September 29, 2023
Motortrivia Team (10236 articles)

Honda Accord e:HEV เตรียมเปิดตัวในไทย 17 ตุลาคม 2566

motortrivia

●   ฮอนด้า ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวซีดานกลางพลังไฮบริดรุ่นสำคัญ Honda Accord e:HEV (Accord เจเนอเรชันที่ 11) โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนจองรถล่วงหน้าระหว่างวันที่ 1 – 16 ตุลาคม 2566 ที่จะถึงนี้ และจะจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศราคาในวันที่ 17 ตุลาคม 2566 เบื้องต้นการจำหน่ายจะแยกเป็น 3 เกรดรุ่นย่อย ประกอบด้วย e:HEV E, e:HEV EL และรุ่นท๊อป e:HEV RS ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 1.53 ล้านบาท

●   ทั้งนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิ์ล่วงหน้าระหว่างวันที่ 1 – 16 ตุลาคม 2566 ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ รับฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท (เมื่อจองและรับรถภายในระยะเวลาที่บริษัทฯ กำหนด)

●   Honda Accord e:HEV มากับกระจังหน้าใหม่แบบสปอร์ต, ชุดไฟหน้า LED พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟวิ่งกลางวัน LED, ไฟท้าย LED, กระจกมองข้างปรับ/พับไฟฟ้า, กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับระดับอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS), เสาอากาศครีบฉลาม, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีเงินในรุ่น e:HEV E และขนาด 18 นิ้วลายสปอร์ตสีดำในรุ่น e:HEV EL

●   รุ่นท๊อป e:HEV RS ตกแต่งแบบเฉพาะรุ่นด้วยตราสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า และด้านท้าย, ช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน, หลังคาพาโนรามาซันรูฟไฟฟ้าแบบใหม่, เสาอากาศครีบฉลามสีดำ, ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential, กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต, ไฟส่องมือเปิดประตูด้านนอก, ปอยเลอร์หลังสีดำแบบสปอร์ต และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วสีดำด้าน ห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano Black

●   รุ่นพื้นฐานห้องโดยสารยกระดับอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ด้วยการติดตั้งปุ่มโรตารี่แบบเดี่ยวบนคอนโซลกลาง Experience Selection Dial เป็นครั้งแรก ผู้ขับสารถหมุนเพื่อเลือกควบคุมและบันทึกฟังก์ชันการทำงานงานต่างๆ ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นระบบปรับอากาศ, เครื่องเสียง หรือชุดไฟแอมเบียนท์ เป็นต้น โดยจะแสดงผลบนจอทัชสกรีนส่วนกลางบนคอนโซล

●   อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ประกอบด้วย จอ Head-up Display, มาตรวัด TFT ขนาด 10.2 นิ้ว แบบ Full Graphic LCD, จอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้วแบบ Advanced Touch สามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้สูงสุด 8 แบบ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple CarPlay แบบไร้สาย รวมถึงรองรับระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Android Auto หรือ Siri และเป็นครั้งแรกที่ระบบอินโฟเทนเมนท์ของฮอนด้าจะรองรับการอัพเดทซอฟท์แวร์แบบ Over-The-Air (OTA) และสามารถอัพเดตการทำงานของ ECU จากทางไกลได้โดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ

●   และครั้งนี้จะนับเป็นครั้งแรกที่ Accord จะติดตั้ง Google built-in มาจากโรงงาน ช่วยให้ผู้ขับสามารถใช้งานแอพฯ อย่าง Google Assistant, Google Maps และอื่นๆ จาก Google Play ได้ง่ายขึ้น

●   ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT พร้อมเทคโนโลยี Digital Key เป็นครั้งแรก, ติดตั้งไฟ Multi-color Ambient Light เป็นครั้งแรกใน Accord (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS), ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ระบบฟอกอากาศ Plasmacluster (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS), พอร์ท USB type C 4 ตำแหน่ง ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง, ชุดเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง, ระบบ Honda Smart Key System ควบคุมประตูอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key Card (รุ่น e:HEV RS)

●   เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง สะดวกด้วยระบบบันทึกตำแหน่งเบาะฝั่งผู้ขับ พร้อมฟังก์ชั่นปรับเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ, เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะผู้โดยสารตอนหน้า (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง

●   ชุดระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงตรง ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ออกแบบให้ควบรวมกับระบบเกียร์ E-CVT โดยมอเตอร์ตัวแรก (Motor Generator) จะทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า ส่วนมอเตอร์ตัวที่ 2 (Motor Drive) จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ กำลังสูงสุดยังไม่ระบุ แรงบิดสูงสุด 34.1 กก.-ม. เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคชนิด ลิเธียม-ไอออน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประมาณ 25 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียประมาณ 96 กรัม/กม.

