June 14, 2023
Motortrivia Team (10223 articles)

จาก truffle sniffer from Zuffenhausen จนถึง “hippie”

ประชาสัมพันธ์

●   ทีม Porsche Penske Motorsport นำเสนอรถแข่งปอร์เช่ 963 เวอร์ชั่นสุดพิเศษถึงสามคัน โดดเด่นเหนือระดับในระหว่างการแข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมง งานออกแบบดีไซน์ที่ชวนให้ย้อนระลึกถึงสีสรรบนรถแข่งตัวแรงอันเป็นประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาความเร็ว และเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75th ยนตกรรมสปอร์ตปอร์เช่ รวมไปถึงครบรอบ 100th ปี นับตั้งแต่ครั้งแรกของการแข่งขันรถยนต์ในประเทศฝรั่งเศสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่ง สีตัวถังจากผู้สนับสนุนที่คุ้นตาอาทิ Martini, Rothmans และ Gulf รวมทั้งงานดีไซน์เปี่ยมเอกลักษณ์อย่างเช่น “pig” และ “hippie” จนถึงรถแข่งสีแดงของทีม Porsche Salzburg ได้รับการนำกลับมาใช้อีกครั้ง ทั้งหมดนี้เพื่อยกย่องเกียรติประวัติความสำเร็จ และสมรรถนะอันน่าอัศจรรย์ของเหล่าบรรดารถแข่งตัวแรงในอดีต ที่เคยฝากผลงานสุดประทับใจเอาไว้ในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระยะยาวที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่สุดในโลก

●   ลายคาดตัวถังที่แตกต่างกันทั้งเจ็ดสี ประกอบด้วย สีเหลือง, สีแดง, สีน้ำเงินเข้ม, สีฟ้า, สีเขียว, สีชมพู และสีส้ม โดดเด่นเป็นสง่าบนรถแข่งปอร์เช่ 963 ทั้งสามคันที่กำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันในรุ่น Hypercar class ของรายการ Le Mans สีสันเหล่านี้แสดงถึงความเคารพต่อรถแข่งตัวแรงระดับตำนานหลายต่อหลายคันของปอร์เช่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เคยสร้างผลงานความสำเร็จสุดยอดเยี่ยมเอาไว้ในประวัติศาสตร์ ต้องขอบคุณชัยชนะระดับ overall ทั้ง 19 ครั้ง และชัยชนะระดับ class ต่าง ๆ อีกถึง 110 ครั้ง ปอร์เช่คือบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในการแข่งขันระยะยาวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก อีกทั้งฤดูกาลนี้ยังเป็นวาระสำคัญในการครบรอบหนึ่งร้อยปีอีกด้วย

●   สีส้ม: รถแข่งปอร์เช่ Gulf 917 ดาวเด่น และเจ้าของโพเดี่ยมที่ Le Mans – ลายคาดสีส้มบนตัวถังรถแข่งปอร์เช่ 963 คือสัญลักษณ์ของงานออกแบบ Gulf design ที่เป็นตำนานจากรถแข่งปอร์เช่ 917 ในฐานะเจ้าของตำแหน่งแชมป์ ทีมงานวิศวกรรมยานยนต์ John Wyer Automotive Engineering โยกย้ายมารับหน้าที่พัฒนารถต้นแบบจาก Zuffenhausen ในปี 1970 พร้อมทั้งพาบริษัทน้ำมันรายใหญ่ตามมาเป็นผู้สนับสนุน ถึงแม้ว่ารถทั้งสามคันที่ทีมส่งเข้าร่วมการแข่งขันจะถูกยุติบทบาทก่อนจบฤดูกาล แต่ทุกคนต่างกล่าวถึงรถแข่ง Gulf Porsche ดาราฮอลลีวูดชาวอเมริกัน Steve McQueen ผู้รับบทบาทการแสดงเป็น Michael Delaney ขับรถแข่งสีน้ำเงินส้มในภาพยนต์เรื่อง Le Mans ซึ่งยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน และได้รับคำวิจารณ์ว่าเป็นหนึ่งในภาพยนต์เกี่ยวกับรถแข่งที่ดีเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์

