ในเกณฑ์ดี ที่วางขาแคบไปนิดเพราะต้องแบ่งพื้นที่ให้ชุดเกียร์ ที่เก็บของด้านหลังได้เรื่องความลึก เพราะซุกเข้าไปใต้แนวกระจกหลังอีกพอสมควร จุของได้พอสมควร พนักพิงเบาะหลังแยกพับได้ 60:40 ใส่ของที่มีความยาวมากๆ ได้

เบนซิน 2.5 + มอเตอร์ไฟฟ้า = 220 HP

●   ระบบไฮบริดประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง D-4S ความจุ 2.5 ลิตร 16 วาล์ว Dual VVT-i ความจุ 2,494 ซีซี 181 แรงม้า PS ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200-5,400 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 หรือสูงกว่า แก๊สโซฮอล์ E10 หรือ E20 ถังน้ำมันจุ 66 ลิตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor 143 แรงม้า PS แรงบิด 300 นิวตัน-เมตร กำลังขับเคลื่อนรวมทั้งระบบ 220 แรงม้า HP (223 PS) แบตเตอรี่ไฮบริดแบบ Nickel Metal Hydride จำนวนเซลแบต 192 หน่วย แรงดันไฟปกติ 230.4 โวลต์ แรงดันไฟสูงสุดในระบบ 650 โวลต์

●   ตามสเปคระบุอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 19.23 กิโลเมตรต่อลิตร การปล่อย Co2 122 กรัมต่อกิโลเมตร ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO 4 มีให้เลือก 3 โหมดการขับคือ Eco, Normal และ Sport และสามารถขับในโหมด EV ได้ด้วย

●   เริ่มเดินทางออกจากเชียงใหม่ประมาณ 8.00 น. วันอาทิตย์ ช่วงแรกรับหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์ เมื่อถึงจุดพักแรก ปั๊มปตท. สบปราบ จังหวัดลำปาง จึงสลับมาเป็นผู้ขับ เบาะและพวงมาลัยไฟฟ้า ปรับให้เข้ากับสรีระขนาด150 เซนติเมตรได้ง่าย ขับแล้วมั่นใจเพราะทัศนวิสัยดี ขับต่อไปยังร้านอาหารกลางวัน บ้านผักรักตะวัน จังหวัดตาก ระยะทางประมาณ 143 กิโลเมตร ถนน 4 เลน ค่อนข้างตรง ไม่มีทางลาดชันหรือคดเคี้ยวมากนัก ขับใช้ความเร็วค่อนข้างสูงเพราะต้องตามขบวนให้ทัน อัตราเร่งถือว่าทันใจพอสมควร แต่ต้องใช้รอบสูงบ้าง ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ถือว่าไว้ใจได้ เบรกหนึบดีไม่มีอาการเบรกไหล

●   ระบบกันสะเทือนอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าปีกนก 2 ชั้น ด้านหลังมัลติลิงก์ ใช้ช๊อกฯ แบบ Swing Valve ที่ช่วยลดแรงกระแทกแม้เพียงเล็กน้อยที่ส่งมาถึงตัวรถ ให้การขับที่สบายทั้งความเร็วต่ำและสูง ควบคุมตัวรถให้มีความเป็นกลาง ถ้าเป็นคนที่ชอบขับรถช่วงล่างนุ่มๆ คงชอบใจ แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบช่วงล่างที่ค่อนไปทางหนึบๆ แข็งๆ จึงรู้สึกว่าช่วงล่างเซตมานุ่มไปนิด โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วสูง

●   จากร้านอาหารกลางวัน นั่งผึ่งพุงสบายๆ อีก 2 ช่วง คือ ตาก-นครสวรรค์ 189 กิโลเมตร และนครสวรรค์-อยุธยา 205 กิโลเมตร กลับมาขับช่วงสุดท้ายจากร้านอาหารเย็นที่อยุธยามาถึง TDEX อีก 68 กิโลเมตร การจราจรค่อนข้างหนาแน่น ไม่ได้ใช้ความเร็วสูง ตัวรถมีความคล่องแคล่วขับง่ายขับสบาย ช่วงล่างที่เซตมาค่อนข้างนุ่มส่งผลดี ทำให้ขับได้นานโดยไม่เหนื่อยล้า เพียงแต่ต้องใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทางด้วย

●   เลกซัส IS 300h Premium คอมแพ็กต์สปอร์ตซีดานในกลุ่มพรีเมียม มีจุดเด่นที่รูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ เน้นเส้นสายที่เฉียบคมและโฉบเฉี่ยวสะดุดตา แฝงเอกลักษณ์ของเลกซัสไว้ในทุกมุมมอง ดูมีพลังในขนาดที่กะทัดรัด ภายในห้องโดยสารเน้นความเรียบง่ายสะอาดตา สวิตช​์ต่างๆ ใช้งานง่ายไม่สับสน ใช้วัสดุคุณภาพสูง ตกแต่งสปอร์ตและหรูหรา อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน ความกว้างขวางอยู่ในระดับเพียงพอกับการใช้งานที่เน้นนั่งหน้าเป็นหลัก เครื่องยนต์แรงเหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป พ่วงระบบไฮบริดเพิ่มประสิทธิภาพและลดมลพิษไปในตัว ช่วงล่างนุ่มนวลขับสบายถ้าไม่เล่นแรงเกินไปนัก มาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เพิ่มความมั่นใจด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี         ●

ขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

Group Test : 2022 Lexus IS 300h Premium