●   ชุดระบบ e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับ (Intelligent Multi-mode drive) และสามารถเลือกโหมดในการขับได้ 3 โหมด ประกอบด้วย (1) EV Drive Mode : การขับด้วยโหมดไฟฟ้าล้วน (2) Hybrid Drive Mode : การขับด้วยโหมดไฮบริด และ (3) Engine Drive Mode : การขับด้วยโหมดเครื่องยนต์… นอกจากนี้ยังมีระบบ Regeneration สำหรับช่วยชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรี่ขณะลดความเร็ว

●   อีกหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ EV Switch ซึ่งเป็นสวิทช์ควบคุมโหมดการขับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ช่วยให้ผู้ขับสามารถใช้งานโหมดไฟฟ้าล้วนได้ โดยมีการเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกใน Accord โหมดนี้จะช่วยชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมัน และยังมีการพัฒนาแรงขับเคลื่อนของโหมด EV ในช่วงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ด้วย ซึ่งเหมาะกับการวิ่งในย่านชุมชน ยืดระยะของการวิ่งด้วยโหมด EV ให้นานขึ้น

●   สำหรับสวิทช์ฟังก์ชัน Drive Mode ผู้ขับสามารถเลือกรูปแบบการขับได้ตามต้องการผ่านปุ่มกดที่ติดตั้งบริเวณด้านล่างของคันเกียร์ ได้แก่ Normal Mode, Sport Mode, Econ Mode และโหมดใหม่ Individual Mode สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบส่งกำลัง, พวงมาลัย, ระบบ Adaptive cruise control และสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระ

●   ชุดระบบความปลอดภัย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ใช้กล้องมุมกว้างด้านหน้าและเรดาร์ในการตรวจจับรถยนต์, จักรยานยนต์, จักรยาน และคนเดินถนน โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ มีอาทิ ระบบ Auto High-Beam ปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบ Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow (ACC with LSF) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ และระบบ Lead Car Departure Notification System (LCDN) ช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรกใน Accord

●   ระบบ Collision Mitigation Braking System ช่วยเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรค, ระบบ Lane Keeping Assist System ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบ Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning (RDM with LDW) ช่วยเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบ Honda LaneWatch แสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน

●   นอกจากนี้ยังมีระบบใหม่อย่าง Motion Management System (MMS) เพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับ, ฟังก์ชั่น Active Cornering Light ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (เฉพาะรุ่น e:HEV RS), ระบบ Deceleration Paddle Selectors ที่พวงมาลัย ช่วยชะลอความเร็วรถ, ระบบ Active Noise Control (ANC) ควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร

●   กล้องมองภาพรอบทิศทาง Multi-view Camera System (MVCS ในรุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS), เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS), ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า, ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง (ใหม่), ฟังก์ชั่น Rear Seat Reminder ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง และถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า, ม่านถุงลมด้านข้าง และถุงลมหัวเข่าคู่หน้า (ใหม่)

●   พิเศษ รุ่น e:HEV RS จะมากับระบบ Adaptive Driving Beam เป็นครั้งแรก ตัวระบบจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนโดยปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน ปิดท้ายด้วยระบบใหม่ Road noise ANC ใช้เซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน

ราคาจำหน่าย (โดยประมาณ)

●   Honda Accord e:HEV ใหม่เลือกสีภายนอกได้ 4 สีระหว่าง ขาวแพลทินัม (มุก), เงินลูนาร์ (เมทัลลิก), เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) หรือดำคริสตัล (มุก) ห้องโดยสารตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ ส่วนรุ่น e:HEV RS จะพิเศษกว่าด้วยสีดำพร้อมตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบเฉพาะรุ่น

  • e:HEV E ราคาไม่เกิน 1,530,000 บาท
  • e:HEV EL ราคาไม่เกิน 1,670,000 บาท
  • e:HEV RS ราคาไม่เกิน 1,800,000 บาท

●   ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี, รับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง, บริการหลังการขายโดยทีมงาน e:HEV Expert ซึ่งฮอนด้าการันตีว่าเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฮบริด e:HEV โดยเฉพาะ

●   ย้ำอีกครั้งครับ… ฮอนด้าจะประกาศราคา Accord e:HEV ในวันอังคารที่ 17 ตุลาคม 2566 ผ่าน Live สดแบบออนไลน์ทางออฟฟิเชียล แอคเคาท์ Honda Thailand ทั้ง Facebook : Honda Thailand และ YouTube : Honda Thailand ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมแชทกับที่ปรึกษาการขายทางแบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซท์ : www.honda.co.th หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ : facebook.com/hondathailand หรืออี-เมล : [email protected] หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร : 02-341-7777 หรือติดต่อโดยตรงกับที่ปรึกษาการขาย ณ โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ●

หมายเหตุ : อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น, เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ และราคาประมาณการยังไม่รวมราคาสีพิเศษ (มุก)

2023 Honda Accord e:HEV (Thailand)