●   ก่อนการถือกำเนิดของการดวลเดือดบนจอภาพยนต์ระหว่างปอร์เช่ และเฟอร์รารี่ ในเดือนตุลาคมปี 1971 รถแข่ง Gulf Porsche สามารถจบการแข่งขันด้วยตำแหน่งบนโพเดี้ยมได้ในการลงสนามที่ Le Mans โดยเป็น Richard Attwood นักขับจากสหราชอาณาจักร และ Herbert Müller จากสวิสเซอร์แลนด์ เข้าเส้นชัยในอันดับสอง overall หลังพวงมาลัยรถแข่ง 917 KH ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ขนาดความจุ 4.9 ลิตร สิบสองสูบ อีกเกือบ 50 ปีต่อมา งานออกแบบ Gulf design ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งกับรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR ลงสนามในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ FIA World Endurance Championship WEC และในรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 R อีกหลายคัน ในการแข่งขันรายการ Spa-Francorchamps 24 ชั่วโมง

●   สีชมพู: “pig” ตัวแรงแห่งตำนานผู้ไร้โชคในการแข่งขัน – ในปี 1971 รถแข่งปอร์เช่ 917/20 ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับบรรดาแฟน ๆ กีฬา รวมทั้งนักแข่ง และเจ้าหน้าที่ทั้งสนาม Le Mans นักออกแบบของปอร์เช่ Anatole Lapine ร่างภาพชิ้นส่วนของสุกรที่ผ่านการตัดแต่งโดยพ่อค้าเนื้อลงบนพื้นตัวถังสีชมพู และติดป้ายชื่อตามตำแหน่งดังนี้: snout, ham, pork knuckle และ brain หลังจากนั้นชื่อเล่นอันเป็นที่ชื่นชอบจึงได้รับการตั้งขึ้นอย่างรวดเร็ว

●   รถแข่งที่ขับขี่โดย Willi Kauhsen และ Reinhold Joest ถูกขนานนามในหลากหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น “truffle sniffer from Zuffenhausen” หรือที่สุดโต่งคือ “Sau” ซึ่งเป็นคำภาษาเยอรมนีที่นิยมใช้ ขณะที่ในภาษาอังกฤษรถแข่งคันดังกล่าวได้ชื่อว่า “Pink Pig”

●   ในปี 1971 รถแข่งเจ้าเนื้อคันนี้ไม่อาจแสดงประสิทธิภาพของมันในการลงสนามได้ดีนัก: ขณะที่กำลังวิ่งอยู่ในอันดับที่ห้า Kauhsen/Joest จำเป็นต้องออกจากการแข่งขันรายการ Le Mans 24 ชั่วโมงอย่างรวดเร็ว แต่ในการหวนกลับมาอีกครั้ง สถานการณ์ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น: รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR ที่ได้รับการตกแต่งในสไตล์ดั้งเดิมของ “Pink Pig” สามารถเก็บคะแนนสะสมเป็นกอบเป็นกำ จนคว้าแชมป์ในรุ่น GTE class มาครอบครองได้สำเร็จ ในสนาม Sarthe เมื่อปี 2018 จากผลงานการขับขี่ของนักแข่งสังกัดทีมโรงงาน Kévin Estre, Michael Christensen และ Laurens Vanthoor

●   สีเขียว: หัวหน้าทีมออกแบบคนใหม่ของปอร์เช่ ปลดปล่อยอิสระภาพในงานดีไซน์ด้วยรถแข่ง “hippie” – ในเดือนเมษายน ปี 1969 Anatole Lapine ได้รับการว่าจ้างให้เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าทีมออกแบบคนใหม่ของปอร์เช่ เพียงหนึ่งปีหลังจากนั้น ดีไซเนอร์เชื้อสายลัตเวียได้รังสรรค์ผลศิลปะชิ้นโบว์แดงครั้งแรกในวงการมอเตอร์สปอร์ต ด้วยรถแข่งปอร์เช่ long-tail 917 ซึ่งขับขี่โดย Gérard Larrousse และ Willi Kauhsen: การทำลวดลายคลื่นสีเขียว และสีม่วงบนตัวถังรถแข่งที่มีชื่อว่า “hippie” ด้วยสีสเปรย์จำนวนประมาณ 1,500 กระป๋อง ก่อให้เกิดผลลัพธ์อันซับซ้อน ขณะที่งานสีตัวถังดังกล่าวเป็นสาเหตุของความตกตะลึง แต่ในส่วนของทีมงานบริหาร เจ้าของทีม Hans-Dieter Dechent และผู้สนับสนุนของเขา Martini & Rossi ต่างรู้สึกตื่นเต้น

●   นอกจากนั้น รถแข่งความเร็วสูง “hippie” ยังได้ฝากผลงานลือลั่นในวงการมอเตอร์สปอร์ตเอาไว้: ขณะที่ Hans Herrmann และ Richard Attwood คว้าตำแหน่งแชมเปี้ยน overall ในการแข่งขัน Le Mans ครั้งแรกให้กับปอร์เช่เมื่อปี 1970 ส่วนทางด้าน Larrousse/Kauhsen สามารถจบการแข่งขันได้ในอันดับที่สอง

