GWM เปิดราคาจำหน่าย TANK 300 และ TANK 500 ในไทย

1.9Kviews

ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่

● หลังจากปล่อยข้อมูลอย่างต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง ในที่สุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทยก็เปิดราคาจำหน่ายออฟ-โรด SUV 2 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดย TANK 300 HEV รถ SUV ขนาดกลาง ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,649,000 บาท ส่วนพี่ใหญ่ TANK 500 HEV รถ SUV ขนาดฟูลไซส์ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,049,000 บาท

● ใครสนใจ เกรท วอลล์ ประเทศไทย เปิดให้จองทั้ง 2 รุ่นแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (28 กันยายน 2566 เวลา 18.00 น.) ผ่านทางเว็บไซท์ www.gwm.co.th หรือ GWM application ส่วนกำหนดการส่งมอบรถนั้น เกรท วอลล์ จะเริ่มทยอยส่งมอบได้ภายในช่วงเดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธาน ฝ่ายการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียน

● นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ อาเซียน กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ยนตรกรรมเอสยูวีออฟโรดพรีเมียมระดับโลกภายใต้ GWM TANK ที่สะท้อนถึงนวัตกรรมหลากหลายมิติของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ขับเคลื่อนด้วยมุมมองระดับโลก ข้อมูลเชิงลึกทางตลาด เอสยูวีออฟโรดระดับไฮเอนด์ และเสียงตอบรับของผู้ใช้ เราได้คิดค้นเทคโนโลยีออฟโรดที่น่าตื่นเต้นในรูปแบบของรถยนต์พลังงานใหม่ บนแพลตฟอร์ม TANK โดยเป้าหมายของเราคือการสร้างไลฟ์สไตล์การขับขี่ออฟโรดที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ ความทรงพลัง และความสะดวกสบาย”

● “GWM TANK ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในประเทศจีนและทั่วโลก เรามียอดขายสะสมมากกว่า 300,000 คัน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 60% ของตลาดรถยนต์ออฟโรดในประเทศจีน ในวันนี้ เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดตัวรถยนต์ใหม่ทั้ง 2 รุ่น ในตลาดประเทศไทย ผมเชื่อว่า รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ จะมาสร้างปรากฏการณ์และความตื่นเต้นให้กับเซ็กเมนต์รถยนต์เอสยูวีออฟโรดพลังงานใหม่ในประเทศไทยและตอบโจทย์ผู้บริโภคเจนเนอเรชันใหม่ที่มองหาดุลยภาพระหว่างการผจญภัยแบบออฟโรดและการเดินทางในเมืองได้อย่างแน่นอน”

2023 TANK 300 HEV

TANK 300 Pro ราคา 1,649,000 บาท
TANK 300 Ultra ราคา 1,799,000 บาท

● TANK 300 มากับงานออกแบบในสไตล์ SUV ทรงกล่องแบบดั้งเดิม โดยรวมดูดีและทันยุคสมัยกว่า TANK 500 รวมทั้งให้ความรู้สึกถึงความเป็นรถออฟ-โรดมากกว่า ตัวรถมีความยาว 4,760 มม. กว้าง 1,930 มม. สูง 1,903 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. พื้นที่บรรทุกสัมภาระสูงสุด 1,635 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่ 2

● อุปกรณ์มาตรฐานมีชุดไฟหน้า Intelligent LED, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ฟังก์ชัน Follow me home หน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง, ไฟตัดหมอก LED, ไฟท้าย Vertical LED, ไฟเบรคดวงที่ 3, ซันรูฟเปิด – ปิดด้วยไฟฟ้า, เสาอากาศแบบ shark fin และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว จับคู่ยาง Continental Horse AT ขนาด 265/65

● ห้องโดยสารมีมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว, จอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการอัพเกรดเฟิร์มแวร์แบบ FOTA, รองรับการสั่งงานด้วยเสียง หรือผ่าน GWM Application, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple CarPlay, พวงมาลัยไฟฟ้าพร้อม Paddle Shift, นาฬิกาแบบเข็มสไตล์คลาสสิคบนแผงแดชบอร์ด, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย – ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5, เบาะหุ้มหนัง NAPPA, ชุดลำโพง Infinity 8 ตำแหน่งพร้อมซับวูฟเฟอร์ และชุดไฟ Ambient Light

