July 4, 2023
Motortrivia Team (10223 articles)

Porsche จัดประชุมใหญ่ประจำปีครั้งแรก หลังการเสนอขายหุ้น IPO

ประชาสัมพันธ์

●   Porsche AG จัดประชุมใหญ่ประจำปีครั้งแรก หลังเสนอขายหุ้น IPO ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่ Porsche Arena ในเมืองสตุ๊ทการ์ท เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 สาระสำคัญคือผู้ถือหุ้น ประธานที่ปรึกษา Dr. Wolfgang Porsche และประธานกรรมการบริหาร Oliver Blume แสดงความพึงพอใจ รวมทั้งยืนยันถึงแนวทางกลยุทธ์ในปัจจุบัน และคาดการณ์ถึงอนาคต

●   Dr. Ing. h.c. F. Porsche AG ได้จัดงานประชุมใหญ่ประจำปีขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายน 2566 นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่การเสนอขายหุ้น IPO เมื่อเดือนกันยายน 2565 โดย CEO Oliver Blume ได้กล่าวกับบรรดาผู้ถือหุ้น ถึงปีงบประมาณที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทว่า

●   “ผลงานของเราแสดงให้เห็นถึงความนิยมในผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ด้วยการสร้างดุลยภาพให้แก่ตำแหน่งสินค้าในแต่ละภูมิภาค รูปแบบธุรกิจของเราจะมีความยืดหยุ่น และมีเสถียรภาพสูง แม้ในระหว่างช่วงเวลาอันวิกฤต”

●   สำหรับปีงบประมาณ 2565 คณะกรรมการบริหาร และที่ปรึกษา ตัดสินใจจ่ายเงินปันผลจำนวน 1.00 ยูโร ต่อหุ้นสามัญ และ 1.01 ยูโร ต่อหุ้นบุริมสิทธ์

●   ระหว่างการประชุมร่วมกับผู้ถือหุ้น ซึ่งจัดขึ้น ณ Porsche Arena ในเมืองสตุ๊ทการ์ท ประธานที่ปรึกษา Dr. Wolfgang Porsche กล่าวขอบคุณไปยังบุคลากรของปอร์เช่ว่า “ด้วยความทุ่มเทอย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งจิตสำนึกของความรับผิดชอบ ทุกท่านมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ความสำเร็จอีกครั้งให้แก่ Porsche AG ในปีที่ผ่านมา เฉกเช่นเดียวกันกับความสำเร็จของการออกหุ้น IPO ของบริษัทในเดือนกันยายน ปี 2565 ถึงแม้จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง และความท้าทายมากมายก็ตาม”

●   Oliver Blume เน้นย้ำถึงเจตจำนงของบริษัทในการเดินหน้าไปตามแนวทางกลยุทธ์การดำเนินงานปัจจุบันต่อไป โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยได้กล่าวว่า “ในฐานะแบรนด์หรูหราที่ทรงคุณค่าที่สุดในโลก เรายังคงเดินหน้าไปตามแนวทางกลยุทธ์ของเรา นั่นคือ ความล้ำสมัย ความสปอร์ตหรูหรา และเรากำลังกำหนดเป้าหมายที่เปี่ยมไปด้วยความท้าทาย ซึ่งมักจะถูกผลักดันจากคำถามที่เปรียบเสมือนแก่นแท้มาโดยตลอดว่า เราจะทำอย่างไร ในการสร้างสรรค์แรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นแก่ลูกค้า และแฟนพันธ์แท้รถสปอร์ตปอร์เช่ ได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต”

●   ในปีงบประมาณที่ผ่านมา Porsche AG บันทึกสถิติผลการดำเนินงานใหม่ได้ถึง 4 ประการ ได้แก่ ยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่, รายได้จากการขาย, ผลกำไรจากการดำเนินงาน และกระแสเงินสดหมุนเวียนสุทธิในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ โดยรายได้จากการขายในปี 2565 มีจำนวน 37.6 พันล้านยูโร สอดคล้องกับอัตราการเติบโตที่ 13.6 % ส่วนผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 6.8 พันล้านยูโร สูงกว่าตัวเลขเมื่อปีก่อนหน้าถึง 27.4 % ยอดส่งมอบรถยนต์ถึงมือลูกค้าทั่วโลกเพิ่มขึ้น 2.6% หรือคิดเป็นจำนวน 309,884 คัน กระแสเงินสดหมุนเวียนสุทธิในกลุ่มธุรกิจยานยนต์เติบโตขึ้น 5.2 % อยู่ที่ 3.9 พันล้านยูโร ผลตอบแทนจากการดำเนินงานขายอยู่ที่ 18.0% เพิ่มขึ้นถึง 2% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว

ยืนยันถึงอนาคตข้างหน้า

●   Oliver Blume กล่าวว่า “แม้ว่ายังคงมีสถานการณ์ท้าทายมากมายที่ต้องรับมือ แต่ Porsche AG ยังคงยืนยันถึงความเป็นไปได้สำหรับธุรกิจที่กำลังดำเนินการในปีปัจจุบัน เราคาดการณ์ว่า รายได้จากการขายจะอยู่ที่ประมาณ 40 ถึง 42 พันล้านยูโรสำหรับผลตอบแทนจากการดำเนินงานขาย คาดว่าจะอยู่ที่ 17 ถึง 19% ในกรณีที่สถานการณ์ทั่วโลก และการส่งมอบวัตถุดิบไม่มีปัญหารุนแรงไปกว่านี้ ในระยะยาวเราตั้งเป้าหมายตัวเลขผลตอบแทนจากการดำเนินงานขายมากกว่า 20% และเราจะพยายามทำให้สำเร็จ”