●   สีฟ้า: รถแข่งปอร์เช่ Martini และสถิติที่ใกล้เคียงความเป็นอมตะ – ในปี 1970 Hans-Dieter Dechent ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกที่ Le Mans ภายใต้การสนับสนุนของแบรนด์สุราเลื่องชื่อจากอิตาลี Martini ปอร์เช่ผูกขาดชัยชนะบนโพเดี้ยมด้วยรถแข่งปอร์เช่ 917 “hippie” ขับขี่โดย Larrousse/Kauhsen และปอร์เช่ 908 ภายใต้การบังคับควบคุมของ Lins/Marko เข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่สอง และสาม ตามหลังรถแข่งเจ้าของตำแหน่งชนะเลิศจากทีม Porsche Salzburg ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เริ่มต้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา: นักแข่งชาวออสเตรีย Helmut Marko และนักแข่งชาวดัทช์ Gijs van Lennep คว้าชัยด้วยรถแข่งปอร์เช่ 917 KH ภายใต้สังกัดทีม Martini Racing โดยทั้งคู่วิ่งได้ระยะทางที่ถูกบันทึกเป็นสถิติอันน่าเหลือเชื่อในขณะนั้น

●   ระยะทางกว่า 5,335 กิโลเมตรที่พวกเขาทำได้ คือสถิติที่แทบจะเรียกว่าไม่มีวันถูกทำลาย – ใช้ระยะเวลาถึง 39 ปี จึงสามารถเอาชนะตัวเลขดังกล่าวได้เพียงหนึ่งครั้ง การลงสนามของรถแข่งปอร์เช่สีขาว สะดุดตาด้วยแถบคาดตัวถังสีฟ้า สีแดง และสีน้ำเงินเข้ม ยังคงเป็นที่ติดตาตรึงใจผู้หลงไหลความเร็วมาจนทุกวันนี้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือการนำเอาลวดลายดังกล่าวกลับมาใช้ในรถแข่งปอร์เช่ 936 ของ Jacky Ickx และ Gijs van Lennep คันที่คว้าแชมป์ overall ใน Le Mans เมื่อปี 1976 เกียรติยศแห่งความสำเร็จครั้งที่สามตามมาเพียงหนึ่งปีหลังจากนั้น: โดยเป็น Jürgen Barth, Hurley Haywood และ Jacky Ickx ที่สามารถเอาชนะได้ด้วยรถแข่งปอร์เช่ 936/77 สีตัวถัง Martini

●   สีน้ำเงินเข้ม: รถแข่งปอร์เช่ 956 และปอร์เช่ 962 ดีไซน์สไตล์ Rothmans ผู้นำแห่งยุคสมัยอันรุ่งเรือง – งานออกแบบสไตล์ Rothmans ที่มาในโทนสีน้ำเงินเข้มสลับขาว คาดทับด้วยสีแดง และสีทอง ตอกย้ำถึงความสำเร็จของปอร์เช่ในวงการกีฬาความเร็วที่ยากจะหาใครเทียบเคียง ทีมแข่งรายแรกที่เปิดตัวในฐานะพันธมิตรของกลุ่มบริษัทยาสูบสัญชาติแคนาดาสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม

●   รถแข่งปอร์เช่ 956 สามคัน เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง ในปี 1982 ผูกขาดชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดด้วยอันดับหนึ่ง สอง และสาม โดยที่คู่แข่งที่สูสีที่สุดในกลุ่มนำตามหลังถึง 30 รอบสนาม ฤดูกาลต่อมาพวกเขายังคงสามารถเก็บชัยชนะในอันดับหนึ่ง และสองมาได้ ในวงการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกขณะนั้น ปอร์เช่ Rothmans ได้พิสูจน์แล้วว่าไร้คู่เปรียบอย่างแท้จริง ต่อมาในปี 1986 และ 1987 รถแข่งปอร์เช่ 962C สานต่อความสำเร็จด้วยการวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งขันระยะยาวสุดคลาสสิกที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกได้อีกครั้ง ประมาณ 30 ปีต่อมา ปอร์เช่นำเอาสีตัวถังที่เป็นตำนานดังกล่าวกลับมาใน Le Mans เมื่อปี 2018 รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR ภายใต้งานดีไซน์สไตล์ Rothmans ทำลายสถิติความเร็วในรอบจัดอันดับรุ่น GTE รถคันดังกล่าวจบการแข่งขันด้วยอันดับที่สองของรุ่น ตามหลังรถแข่ง “Pink Pig” เพื่อนร่วมทีมมาติด ๆ