Mr. Gerhard Henning, Transmission Executive Chief Engineer, HYCET

● เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า, ฝั่งผู้ขับปรับ 8 ทิศทาง พร้อมระบบนวด – ดันหลัง – Memory Seat และ Welcome Seat, ฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, เบาะแถว 2 พนักพิงปรับ 2 ระดับ แยกพับได้แบบ 60:40 สะดวกด้วยปุ่ม Push Start, กุญแจ Smart Key, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, พอร์ท USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า – หลัง และสำหรับกล้องบันทึกภาพ และช่องจ่ายไฟสำรอง 220V แบบพร้อมเต้ารับสายไฟ

● TANK 300 ใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Electronic Shifter 9 จังหวะ เฉพาะเครื่องยนต์กำลังสูงสุด 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 38.7 กก.-ม. มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 27.3 กก.-ม. โหมดในการขับเลือกได้ 7 แบบระหว่าง Standard, Sport, Economy, Snow, Mud, Sand หรือ 4L

● ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอิสระ ดับเบิล ครอส อาร์ม, ด้านหลังแบบมัลติลิงก์, ระบบเบรคเป็นแบบดิสค์เบรคพร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ ส่วนชุดระบบออฟ-โรดมี ระบบ Electric Differential Lock ช่วยล็อคเฟืองขับหน้า – หลังแบบไฟฟ้า, ระบบ TANK Turn ช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ, ระบบ Off-road Cruise Control ช่วยควบคุมความเร็วแบบคงที่ โดยระบบจะควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และระบบเบรคให้อัตโนมัติ ขณะใช้ความเร็วต่ำบนเส้นทางขรุขระ ปิดท้ายด้วยระบบ Body Transparent แสดงภาพจำลองใต้ท้องรถ ตัวระบบจะจดจำข้อมูลของพื้นที่รอบเส้นทางการขับด้วยกล้องรอบตัวรถ และสร้างภาพเสมือนแบบ 360 องศาจากมุมมองด้านบนของตัวรถในลักษณะโปร่งใส ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นผิวเส้นทางด้านล่าง และแสดงภาพด้านหน้าของรถ ทำให้ผู้ขับประเมินสถานการณ์ใต้ท้องรถได้ดียิ่งขึ้น

● ชุดระบบช่วยขับมีระบบ Intelligent Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ, กล้องติดรถ ADAS ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วตามพิกัดที่กำหนด รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า, ระบบ Traffic Jam Assist ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำขณะการจราจรเคลื่อนตัวช้า, ระบบ Auto emergency braking + Intersection (AEBI) ช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติบริเวณทางตรงและทางแยก

● ต่อด้วยระบบ Lane Keeping Assistance ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Emergency Lane Keeping (ELK) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนขณะฉุกเฉิน, ระบบ Lane Departure Warning ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบ Wisdom Dodge System (WDS) ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง, ระบบ Secondary Collision Mitigation (SCM) ช่วยชะลอความรุนแรงหากเกิดการชนซ้ำ

● นอกจากนี้ยังมี ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางชัน, ระบบ Hill Descent Control ช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน, กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, ระบบ Integration Intelligent Parking (IIP) ช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ, ระบบ Auto Reversing Assistance (ARA) จดจำเส้นทางเพื่อช่วยถอยหลังอัตโนมัติในระยะ 50 เมตร, ระบบ Rear Cross Traffic Braking ช่วยเตือนและเบรคเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบ Door Open Warning (DOW) ช่วยเตือนการเปิดประตู และระบบ Tire Pressure Monitoring System ตรวจแรงดันลมยางอัตโนมัติ

2023 TANK 500 HEV

TANK 500 Pro ราคา 2,049,000 บาท
TANK 500 Ultra ราคา 2,269]000 บาท

● TANK 500 เป็นรถ SUV ฟูลไซส์ที่มีขนาดความยาวอยู่ที่ 5,078 มม. กว้าง 1,934 มม. สูง 1,905 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ชุดระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอิสระ ดับเบิล ครอส อาร์ม ด้านหลังเป็นแบบอิสระ มัลติลิงค์ และมีระบบล็อคเฟืองขับทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบไฟฟ้า (Electric Differential Lock for front and rear axles)

