All New Toyota Innova Zenix 2.0 HEV ไฮบริดเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ภายในกว้าง ออฟชั่นแน่น

1.7Kviews

ภาพ – วีดิโอ : นาธัส แสงสุริยะ

● โตโยต้ารุกตลาดรถยนต์เอนกประสงค์ครั้งใหม่ ด้วยรถรุ่นใหม่โมเดลเชนจ์ Toyota Innova Zenix 2.0 HEV มาพร้อมแพล็ตฟอร์มใหม่ TNGA แบบโมโนค๊อก ขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ไฮบริด 186 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense รุ่นใหม่ล่าสุด DSS 3 เด่นด้วยเบาะแถว 2 แบบ Captain Seat ปรับไฟฟ้า แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย Premium และ Smart เน้น 4 จุดเด่น คือ แพลทฟอร์มใหม่ เปลี่ยนเลย์เอาท์ช่วงล่างใหม่ ให้ความนุ่มนวล, เครื่องยนต์เบนซินพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า แรงและประหยัด, ปรับปรุงระบบ Toyota Safety Sense เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดมีความปลอดภัยมากขึ้น และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันและคุ้มค่า

ความแตกต่างของ 2 รุ่นย่อย

● อุปกรณ์ที่รุ่น Premium มีเพิ่มเติมจากรุ่น Smart ประกอบด้วย หลังคา Panoramic Roof, ระบบกล้องมองรอบคัน 360 องศา โดยรุ่น Smart ไม่มีกล้องที่กระจังหน้า และที่กระจกมองข้าง และไม่มีปุ่มเปิด-ปิดกล้องในห้องโดยสาร, ภายในของรุ่น Premium ตกแต่งด้วยสีทูโทน น้ำตาล Dark Chestnut/ดำ, เบาะ Captain Seat ของรุ่น Premium ปรับเอนและปรับรองน่องด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนรุ่น Smart ปรับมือ และไม่มีรองน่อง, รุ่น Premium พวงมาลัยมี Paddle Shift และกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ

ภายนอกเรียบง่ายลงตัว

● Innova Zenix ทั้ง 2 รุ่นย่อย ใช้ไฟหน้า ไฟตัดหมอก และไฟท้าย LED กระจังหน้าทรงคล้ายรุ่น Tahoma ไฟเลี้ยวแยกลงมาอยู่ด้านล่าง ส่วนสปอตไลต์อยู่ขอบล่างของกันชน ด้านข้างมีเส้นสายที่เพิ่มความโฉบเฉี่ยวที่บริเวณซุ้มล้อหลัง ต่อเนื่องไปถึงชุดไฟท้าย ล้อแม็ก 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50/18 ส่วนด้านท้ายให้ความรู้สึกแบนกว้างมั่นคงด้วยชุดไฟท้ายทรงเฉี่ยว และชุดตกแต่งกันชนด้านล่าง มีสปอตไลต์ตรงกลางกันชน ด้านบนมีเสาอากาศแบบครีบฉลาม และสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3

● ประตูท้ายแบบไฟฟ้า เปิด-ปิดได้จากสวิตช์ในรถ รีโมทคอนโทรล หรือสวิตช์ที่บานประตู มีระบบ Kick Activated เตะเปิดแบบ Hand Free ซึ่งสามารถปิดระบบนี้ได้ด้วยสวิตช์ในห้องโดยสาร มิติตัวรถมีความยาว 4,760 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร สูง 1,790 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,550/1,571 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 160 มิลลิเมตร

7 ที่นั่งพร้อม Captain Seat

● ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวางตามขนาดรถ คอนโซลหน้าไม่ยื่นยาวกินพื้นที่ภายในมากนัก มีที่วางแก้วน้ำทั้งฝั่งผู้ขับและผู้โดยสาร เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าปรับระดับได้ มาตรวัดเป็นแบบดิจิตอล TFT ขนาด 7 นิ้ว แสดงผลได้หลากหลายรวมทั้งใช้ปรับตั้งระบบต่างๆ ของรถผ่านปุ่มบนพวงมาลัยฝั่งซ้าย ส่วนปุ่มบนพวงมาลัยฝั่งขวาใช้ควบคุมระบบครูสคอนโทรลที่เป็นแบบ Dynamic Radar All-speed และระบบความปลอดภัยหลักๆ ถัดลงมาเป็นช่อง USB-A และ USB-C ที่วางแก้วน้ำ 2 ช่อง และที่ใส่ของพร้อมฝาเปิดแบบเปิดออกด้านข้าง เป็นที่เท้าแขนกลางเบาะหน้าในตัว

● จอกลางระบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว มี T-Connect รองรับ Apple CarPlay ไร้สาย และ Android Auto ผ่าน USB-A และใช้แสดงผลกล้อง 360 องศาในรุ่น Premium และแสดงผลกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะในรุ่น Smart ด้านล่างของจอมีปุ่มสั่งงานสำหรับระบบที่ใช้บ่อย ระบบปรับอากาศแบบ Auto พร้อมจอแสดงสถานะ ใต้จอมีปุ่มลัดกดสั่งงานฟังก์ชั่นหลักของแอร์ คอนโซลเกียร์ค่อนข้างตั้งชันสไตล์ MPV เพิ่มพื้นที่ใช้สอย เป็นศูนย์รวมสวิตช์ต่างๆ เช่น เบรกมือไฟฟ้า, Auto Brake Hold, Drive Mode, EV Mode และเปิด-ปิดระบบป้องกันการลื่นไถล คอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสารมีช่องวางของจุกจิก และมีช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์

