September 22, 2023
Motortrivia Team (10236 articles)

Wearnes Auto เปิดราคาจำหน่าย SUV ไฟฟ้า Lotus Eletre ในไทย

ภาพ : จันทนา เจริญทวี

●   เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ (Wearnes Automotive) ตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขาย Lotus Cars อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดราคาจำหน่ายรถครอสโอเวอร์ SUV พลังงานไฟฟ้า Lotus Eletre ในไทย ตัวรถนับเป็น SUV รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และเป็นรถรุ่นแรกของโลตัสที่ออกแบบโดย Geely Design Studio การผลิตมีขึ้นที่โรงงานของบริษัทแม่ (จีลี) ในประเทศจีน

●   เบื้องต้นการจำหน่ายในบ้านเราจะแยกเป็น 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วยรุ่นพื้นฐาน Eletre S ราคา 5,890,000 บาท และรุ่นท๊อป Eletre R ราคา 6,590,000 บาท กำหนดการส่งมอบรถจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 เป็นต้นไป

●   Lotus Eletre เป็นรถ SUV ตัวถัง 5 ประตูท้ายลาดสไตล์ Coupe-like ที่พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มความยืดหยุ่นสูงรุ่นใหม่ Electric Premium Architecture (EPA) ผลงานการออกแบบร่วมกันระหว่าง Geely Holding และ Daimler AG เพื่อผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ความยาวตัวรถอยู่ที่ 5,105 มม. รุ่นพื้นฐานกระจกมองข้างแบบธรรมดากว้าง 2,231 มม. ส่วนรุ่นที่ใช้กล้องแทนกระจกมองข้างกว้าง 2,135 มม. ความสูงอยู่ที่ 1,630 มม. และระยะฐานล้ออยู่ที่ 3,019 มม.

●   Eletre มากับกระจังหน้าแบบแอคทีฟซึ่งจะเปิดขึ้นเมื่อขับด้วย Track Mode, ชุดไฟหน้า Matrix LED, หลังคาพาโนรามิค, สปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟ, ล้อขนาด 23 นิ้วแบบ 5 ก้าน เคลือบผิวแบบ Diamond-turned (รุ่นมาตรฐานในไทยใช้ล้อขนาด 22 นิ้วแบบ 5 ก้าน), ระบบช่วยปิดประตูแบบนุ่มนวล และกระจก Privacy glass เพิ่มความเป็นส่วนตัว

●   ห้องโดยสารเลย์เอาท์ 4 ที่นั่ง ออกแบบโดยเน้นภาพลักษณ์ที่หรูหราและเรียบง่าย อุปกรณ์มาตรฐานมีจอ Head-up Display, มาตรวัดฟูลดิจิทัลแบบอัลตร้าไวด์, จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ทรงแท็บเลทแบบจอคู่ แยกการใช้งานออกจากกันได้ รันด้วยระบบปฏิบัติการ Lotus Hyper OS ประมวลผลด้วยชิปเซ็ทของ Qualcomm รองรับการอัพเดทแบบ OTA และรองรับการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี 5G ส่วนผู้โดยสารด้านหลังก็มีจอไซส์แท็บเลทให้ใช้งานเช่นกัน ปิดท้ายด้วยชุดระบบเสียงจากแบรนด์ KEF พร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos กำลังขับ 1,380 หรือ 2,160 วัทท์ พร้อมลำโพง 15 ตำแหน่ง หรือ 23 ตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

●   อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ประกอบด้วย ระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน พร้อมระบบควบคุมคุณภาพอากาศ, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple Carplay แบบไร้สาย, เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง, วัสดุตกแต่งเบาะผลิตจากเส้นใย Re-Fibre ที่รีไซเคิลจากขยะแฟชั่น, ชุดพรม Econyl ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100%, ชุดไฟแอมเบียนท์ไลท์หลายเฉดสี และกาบประตูเรืองแสง

●   ชุดระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All-wheel drive ส่งกำลังด้วยเกียร์ซิงเกิลสปีด direct-drive รุ่นพื้นฐาน Eletre S กำลังสูงสุดผลิตได้ 603 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที ส่วนรุ่นท๊อป Eletre R กำลังสูงสุดผลิตได้ 905 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ต่ำกว่า 3 วินาที ประสิทธิภาพในการลากจูงสูงสุด 2,250 กก.

●   การเก็บประจุไฟฟ้าเป็นหน้าที่ของแบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน โพลีเมอร์ ความจุประมาณ 112 กิโลวัทท์-ชม. รองรับกำลังไฟสูงสุด 800 โวลท์ ชาร์จเร็วจาก 10 – 80% ภายใน 20 นาที หากต้องการชาร์จแบบเร่งด่วน การชาร์จเพียง 5 นาทีจะช่วยเพิ่มระยะทางได้ประมาณ 120 กม. รุ่นพื้นฐาน Eletre S ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 600 กม. ส่วนรุ่น R ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 490 กม.