● อุปกรณ์มาตรฐานมีชุดไฟหน้า Intelligent LED, ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูง/ต่ำอัตโนมัติ, ฟังก์ชัน Follow Me Home หน่วงเวลาปิดไฟหลังดับเครื่อง, ไฟ Daytime Running Light, ไฟตัดหมอกหน้า/หลัง LED, ไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3, หลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟไฟฟ้า, ราวหลังคา, เสาอากาศแบบ Shark Fin, บันไดข้างเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้า และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว จับคู่ยางขนาด 265/50

● อุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสารมีจอ Head-up display} มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอทัชสกรีนส่วนกลางขนาด 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Android Auto หรือ Apple CarPlay, ระบบนำทาง, กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, พวงมาลัยมิลติฟังก์ชั่นปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, Paddle Shift, ชุดเกียร์ Electronic Shifter, ฟังก์ชั่น Push Start, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบกรองอากาศ PM2.5

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย)

● นอกจากนี้ ชุดระบบอินโฟเทนเมนท์ยังรองการอัพเดทเฟิร์มแวร์แบบ FOTA, การสั่งงานด้วยเสียง, การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถผ่านแอพฯ GWM Application ซึ่งรองรับการสั่งงานระยะไกล เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ, ควบคุมระบบระบายความร้อนของเบาะ, ล็อค/ปลดล็อคประตู, ปิดหน้าต่าง, ปิดซันรูฟ, ค้นหา/แสดงตำแหน่งรถ, กำหนดรัศมีการใช้งานรถ และการตรวจสอบสถานะต่างๆ

● เติมความหรูนาฬิกาแบบเข็มบนคอนโซลกลาง, ชุดไฟแอมเบียนท์ทำงานแบบไดนามิค ปรับได้หลายโทนสี, ชุดลำโพง 12 ตำแหน่งแบรนด์ Infinity พร้อมแอมป์พลิไฟเออร์ และฟังก์ชั่นปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ, ระบบเปิดประตู/ล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้หรือออกห่างจากรถ และระบบกุญแจ Smart Key

● เบาะหุ้มหนัง Nappa พร้อมระบบระบายอากาศ, เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า, เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อม Memory Seat และ Welcome Seat, เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, ระบบนวดและระบบดันหลังควบคุมด้วยไฟฟ้า, ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า, ผู้โดยสารแถว 2 มีจอควบคุมระบบระบายอากาศ และเบาะระบายอากาศ, เบาะแถว 3 มีพนักพิงปรับไฟฟ้า พร้อมตำแหน่งปรับพนักพิงบริเวณข้างประตูผู้โดยสารแถว 2 และประตูท้าย, เบาะแถว 2 แยกพับได้แบบ 60:40 ส่วนเบาะแถว 3 สามารถพับเรียบไปกับพื้นห้องบรรทุกสัมภาระ

● ระบบขับเคลื่อนไฮบริด ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์เบอร์ชาร์จแบบแปรผัน 244 แรงม้า จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 106 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9HAT เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคความจุ 1.76 กิโลวัทท์-ชม. กำลังรวมทั้งระบบผลิตได้ประมาณ 350 แรงม้า โหมดในการขับเลือกได้ 11 รูปแบบตามแต่ละสถานการณ์ในการขับ ประกอบด้วย Standard, Sport, Economy, Auto ต่อด้วยโหมดออฟ-โรด ได้แก่ Mud, Sand, Rock, 4H, 4L, Snow และ Expert

● นอกจากนี้ยังมีชุดระบบช่วยขับแบบออฟ-โรด อาทิ ระบบ TANK Turn ช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ ทำงานเมื่อตรวจพบลักษณะการบังคับเลี้ยวที่มากเกินไป ตัวระบบจะส่งแรงเบรคไปที่ล้อหลังด้านในเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว, ระบบ Off-road Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติขณะใช้เส้นทางกันดาร ชุดระบบจะควบคุมเครื่องยนต์และระบบเบรคโดยอัตโนมัติ เพื่อให้รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำด้วยความเร็วคงที่ ช่วยให้ผู้ขับไม่เสียสมาธิ, ระบบ Wading Depth Detection ตรวจวัดระดับความลึกของน้ำ และแสดงผลของระดับน้ำบนหน้าจอกลาง ช่วยให้ผู้ขับประเมินสถานการณ์ในที่ที่มีน้ำท่วมขังได้ดีขึ้น