●   สีแดง: Porsche Salzburg พร้อมแรงสนับสนุนจากทีมแข่งพันธมิตร – หลังพลาดหวังอย่างฉิวเฉียดจากการชิงตำแหน่งชนะเลิศ overall ครั้งแรกมาให้ปอร์เช่ ด้วยรถแข่งปอร์เช่ 908 LH ที่ระยะห่างจากผู้นำเพียง 120 เมตร ในฤดูกาลก่อนที่จะเปิดตัวรถแข่งปอร์เช่ 917 บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตจาก Zuffenhausen ลงทุนลงแรงเพิ่มเป็นทวีคูณในฤดูกาล 1970: การเปิดหน้าเสื่อสู้แบบเต็มพิกัดเกิดขึ้นจากการส่งรถแข่งสามคันลงสนามภายใต้ทีมงานใหม่ล่าสุดของ John Wyer ร่วมด้วยรถคันอื่นจากทีม Porsche Salzburg โดยรถแข่งกลุ่มนี้มาในตัวถังสีแดง และขาว อันเป็นสีของธงชาติออสเตรีย ขณะที่ Ferry Porsche เปิดไฟเขียวอนุมัติส่งรถแข่งลงสนามในวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน 1970 น้องสาวของเขา Louise Piëch ได้เข้ามารับบทบาทการบริหารด้านธุรกิจให้กับทีม Salzburg

●   การแข่งขัน Le Mans ครั้งแรกของทีมเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างที่สุด พายุฝนรุนแรงแบบไม่ลืมหูลืมตาก่อให้เกิดอุบัติเหตุ รวมไปถึงการหมุน และลื่นไถลนับครั้งไม่ถ้วน ท้ายที่สุดเหลือรถแข่งเพียงเจ็ดคันเท่านั้นที่สามารถวิ่งจนจบการแข่งขัน จากทั้งหมด 57 คัน โดยที่หัวขบวนของผู้นำคือ: Richard “Dick” Attwood นักแข่งจากสหราชอาณาจักร และคู่หูของเขาที่ใช้ฝีมือ และความระมัดระวังในการขับอย่างเต็มพิกัด Hans Herrmann จากเยอรมนี พวกเขาแชร์ที่นั่งในห้องโดยสารของรถแข่งปอร์เช่ 917 KH หมายเลข 23 ร่วมกันนำพาถ้วยรางวัล overall จากการแข่งขัน Le Mans มาสู่มือของปอร์เช่ได้เป็นครั้งแรก ทิ้งห่างจากอันดับสองถึงห้ารอบสนาม

●   สีเหลือง: ความทรงจำแห่งเกียรติยศของปอร์เช่ และ Penske – แถบคาดสีเหลืองขอบแดงบนตัวถัง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชัยชนะในอดีตของการผสานพลังความร่วมมือระหว่างปอร์เช่ บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตจากเมืองสตุ๊ทการ์ท และ Penske ทีมแข่งรถสัญชาติอเมริกัน ในช่วงทศวรรษ 1970: สองแชมป์ที่ได้รับจากการแข่งขันรายการ CanAm series คือความประทับใจที่เกิดขึ้นจากสมรรถนะชั้นเลิศของรถแข่งปอร์เช่ RS Spyder ซึ่งประดับตกแต่งด้วยสีเหลือง และสีแดงอันเป็นสีของ DHL ผู้สนับสนุนหลักในรายการแข่งขัน American Le Mans Series (ALMS)

●   รถแข่ง prototype รุ่น LMP2 ถูกส่งลงสนามในระหว่างฤดูกาล 2006 และ 2008 คว้าชัยชนะมาได้ถึง 24 ครั้ง ซึ่งรวมถึงการเก็บคะแนนสะสมที่สูงเป็นประวัติการณ์จากการคว้าแชมป์ overall ในการแข่งขัน Sebring 12 ชั่วโมงเมื่อปี 2008 Timo Bernhard นักแข่งเมืองเบียร์ พร้อมทีมเมทชาวฝรั่งเศส Romain Dumas และ Emmanuel Collard สามารถเอาชนะได้แม้กระทั่งรถแข่งรุ่น LMP1 ที่มีพละกำลังสูงกว่า ในรายการ Le Mans รถแข่งปอร์เช่ RS Spyder คว้าแชมป์ในรุ่น LMP2 ได้ถึงสองสมัย ในฤดูกาล 2008 และ 2009         ●