●   บรรดาผู้ถือหุ้นจะพึงพอใจกับผลกำไรอันยั่งยืนจากความสำเร็จของบริษัท คณะกรรมการบริหาร และที่ปรึกษา เพื่อตัดสินใจจ่ายเงินปันผลเป็นมูลค่ารวมถึง 915.5 ล้านยูโร ในปีงบประมาณ 2565 จำนวนดังกล่าวรวมไปถึงเงินปันผลส่วนเพิ่มอีกประมาณ 4.5 ล้านยูโร สำหรับหุ้นบุริมสิทธ์ ในช่วงระยะกลางของการถือหุ้น ปอร์เช่ตั้งเป้าหมายจ่ายเงินปันผลเป็นมูลค่าประมาณครึ่งหนึ่งของผลกำไรรวมทั้งหมดหลังหักภาษี

Oliver Blume

●   “เรามีความภาคภูมิใจในสิ่งนี้ เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ปอร์เช่สามารถสื่อสารไปสู่ผู้คนได้เป็นอย่างดี หลายคนรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่มีต่อปอร์เช่ พวกเขาทั้งหมดเชื่อถือ และมอบความไว้วางใจให้เรา และยังคงเป็นเช่นนั้นมาตลอด สิ่งนี้เองที่สร้างความสุขให้แก่พวกเรา” Oliver Blume กล่าว หลังจากนั้นอีก 81 วัน ในวันที่ 19 ธันวาคม 2565 บริษัทได้รับสิทธิ์ fast entry ในการเข้าร่วม German stock index (DAX)

●   Oliver Blume กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยการออกหุ้น IPO ของเราในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ความฝันของเราได้กลายเป็นความจริง สิ่งนี้ได้ส่งมอบเสรีภาพในแนวทางใหม่ รวมทั้งความยืดหยุ่นที่เหนือกว่าเดิม เรายังคงรวมเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ Volkswagen Group และนั่นคือโอกาสที่ทำให้เราได้เป็นในสิ่งที่เราอยากเป็นในวิสัยทัศน์ของเรา ซึ่งมีสถานภาพที่ยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก”

●   หุ้นบุริมสิทธ์ของ Porsche AG เริ่มต้นการซื้อขายในตลาดหุ้น Frankfurt Stock Exchange (Prime Standard) เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา นี่คือการเสนอขายหุ้น IPO ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปยุโรป เมื่อพิจารณาจากมูลค่าตามราคาตลาด ก่อนหน้าที่จะมีการขายหุ้น IPO นักลงทุนอิสระมากกว่า 170,000 รายได้ตัดสินใจซื้อหุ้นของ Porsche AG โดยมีจำนวนน้อยกว่าครึ่งของนักลงทุนเหล่านี้ที่ซื้อเป็นจำนวนระหว่าง 1 และ 40 หุ้น ดังนั้นมูลค่าการลงทุนต่อคนจึงอยู่ประมาณ 3,300 ยูโร

Sajjad Khan เข้าร่วมคณะกรรมการบริหาร ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566

●   ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 Sajjad Khan จะเริ่มปฎิบัติงานในตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงาน new Car IT unit ปัจจุบัน Khan มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะผู้ชำนาญการพัฒนาระบบ intelligent software ในยานยนต์ เขามีสัญชาติปากีสถาน และได้รับสถานะพลเมืองของประเทศเยอรมนี

●   Khan เคยทำงานใน divisional board ของ Mercedes-Benz Cars จนกระทั่งเดือนสิงหาคม ปี 2564 ด้วยตำแหน่ง Chief Technology Officer เขารับผิดชอบการพัฒนาระบบติดต่อสื่อสาร, ระบบขับขี่อัตโนมัติ, ระบบ Shared & Services And Electric (CASE) โดยก่อนหน้านั้น เขาเคยทำงานอยู่กับ BMW Group ที่ซึ่งเขาพาองค์กรก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการด้วยตำแหน่งรองประธานกรรมการ

●   Oliver Blume กล่าวว่า “เราทั้งหมดมีความยินดีที่จะได้ต้อนรับผู้เชี่ยวชาญอันมีชื่อเสียง และมากด้วยประสบการณ์ ด้วยการร่วมงานกัน เราจะประยุกต์ใช้กลยุทธ์ Car IT strategy เพื่อขับเคลื่อน และมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของลูกค้า”

เกี่ยวกับปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป

●   ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป ผู้นำเข้ารถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ โดยได้รับการแต่งตั้งจากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่ปี 2536 ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย

●   เอเอเอส กรุ๊ปฯ ทุ่มงบการอบรมบุคลากรให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

●   ปัจจุบัน ปอร์เช่ ประเทศไทย มีโชว์รูมและศูนย์บริการเปิดให้บริการ 4 แห่ง คือ Porsche Centre Bangkok , Porsche Centre Pattanakarn, Porsche Studio Siam Paragon ชั้น 2 ,Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 และขยายเพิ่มอีก 3 แห่งในอนาคตอันใกล้ ได้แก่ ศูนย์ปอร์เช่ กัลปพฤกษ์, ศูนย์ปอร์เช่ บางนา และศูนย์ปอร์เช่ พัทยา         ●