● ปิดท้ายด้วยระบบ Body Transparent แสดงภาพใต้ท้องรถในขณะขับแบบออฟ-โรด ตัวระบบจะจดจำข้อมูลของพื้นที่รอบเส้นทางการขับด้วยกล้องรอบตัวรถ และสร้างภาพเสมือนแบบ 360 องศาจากมุมมองด้านบนของตัวรถในลักษณะโปร่งใส ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นผิวเส้นทางด้านล่าง และแสดงภาพด้านหน้าของรถ ทำให้ผู้ขับประเมินสถานการณ์ใต้ท้องรถได้ดียิ่งขึ้น

● ชุดระบบช่วยขับในกลุ่ม ADAS มี ระบบ Intelligent Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ, ระบบ Traffic Jam Assist ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำขณะการจราจรเคลื่อนตัวช้า, ระบบ Auto emergency braking + Intersection (AEBI) ช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติบริเวณทางตรงและทางแยก, ระบบ Maneuver Emergency Brake (MEB) ช่วยเบรคฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ, ระบบ Secondary Collision Mitigation (SCM) ช่วยชะลอความรุนแรงหากเกิดการชนซ้ำ

● ระบบ Lane Change Assistant ช่วยเตือนในขณะเปลี่ยนเลน, ระบบ Lane Keeping Assistance ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Lane Departure Warning ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบ Lane Center Keeping ช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน, ระบบ Emergency Lane Keeping (ELK) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนขณะฉุกเฉิน, ระบบ Wisdom Dodge System (WDS) ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง

● ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางชัน, ระบบ Hill Descent Control ช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบ Auto Reversing Assistance (ARA) จดจำเส้นทางเพื่อช่วยถอยหลังอัตโนมัติ, ระบบ Rear cross traffic alert และ Rear Cross Traffic Braking ช่วยเตือนและเบรคเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบ Integration Intelligent Parking (IIP) ช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ, ระบบ Door Open Warning (DOW) ช่วยเตือนการเปิดประตู และระบบ Tire Pressure Monitoring System ตรวจแรงดันลมยางอัตโนมัติ

ข้อเสนอพิเศษ

● TANK 300 และ TANK 500 มาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และการับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ส่วนข้อเสนอพิเศษมีอาทิ ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษาตามระยะทาง GWM Pro Service Inclusive (GPSI) สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ตลอด 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี ฟรี บริการระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเทอร์เน็ต* (Telematic Service) พร้อมแพคเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 3 ปี รวมถึงสิทธิพิเศษกับการเป็นส่วนหนึ่งของ GWM TANK Club และกิจกรรมพิเศษมากมาย

● ที่สั่งซื้อ Value Pack ของ TANK 500 ไว้ในช่วง Pre-sale จะได้รับส่วนลดเงินสดมูลค่า 50,000 บาท และแพคเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถระยะเวลา 3 ปี โดยจะต้องวางเงินจองภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2566 เวลา 17.59 น. หรือภายใน 1 เดือนหลังจากการประกาศราคา มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ Value Pack

● ผู้ที่จองสิทธิ Pre-sale จะได้สิทธิพิเศษรับรถก่อนผู้ที่จะเริ่มจองเข้ามาตามปกติ โดยผู้ที่จองสิทธิ์ Pre-sale จะต้องชำระเงินมัดจำภายใน 24 ชั่วโมงนับจากการเริ่มเปิดจอง หรือถึงเวลา 17.59 น. ของวันที่ 29 กันยายน 2566 เท่านั้น หลังจากนั้นลำดับการส่งมอบรถจะเป็นไปตามปกติ ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินจองสำเร็จ

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ เว็บไซท์ www.gwm.co.th หรือ Facebook : GWM Thailand หรือ LINE Official : GWM Thailand หรือ YouTube : GWM Thailand หรือ TikTok : GWM Thailand ●