●   ช่วงล่างมากับระบบกันสะเทือนแบบแปรผัน ควบคุมด้วยระบบอิเลคทรอนิคส์, ระบบ ระบบ Lotus Intelligent Dynamic Chassis Control ช่วยควบคุมสเถียรภาพ, ระบบ Active Rear Steering ช่วยเลี้ยวล้อหลัง, ระบบกระจายแรงบิด และมีระบบเบรคคาร์บอนเซรามิค คาลิเปอร์ 6 ลูกสูบเป็นออปชั่นติดตั้งเพิ่มเติม

●   ชุดระบบช่วยขับใช้เซ็นเซอร์ LIDAR สำหรับตรวจจับวัตถุ ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ 34 ตำแหน่ง ประมวลผลด้วยชิป NVIDIA Orin-X จำนวน 2 ตัว ชุดระบบมีอาทิ ระบบ Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบ Driver Monitoring System แจ้งเตือนเมื่อผู้ขับเกิดอาการเหนื่อยล้าขณะขับ, ระบบช่วยจอด Visual Park Assist และระบบ Life Detection and Care ช่วยป้องกันการปล่อยเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถเมื่ออากาศร้อนจัด ไปจนถึงแจ้งเตือนหน่วยงานฉุกเฉินหากเกิดเหตุจำเป็น

●   ไฮไลท์สำคัญคือชุดระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ Level 4 ได้แก่ระบบ Highway Assist ช่วยควบคุมรถขณะเดินทางไกลในช่องทางของตัวเองเท่านั้น ไม่มีระบบเปลี่ยนเลนเพื่อช่วยแซง เริ่มทำงานที่ช่วงความเร็ว 30 – 150 กม./ชม. ทำให้การขับขี่ทางไกลง่ายดายขึ้น โดยจะช่วยบริหารความเร็วและจัดตำแหน่งรถยนต์ในช่องทางเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วระหว่าง 30-150 กม./ชม. ในขณะที่

●   ทั้ง 2 รุ่นมีออปชั่นตกแต่งเพิ่มเติมหลายรายการ อาทิ ชุดเบาะ Executive Seat Pack, ชุดเบาะ Comfort Seat Pack, อุปกรณ์เสริมที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์, ชุดตกแต่งภายในด้วยคาร์บอนไฟเบอร์, ชุดระบบ Parking Pack หรือชุดระบบ Highway Assist Pack เป็นต้น ซึ่งสามารถเลือกเฉพาะออปชั่นที่ต้องการจากแต่ละแพ็กเกจได้

●   สำหรับแพคเกจ Lotus Dynamic Handling Pack จะประกอบด้วยระบบ Intelligent Active Roll Control และ Active Rear Steering ส่วนแพคเกจ Carbon Pack จะมีชุดชิ้นส่วนตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์ ต่อด้วยยางสมรรถนะสูง Pirelli P Zero และการเคลือบล้อด้วยโทนดำเงา พร้อมเพิ่มโหมดการขับแบบ Track Mode สำหรับวิ่งแทร็คเดย์

คุณปรีติ ศรีสวัสดิ์ Brand Product Specialist โลตัส คาร์ ประเทศไทย (ที่ 2 จากซ้าย), นายธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนภูมิภาค บริษัท เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย (ที่ 3 จากซ้าย), คุณ Katya Zavialova_Head of South East Asia Pacific (ที่ 4 จากซ้าย)

●   นายธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนภูมิภาค บริษัท เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์โลตัสอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริษัท เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ รู้สึกยินดีที่ได้นำเสนอ Eletre สุดยอดไฮเปอร์เอสยูวีสู่นักขับชาวไทยเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการยานยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์มากขึ้น ซึ่งครอบคลุมทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางพักผ่อนในวันหยุด โดยยังคงมอบสมรรถนะการขับขี่ขั้นสุดและประสบการณ์สุดเร้าใจเสมือนกำลังพุ่งทะยานในสนามแข่งไปพร้อมกัน หากสิ่งที่แตกต่างคือความสะดวกสบายที่เหนือกว่าด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ อินโฟเทนเมนต์ และการเชื่อมต่อออนไลน์ที่คนยุคใหม่ต้องการ ทำให้เราเชื่อมั่นว่า Eletre จะเป็นเอสยูวีอีกหนึ่งรุ่นที่ครองใจลูกค้าโลตัสและนักขับในเมืองไทยอย่างแน่นอน”

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.lotuscars.com/en-th หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ : facebook.com/LotusCarsThailand หรือแอด LINE Official : @LOTUSCARSTH หรือ โทร. 092-342-4446        ●

Grand Opening : 2023 Lotus Eletre