● ทั้ง 2 รุ่นย่อยเป็นแบบ 7 ที่นั่ง 2+2+3 โดยมีจุดเด่นที่เบาะแถว 2 แบบแยกหรือ Captain Seat โดยรุ่นสูงสุด Premium เบาะแถว 2 จะปรับเอนด้วยไฟฟ้า และมีที่รองน่องปรับด้วยไฟฟ้า ส่วนรุ่น Smart เป็นแบบปรับมือล้วนๆ และไม่มีที่รองน่อง เบาะแต่ละฝั่งจะมีที่เท้าแขนส่วนตัว ตรงกลางมีที่วางแก้วแบบพับเก็บได้ อีกจุดเด่นของรุ่น Premium คือ Panoramic Roof หลังคากระจก 2 ตอนพร้อมม่านไฟฟ้า และหลังคากระจกครึ่งหน้าเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

● เบาะแถว 3 ปรับเอนได้ และแยกพับได้แบบ 50:50 เมื่อพับแล้วจะราบลงเป็นระดับเดียวกับพื้นห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย ซึ่งมีฝาปิดแยกเก็บสัมภาระเป็นสัดส่วนได้ มีที่วางแก้วน้ำและช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์ เบาะแถว 3 นั่งได้จริงเพราะติดตั้งแบตเตอรี่ไฮบริดไว้ใต้เบาะคู่หน้าส่วนยางอะไหล่จะอยู่ใต้ท้องรถด้านหลัง เบาะแถว 2 มีช่อง USB-C 2 ตำแหน่ง รวมทั้งคันมี USB 4 ตำแหน่ง Type C และ Type A อย่างละ 2 และมีสวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศแยกจากด้านหน้า กระจายความเย็นอย่างทั่วถึงด้วยช่องแอร์บนเพดานที่ตำแหน่งเบาะแถว 2 และ 3

ครบครันเรื่องความปลอดภัย

● Innova Zenix อัพเกรดระบบความปลอดภัยToyota Safety Sense เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ขยายการตรวจจับของกล้องหน้ารถ ตรวจจับได้ทั้งจักรยานยนต์ รถยนต์ และคนเดินถนน มีระบบความปลอดภัยก่อนการชน PSC, ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ DRCC พร้อมระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LTA และระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB รุ่น Premium มีระบบกล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor มีระบบเตือนจุดบอดด้านข้าง BSM และ RCTA ช่วยเตือนเมื่อมีสิ่งกีดขวางขณะถอยหลัง พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ 8 ตำแหน่ง ภายในห้องโดยสารมีแอร์แบ็ก 6 ใบ

ขุมพลังไฮบริด แรงขึ้น ประหยัดขึ้น

● Innova Zenix ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดที่ใช้ในเล็กซัส และพัฒนาต่อยอดมาเพื่อใช้กับรถรุ่นนี้ โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส M20A-FXS แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ความจุ 1,987 ซีซี อัตราส่วนการอัด 14.0:1 กำลังสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด188 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400-5,200 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 83 กิโลวัตต์ แรงบิด 206 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่นิเกิล เมทัล ไฮดราย 28 โมดูล 168 เซลส์ ความจุ 1.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง พอๆ กับโตโยต้า ครอส ไฮบริด ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 186 แรงม้า เกียร์ E-CVT เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 9.7 วินาที ประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นเดิม 21.3 เปอร์เซ็นต์

เปลี่ยนโครงสร้างและช่วงล่างเพื่อความนุ่มนวล

● Innova Zenix ใช้โครงสร้างโมโนค๊อกแบบ TNGA-GA-C เพิ่มความนุ่มนวลในการขับ เปลี่ยนระบบกันสะเทือนใหม่ ด้านหน้าจากรุ่นเดิม ดับเบิลวิชโบนเป็นแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังรุ่นเดิมคานแข็งโฟร์ลิงค์ ในรุ่นนี้เปลี่ยนเป็นทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ใช้ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อม ABS และ EBD

● คล่องตัวด้วยระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS แทนรุ่นเดิมที่เป็นแบบไฮดรอลิก ขับง่ายแม่นยำในความเร็วต่ำ ใช้ยางใหญ่ขึ้นจากเดิม 215/55/17 เป็น 225/50/18 เพิ่มการยึดเกาะถนน มาพร้อมตัวช่วยครบครันทั้งระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC

Innova Zenix Smart ราคา 1,379,000 บาท
Innova Zenix Premium ราคา 1,479,000 บาท

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.toyota.co.th หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ : facebook.com/toyotamotor.th หรืออี-เมล : [email protected] หรือติดต่อ Toyota Customer Contact Center โทร : 1486 หรือแอด LINE ID : @toyotathailand ●